รีวิวหนังใหม่ ภาพหวาด

หนังสยองขวัญว่าด้วย คุณแม่ บ้านหลังเก่า และภาพวาดอาถรรพ์ ทั้งหมดโยงใยและเกี่ยวพันกันอย่างไร ความลับครั้งเก่ากำลังจะตามกลับมาหลอกหลอนตัวละครเอกของเรื่องอีกครั้ง ใน ภาพหวาด มาถึงคิวของหนังระทึกขวัญเรื่องล่าสุดที่ส่งตรงมาจากค่าย ซีจี เมเจอร์ ที่เป็นการร่วมทุนสร้างระหว่างไทย-เกาหลี กับ “Cracked ภาพหวาด” ที่ถือว่าเป็นหนังที่ได้ถ่ายทำแล้วเสร็จไปได้สักพัก แต่เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หนังต้องเลือนและหาฤกษ์ฉายใหม่จนถึงปัจจุบัน นี่คือผลงานที่หนังผีแบบไทยที่คลุกเคล้างานสร้างระดับสากลที่ดูดีมากยิ่งขึ้น แม้ว่าองค์ประกอบต่างๆ โดยเฉพาะโครงเรื่องจะยังค่อนข้างต้องปรับปรุงอีกเยอะก็ตาม ดูหนัง 

 

นี่เป็นผลงานหนังใหญ่เรื่องราวของผู้กำกับหนุ่ม “ท็อป-สุรพงษ์ เพลินแสง” ที่เก็บประสบการณ์จากแวดวงงานโฆษณามาหลายปี เมื่อต้องมาหยิบจับงานสร้างที่ใหญ่ขึ้นและวางรากเรื่องราวให้มั่นคงยิ่งขึ้น ดูเหมือนว่างานสร้างของเขาจะยังทำออกมาได้ไม่ค่อยลื่นไหลสักเท่าไหร่นัก แต่กระนั้นก็ต้องยกนิ้วให้กับองค์ประกอบโปรดักชั่นดีไซน์ที่นำมาใช้ในการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ เพราะช่วยยกระดับหนังผีไทยให้ดูมีความเป็นสากลเพิ่มขึ้น กับมุมมองและมุมภาพที่ค่อนข้างได้เห็นสักเท่าไหร่ ดูหนังออนไลน์ 

 

ทุกบ้าน ทุกครอบครัว ย่อมมีเรื่องเล่า ความลับที่ไม่อาจเปิดเผยให้คนภายนอกได้รับรู้ อาจเป็น ความขมขื่น สิ่งที่ไม่น่าจดจำจนเราอยากจะลืม หรืออดีตที่ไม่อาจหวนกลับไปแก้ไขได้อีก แต่หากคุณมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่จะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งนั้นคุณจะทำอย่างไร?? ภาพหวาด จะพาเรากลับไปเผชิญบ้านหลังนั้น บ้านที่เต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งความหลังที่แปรเปลี่ยนเป็นแรงอาฆาตจนอาจเล่นงานเราถึงตายได้ ดูหนัง 4k 

 

เดิมทีบทหนังของ ‘ภาพหวาด’ คือบทภาพยนตร์จากทางเกาหลีซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของการสร้างหนังภายใต้ชายคาของบริษัทอย่างซีเจ เมเจอร์ บริษัทร่วมทุนสร้างไทย-เกาหลีที่เคยมีงานภาพยนตร์มาแล้ว 4 เรื่อง และกับ ‘ภาพหวาด’ ที่บทภาพยนตร์ร่างแรก ๆ ได้นักเขียนบิ๊กเนมอย่าง เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ มาเริ่มโครงการดัดแปลงบทก่อนจะได้ทีมใหม่ทั้ง อรอุษา ดอนไสว, ปัญญ์ หอมชื่น และ สุรพงษ์ เพลินแสง ที่มารับหน้าที่ผู้กำกับภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกหลังสร้างชื่อจากวงการโฆษณา ดูหนังออนไลน์ 4k

รีวิวหนังใหม่ ภาพหวาด

หนังเริ่มต้นที่นิวยอร์กด้วยเสียงบทสนทนาระหว่าง รุจา (รับบทโดย แพต-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่พยายามโทรไปยืมเงินใครบางคนเพื่อนำมารักษาดวงตาของ ราเชล (รับบทโดย นีน่า-ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน) ลูกสาวตัวน้อยของเธอก่อนตาจะบอด หลังสิ้นไร้หนทาง ประตูห้องของเธอก็ถูกเคาะโดยคุณอา (รับบทโดย ปู-สหจักร บุญธนกิจ) ที่เรียกเธอให้กลับเมืองไทยเพื่อจัดการเรื่องมรดกที่พ่อของเธอทิ้งไว้ให้ก่อนตาย รีวิวหนังใหม่

