มาตาลดา “To The Moon and Back”

เซย์ฮัลโหลลล ผู้อ่านทุกท่านค่ะ วันนี้เรามาพูดคุยกับเรื่องราวที่มีสาระและข้อคิดแบบจัดเต็มกันบ้างค่ะซึ่งวันนี้ทางเราข้อนำเสนอ ละครไทยน้ำดี ที่บอกเล่ามุมมองของกลุ่ม LGBTQ+ เรื่องราวการเลี้ยงดูลูกในเรื่อง  มาตาลดา  “To The Moon and Back”

จากนิยายขายดี 2 เล่มจบของ ‘ณัฐณรา’  กลายมาเป็นละครฟีลกู๊ด ฮีลใจ ใครหลายคนได้ตั้งแต่ตอนแรกที่ออกอากาศ ‘มาตาลดา’ หญิงสาวที่มาพร้อมแสงสว่างและสีสันสดใส แม่สาวโบฮีเมียนที่ซุ่มซ่าม ใสซื่อ บ้าบอแต่จริงใจแบบสุดโต่ง และเข้าใจโลกอย่างที่สุด 

จนหมอหนุ่มผู้เย็นชา และไม่ยินดียินร้ายต่อสิ่งใดอย่าง ‘ปุริม’ ผู้ที่โลกของเขาเต็มไปด้วยความอ้างว้าง หม่นเศร้า เกิดความอบอุ่นและเจิดจ้าขึ้นมาอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน 

ชื่อเรื่อง : มาตาลดา

บทประพันธ์ : ณัฐณรา

กำกับการแสดง : ปวันรัตน์ นาคสุริยะ

ดูมาตาลดาย้อนหลัง : ch3plus

นักแสดงนำ : เจมส์ จิรายุ, เต้ย จรินทร์พร

เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข รับหมอปุริม หรือชื่อเล่นเป็นหนึ่ง หมอศัลยแพทย์ผ่าตัดหัวใจและทรวงอก ที่ถูกครอบครัวกดดันให้ต้อง Perfect อยู่ตลอดเวลา ทำให้เขากลายเป็นคุณยิ้มยาก เย็นชา

เต้ย จรินทร์พร จุนเกรียติ รับบท มาตาลดา ชื่อเล่นมาตา สาวใสซื่อที่มองโลกในแง่ดี และใจดีเข้าใจทุกคนมีนิสัยที่แปลกสักหน่อย เพราะถูกเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่แตกต่างจากคนทั่วไป

วชิรวิชญ์ วัฒนภักดีไพศาล รับบท ไตรฉัตร มีนิสัยชอบเอาชนะ ขี้เก็ก ชอบเล่นเกมกับคนอื่นและอยากเอาชนะพระเอก ทั้งที่ใจจริงเป็นเด็กที่คอยถูกเปรียบเทียบเสมอ และลึก ๆ จิตใจดี แต่ที่บ้านหล่อหลอมให้กลายเป็นคนแบบนี้

Amanda Obdam รับบท คุณแพง อรุณรัศมี เธอเป็นคนเชิด ดูหยิ่ง ทำตัวเข้มแข็งตลอดเวลา ทั้งที่จริงเธอก็อ่อนแอเป็นเหมือนกัน

ชาย ชาตโยดม หิรัญยัษฐิติ รับบท เกริกพล หรืออีกชื่อ พ่อเกรซของทุกคน เป็นคนรักครอบครัว เพื่อนพี่น้องและรักลูกมาก เป็นคนที่ใจดีและสอนคนอื่นอย่างเป็นเหตุเป็นผล

หนังใหม่ Netflix “มาตาลดา” (เต้ย จรินทร์พร) ลูกสาวคนเดียวของ “เกริกพล” หรือ “เจ๊เกรซ” เจ้าของ The Cage บาร์ชื่อดังในพัทยา ที่หอบลูกสาวหนีมาอยู่ที่พัทยาตั้งแต่ยังเล็ก เพราะโดนพ่อและแม่ ไล่ออกจากบ้าน ตัดพ่อตัดลูก เพียงเพราะเขาไม่ใช่ผู้ชาย 

แต่มาตาลดานั้นกลับโตมาอย่างดีด้วยความรักจากพ่อเกรซ วีนัส, คิตตี้, โจลี และ เจนนี น้าๆในคณะโชว์ ครอบครัวที่ดูประหลาดๆ แต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังวิเศษมากมาย หนึ่งในนั้นคือพลังของความใจดี ที่มาตาลดาได้รับมันมาเต็มๆ

ทุกอย่างเหมือนกำลังไปได้ด้วยดี จนกระทั่งมาตาลดาขอย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยข้ออ้างสารพัด เกริกพลใจอ่อนยอมซื้อบ้านที่กรุงเทพฯให้ โดยที่ไม่รู้เลยว่า เหตุผลที่มาตาลดาอยากมาอยู่กรุงเทพฯ นั่นก็คือพาพ่อเกรซกลับไปหาอากงและอาม่าของเธอให้ได้ 