และเป็นบ้านหลังเดิมที่เชียงใหม่ท่ามกลางบรรยากาศฉ่ำแฉะด้วยห่าฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่่งโดยหนึ่งในมรดกที่เธอจำต้องจัดการเพื่อขายต่อคือภาพ “Portrait of a Beauty” มูลค่ามหาศาลที่แอบซ่อนความทรงจำอันเลวร้ายภายใต้ชายคาบ้านของเธอแต่เมื่อภาพที่จะกลายเป็นทุนสำหรับผ่าตัดตาของราเชลเกิดความเสียหาย เธอจำเป็นต้องให้ช่างซ่อมแซมภาพ (รับบทโดย นิชคุณ หรเวชกุล) เข้ามาบูรณะให้สมบูรณ์แต่มรดกที่เธอกำลังได้รับอาจมาพร้อมความลับสุดสยองที่หลอกหลอนอยู่ในครอบครัวของเธอเอง

 

เรื่องราวของรุจา คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่กำลังอยากได้เงินจำนวนมหาศาล เพื่อพา เรเชล ลูกสาวที่กำลังใกล้ตาบอด เข้ารับการผ่าตัด ซึ่งทางเดียวที่เธอจะเงินมาได้คือการขายภาพวาดที่พ่อของเธอทิ้งไว้เป็นมรดก แต่ภาพวาดเหล่านี้เป็นอดีตที่ฝังใจและมีเรื่องราวที่เธอไม่อยากจดจำ แต่ด้วยภาพนั้นผ่านกาลเวลามายาวนานทำให้มันเกิดชำรุดและต้องซ่อมแซมก่อนที่จะขายมัน เธอจึงได้พบกับ ทิม ช่างซ่อมภาพวาด ที่จะมาซ่อมภาพนั้นให้สวยงามเหมือนเดิมแต่กลับพบว่า ภาพวาดนี้มีความสยองซ่อนอยู่และร่องรอยของภาพที่ชำรุดค่อยๆ หลุดล่อนให้เห็นความบัดสีที่เคยเกิดขึ้นกับครอบครัวของรุจา จนนำไปสู่แรงอาฆาตแค้นร้ายแรงที่เธอจะต้องเป็นผู้ชดใช้

รีวิวหนังใหม่ ภาพหวาด

ภาพรวมของเรื่องนี้ หนังรับใช้กับความเป็นหนังผี สยองขวัญได้อย่างเต็มเปี่ยม จังหวะของการปล่อยฉากระทึก ความน่ากลัว อัดแน่นเข้ามาแทบจะทุก ๆ 5 นาทีแบบไม่ให้พัก พร้อม ๆ ด้วย ซาวด์ดนตรีประกอบสุดหลอน ที่ต้องชื่นชมเลยว่ารังสรรค์มาได้น่ากลัวมาก ผัสสะทั้ง 5 สัมผัสได้ถึงตั้งใจประณีตกับส่วนนี้ จนสามารถช่วยบิ้วต์อารมณ์ผู้ชมให้ติดเพดานตลอดเวลา ไม่มีกราฟตก

เส้นเรื่อง มีทั้งส่วนที่ชอบมาก และส่วนที่คิดว่าน่าขยี้ได้อีกนิด อีกนิดน่า ใส่ให้สุดไปเลย ดิ่งให้สุด แนะนำว่า ผู้สนใจเข้าไปชมภาพหวาด ไม่ต้องอ่านเนื้อเรื่องอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ค่ายต้องการให้รู้ เพราะสิ่งที่เฉลยมาครึ่งหลังของหนัง จะไต่ระดับความพีค พีค ขึ้นไปเรื่อย ๆ อย่างไรก็ดี ในส่วนครึ่งแรกของหนัง ผีที่ออกจัดเต็ม แต่เส้นเรื่องกลับแทบไม่ค่อยเดินหน้าไปเท่าไหร่นัก หนังเฉลยเรื่องราวน้อยมาก เลือกที่จะไปอัดในครึ่งหลังทั้งหมด จนบาลานซ์ของการเล่าเรื่องไม่เท่ากัน

รีวิวหนังใหม่ ภาพหวาด

หนึ่งในจุดเด่นมาก ๆ ของ ‘ภาพหวาด’ คือการใช้งานศิลปะมาองค์ประกอบในการเล่าเรื่อง ทั้งการเป็นโมทีฟ (Motif) ที่ใช้ซ้ำ ๆ ในการเล่าเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยเฉพาะรอยแตกของภาพที่หนังค่อย ๆ ยั่วให้เราอยากรู้ปริศนาเบื้องหลังของมันอีกทั้งมันยังตอบโจทย์เรื่องราวอันเกี่ยวพันกับเรื่องราวในวัยเด็กของรุจา และเป็นวัยเด็กของรุจานี่เองที่ทำให้รู้สึกเลยว่าบทหนังเองก็แอบซ่อนการวิพากษ์เรื่องที่ไม่มีใครกล้าพูดในประเทศนี้ไว้ได้อย่างแนบเนียนไม่แพ้กัน