และ ก็ทำให้เธอได้เจอกับ “ปุริม” หรือ “เป็นหนึ่ง”ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอกที่อาศัยอยู่หมู่บ้านเดียวกันกับเธอ แต่เจอกันครั้งแรกมาตาลดาก็ทำน้ำร้อนลวกใส่ เจอครั้งถัดไปก็ทำเขาเลือดออก จนปุริมต้องขอให้อยู่ห่างๆ

 ก็เกือบจะห่างแล้ว แต่เจ้า “โอลีฟ” หมาจรจัดคู่ปรับมาตาลดาดันมาคลอดลูกอยู่ที่หน้าบ้านปุริม มาตาลดายุให้ปุริมรับเลี้ยงมันเอาไว้ โดยที่เธอจะช่วยเลี้ยงด้วย ปุริมที่อยากเลี้ยงหมามาตลอด แต่ถูกผู้เป็นพ่อห้าม แต่เธอทำให้เขาตัดสินใจเลี้ยงมันไว้อย่างไม่ลังเล

บุญฤทธิ์และ “ชนิดา” แม่ของปุริม พยายามจับคู่ปุริมกับ “อรุณรัศมี” ลูกสาวรัฐมนตรีที่แสนสวยและเพียบพร้อม อรุณรัศมีไม่ได้รังเกียจ แต่ปัญหาอยู่ที่ปุริม เขาไม่ได้สนใจเธอ

 แต่ก็ไม่ปฏิเสธ นั่นเพราะแม่ขอไว้ ชนิดามีน้องสาวอยู่หนึ่งคนคือ “ชุลีพร” เธอมีลูกชายหนึ่งคน ชื่อว่า “ไตรฉัตร” ผู้ซึ่งยิ้มแย้มตลอดเวลาผิดกับปุริม แม้ว่าแม่จะเอาเขาไปเปรียบเทียบกับปุริมมากแค่ไหน เขาก็เอาแต่ยิ้มรับ เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก 

พอรู้ว่าปุริมถูกจับคู่กับอรุณรัศมี ไตรฉัตรก็คิดแผนร้ายขึ้นมาทันที เขาจะแย่งอรุณรัศมีมาให้ได้ ยังไงเรื่องผู้หญิงเขาไม่มีวันพลาด แต่พอได้รู้ว่าตัวจริงของปุริมไม่ใช่อรุณรัศมีแต่เป็นมาตาลดา ไตรฉัตรก็เปลี่ยนเป้าหมายมาที่มาตาลดา คนที่ไม่เหมือนผู้หญิงคนไหนที่ไตรฉัตรเคยเจอมาก่อนเลย ดูหนัง4k

ทว่าอุปสรรคความรักของปุริมกับมาตาลดาไม่ใช่ไตรฉัตรหรืออรุณรัศมี แต่เป็นบุญฤทธิ์ที่พยายามกีดกันอย่างหนักเพราะมาตาลดาไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะสมกับลูกชายของเขา 

บุญฤทธิ์ยื่นคำขาดจนครอบครัวถึงขั้นแตกหัก ส่วนไตรฉัตรก็เจอปัญหาไม่ต่างกัน พ่อของเขาหนีไปกับเมียน้อยแถมเอาสมบัติของแม่ไปด้วย ชุลีพรไม่เหลือใคร

ท่ามกลางปัญหารุมเร้า พลังของความใจดีจะทำให้ทุกอย่างคลี่คลายได้หรือไม่ บทสรุปของทุกชีวิตและความรักของทั้ง 4 คน จะเป็นยังไง? 

ถือว่าเป็นละครสะท้อนชีวิตและสังคม ด้วยการนำเรื่องของการยอมรับในความต่างและคุณค่าของความเป็นมนุษย์มาเป็นแก่นของเรื่องนี้ แต่มาในมุมที่ซอฟต์ลงด้วยบรรยากาศของความเป็นดราม่าคอมเมดี้ ทั้ง ๆ ที่แก่นของเรื่องนั้นหนาหนักอยู่พอสมควร

ใหม่ในการนำเสนอ เพราะสิ่งที่มาตาลดาทำออกมา กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างและสร้างสรรค์กว่า ด้วยการนำความเป็นละครมาผสมผสานกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้วในชีวิตจริงแต่สังคมอาจมองข้ามไปได้

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ LGBTQ ที่ไม่ได้ถูกยอมรับอย่างแท้จริง ทั้งจากครอบครัว จากสังคมบางสังคม มันคือความจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในบางครอบครัว บางสังคม ยังยึดติดกับชุดความคิดเรื่องเพศสภาพ บางคนก็ปิดกั้นความเห็นต่างทำให้ขาดความรู้ความเข้าใจ ในการเป็นเพศทางเลือก 