 

รุจา (แพต-ชญานิษฐ์) คุณแม่ลูกติด ที่กำลังเผชิญกับปัญหาครั้งสำคัญในชีวิต เมื่อลูกสาวอย่าง เรเชล (นีน่า-ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน) มีอาการลูกตาเสื่อมสภาพและจวนเจียนจะบอด สำหรับขั้นตอนการรักษานั้นต้องอาศัยเงินจำนวนมาก เหมือนรุจากำลังจะอับจนหนทาง แต่เมื่อ วิชัย (ปู-สหจักร บุญธนกิจ) เพื่อนสนิทของพ่อรุจา ได้แจ้งข่าวร้ายที่ว่า ปกรณ์ (ไบรอน บิชอฟ) ได้เสียชีวิตลง เป็นเหตุให้เธอต้องเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อไปจัดการซ่อมแซมภาพวาด Portrait of a beauty เพื่อขายให้กับเศรษฐี และนำเงินที่ได้มารักษาดวงตาของลูกสาวเธอ

 

แม้ว่าบทหนังเองจะไม่ได้ใหม่มาก แต่พรหมแดนบางอย่างหนังก็กล้าข้ามได้อย่างน่าชื่นชมโดยเฉพาะประเด็นปิตาธิปไตย เมื่อครอบครัวอยู่ใต้อำนาจของชายบ้าคลั่งที่เอาศิลปะมาเปฺ็นข้อต่อรองทั้งการเป็นศิลปินหาเงินมาเลี้ยงครอบครัวและผู้สร้างสรรค์งานที่คุกคามสวัสดิภาพในชีวิตซึ่งหากมองให้ลึกแล้วเปลี่ยนบริบทจาก “ศิลปินใหญ่” มาเป็น “คนใหญ่คนโต” และวีรกรรมที่เป็นที่ร่ำลือกันแล้วล่ะก็ความสยองคงไม่ได้หมายถึงเพียงเรื่องราวบนจอเท่านั้น ซึ่งก็ต้องอาศัยประสบการณ์ว่าคุณ “เก็ต” กับสิ่งที่หนังพยายามบอกหรือเปล่าเท่านั้นเอง

รีวิวหนังใหม่ ภาพหวาด

เมื่อเธอเดินทางกลับไปยังบ้านกลางป่าลึก ซึ่งเก็บกุมความทรงจำอันเลวร้าย ที่ดูเหมือนตัวรุจาเองก็ไม่อยากจะจดจำความหลังสักเท่าไหร่ จนกระทั่งเธอได้พบกับ ทิม (นิชคุณ หรเวชกุล) ศิลปินหนุ่มนักซ่อมภาพที่ต้องมาซ่อมแซมรอยร้าวที่ปรากฏอยู่บนภาพวาด ทว่าเมื่อทั้งสองคนพยายามแก้ไขมันเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าอำนาจลึกลับบางอย่างก็เริ่มคุกคาม พวกเขามากเท่านั้น จะว่าไปหนังอย่างภาพหวาดนั้น อาจจะไม่ใช่พล็อตที่ดูห่างไกลคอหนังสยองขวัญนัก เมื่อตัวเอกเป็นคุณแม่ผู้โชคร้าย อับจนหนทางจนต้องเดินทางกลับไปเผชิญหน้ากับความทรงจำครั้งเก่าอันแสนเลวร้าย ด้วยสภาวะจนตรอกที่บีบให้เธอต้องพบกับความลึกลับที่ตามมาหลอกหลอน คุกคามชีวิตเธอนั้น จริงๆแล้วเกี่ยวพันกับความลับของครอบครัวรุจาเองนั่นแหละ

 