หรือแม้แต่เรื่องของสิทธิอำนาจของในบางครอบครัว ที่ผู้ชายที่พ่อที่มีสถานะเป็นพ่อ เป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน หรือแม้แต่เรื่องของการเปรียบเทียบลูกฉัน ลูกเธอ และแข่งขันกันเองเพื่อคำว่าเหนือกว่า

-จิตใจของเราเจ็บป่วย แล้วไม่รู้จะรักษามันได้ยังไง สุดท้ายครอบครัวน่าจะเป็นคำตอบ แต่ครอบครัวก็ไม่ต้องเป็นครอบครัวที่ให้กำเนิดเท่านั้น เราสามารถหาครอบครัวที่เราเลือกเองได้ แล้วเราต่างก็เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กันและกันได้เช่นกัน

ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยมากๆเลยค่ะกับข้อคิดนี้สิ่งที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่สุดคงไม่พ้นครอบครัวของเราเอง ไม่ว่าจะเจอกับเรื่องอะไร เราก็จะมีแค่ครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้าง แต่ผู้เขียนก็ต้องขอบอกว่าไม่ใช่ทุกครอบครัวนะคะ ที่จะเป็นเซฟโซนให้กับเราได้

-อย่าลืมกลับไปหาพลังของความใจดีของเรา แล้วเอามันออกมาใช้บ่อยๆ

สำหรับผู้เขียนคิดว่าเราทุกคนมีพลังวิเศษนี้อยู่ในตัวกันหมดค่ะ แต่แปลกที่เรามักมองไม่เห็นและไม่เคยใช้พลังวิเศษนี้เลย 

-บาดแผลทุกบาดแผลต้องการการดูแลรักษา ความรัก และความสุขก็เช่นกัน

บาดแผลอาจจะรักษาหรือเยียวยาได้ด้วยการโอบกอดความรัก แต่ไม่ทุกแผลเสมอไปที่ความรักจะรักษาแผลนั้นให้หายดีได้ 

ถึงแม้ว่าละครเรื่องนี้โดยรวมแล้วจะเป็นละครฟีลกู๊ด แต่อย่างที่บอกในตอนต้นค่ะว่าละครเรื่องนี้สามารถทำให้คนดูน้ำตารื้นได้อย่างไม่รู้ตัว จะเข้าใจว่าทำไมมาตาลดาดาถึงเติบโตมาอย่างสดใสได้ขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ชีวิตครอบครัวไม่สมบูรณ์ ด้วยบทที่เขียนให้เกรซเป็นสตรีเหล็กที่มองโลกในเชิงบวกและเลี้ยงเด็กคนหนึ่งออกมาอย่างคนใจดี

สรุปว่ามาตลดาเป็นละครที่ฝีมือดีทั้งการเขียนบท การกำกับ การแสดง และองค์ประกอบการออกแบบ สไตล์การเขียน ในละครนั้นกระตุ้นความคิดและเกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคมในปัจจุบัน

และในส่วนของ ตัวละครและเคมีที่เข้ากันระหว่างนักแสดงที่ได้รับการพัฒนามาอย่างดี การออกแบบฉาก แสง เครื่องแต่งกาย การแต่งหน้า 

นอกจากนี้ การเป็นตัวแทนของละครและความหลากหลายของตัวละคร ความเกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคมในปัจจุบัน และความสำคัญทางวัฒนธรรม ทำให้ละครเรื่องนี้กลายเป็นสื่อที่สำคัญและมีผลกระทบ 

งานนี้ #มาตาลดาตอนจบ พุ่งติดเทรนด์ที่ 1 ทวิตเตอร์ประเทศไทยแบบข้ามคืน ซึ่งแฟน ๆ ได้แชร์โมเมนต์ที่ประทับใจจากตอนจบของเรื่องอยู่หลายตอน แต่ที่หลายคนพูดถึงก็คือการแสดงของ ชาย ชาตโยดม ที่รับบทเป็น พ่อเกรซ คุณพ่อซึ่งเป็น lgbtq+ ซึ่งเหล่านักแสดงก็ตีบทแตก จนแฟน ๆ น้ำตาไหลไปตาม ๆ กัน พร้อมบอกว่าอยากยกรางวัลให้เลย

ถือเป็นละครกระแสที่มีแฟน ๆ รอติดตามมาตั้งแต่ออนแอร์ อีกทั้งยังได้คำชื่นชมมากมาย ทั้งเรื่อง บท นักแสดง โปรดักชั่น งานนี้เมื่อถึงตอนจบก็มีแฟน ๆ และชาวเน็ตหลายคนยกให้เป็นละครน้ำดีแห่งปี 

อีกทั้งตอนจบยังทุบเรตติ้งสูงปรี๊ด หลังคว้าเรตติ้ง Bangkok สูงสุดถึง 10.11 เรตติ้งในกลุ่ม (Bangkok and Urban) หรือ 15+ BU ได้ไป 7.96 เรตติ้ง Nationwide พุ่งแรงถึง 5.10 ยอดดูสดออนไลน์ 1.41 ล้านคน