จุดอ่อนหลักๆ ของ Cracked ภาพหวาด ก็ยังคงเป็นจุดอ่อนเดิมๆ ของวงการหนังไทย นั่นก็คือ บทภาพยนตร์ ที่ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่ใดๆ ให้กับผู้ชมเลย โครงเรื่องค่อนข้างซ้ำซากและสัมผัสมาก่อน แม้ว่าจะยังพอมีหนทางกลั่นกรองเรื่องออกมาให้ดูสนุกได้ แต่น่าเสียดายที่หนังยังคงค่อนไม่ประสบความสำเร็จในการเล่าเรื่องสักเท่าไหร่ แม้ว่าหนังจะมีความยาวแค่ชั่วโมงนิดๆ แต่กลับให้กับรู้สึกที่เยิ่นเย้อและยาวนานหนังหมดเวลาไปกับการเกริ่นเรื่องยาวไปเป็นชั่วโมง หลังจากนั้นจึงค่อยมาขมวดปมแบบสรุปรวบรัดที่เต็มไปด้วยความพยายามเกินไป การใช้ความพยายามในหนังเรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่บั่นทอนตัวหนังได้อย่างชัดเจน หนังพยายามจะฉีกทิศทางและเล่าเรื่องไปถึงจุดที่ควรจะพีคที่สุด แต่กระนั้นก็กลับกลายเป็นว่าหนังแทบจะไม่มีอะไรเป็นที่น่าจดใจได้สักเท่าไหร่ เป็นความสยองน่าขนลุกแบบประเดี๋ยวประด๋าว และไม่มีอะไรให้เก็บไปคิดต่อเมื่อออกมาจากโรงหนังเลย

 

ยิ่งไปกว่านั้นหนังยังให้รุจาเป็นตัวแทนของคนในสังคมไทยที่พอมาคิดดูก็ชวนเจ็บแสบไม่น้อยเลย เพราะด้วยประโยค “ถ้าเราทำเป็นไม่เห็นมัน มันก็ทำอะไรเราไม่ได้” ซึ่งแม้ประโยคนี้จะมีโผล่มาในตัวอย่างแต่ตัวหนังจริงบอกได้เลยว่าประโยคนี้แทบจะทำให้เราเห็นภาพความรุนแรงในสังคมไทยที่เราได้แต่ทำเป็นหลับตาแล้วคิดเสียว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นหรือที่บรรดากลุ่มผู้ประท้วงในสังคมไทยเรียกว่า “พวกอิกนอร์แรนซ์” นั่นแหละ ซึ่งก็ทำให้ความสยองของ “ภาพหวาด” มีมิติด้านสังคมการเมืองแบบเปรียบเปรยหรืออัลเลอร์กอรี (Allegory) ได้อย่างน่าสนใจ

 

และอีกองค์ประกอบที่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีเด่นและยอดเยี่ยมที่สุดของหนังก็คือ การแสดงของ 2 นักแสดงหญิง “แพต-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช” ที่ถือว่าปล่อยของและฉายแสงได้เจิดจรัสสุดๆ ในหนังเรื่องนี้ นับว่าเป็นอีกบทบาทที่ท้าทายและงานหินของเธอทีเดียว ซึ่งเธอก็สามารถแบกรับและถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี ชนิดที่สามารถเข้าไปจองที่รอลุ้นรางวัลนักแสดงนำหญิงบนเวทีต่างๆ ได้เลยทีเดียว ทั้งอารมณ์และวิธีการการแสดงของเธอ เผยให้เห็นว่านี่คือนักแสดงมืออาชีพ

ส่วนอีกคนที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ “น้องนีน่า-ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน” นักแสดงเด็กลูกครึ่งที่โชว์ศักยภาพทางการแสดงได้อย่างน่าทึ่ง เกินกว่าที่ผู้ชมจะคาดคิด และจะไม่ประหลาดใจเลยที่น้องจะสามารถเข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบหญิงจากเรื่องนี้ไปได้อีกคน ในขณะที่ “นิชคุณ หรเวชกุล” ที่น่าเสียดายไปสักหน่อย บทที่เขาได้รับนั้นแม้ว่าจะมีมิติแต่กลับเต็มไปด้วยความพยายามในการสวมบทบาทไปสักหน่อย จึงทำให้การแสดงของเขาออกมาได้แค่ระดับมาตรฐาน ที่ไม่ได้แย่ แต่ก็ยังไม่ดีที่สุด และบทหนังก็มีส่วนบั่นทอนตัวเขาไปด้วย เพราะเขายังไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์นั้นๆ ออกมาได้ถึงจุดที่ต้องการ เห็นแค่เพียงความพยายามอย่างเดียว

 

แต่แล้วความน่าสนใจของหนังก็ค่อย ๆ เกิดรอยร้าวรอยรั่วที่ลุกลามไปเรื่อย ๆ ด้วยท่าบังคับของการเป็นหนังผีทั้งความตุ้งแช่ที่มาพร่ำเพรื่อ และที่สำคัญคือปมที่ปูไว้ตอนต้นอย่างการหาเงินไปรักษาตาของลูกก็ดูจะกลืนหายเหมือนสีที่ถูกขูดออกจากภาพ “Portrait of a Beauty” จนยอมรับเลยว่ามันเกือบทำให้หนังเป๋ ๆ ไปบ้างเหมือนกันในช่วงกลางเรื่อง แต่แล้วตัวหนังก็กลับมาทำคะแนนได้อีกครั้งในองก์สุดท้ายที่ผู้กำกับแทบจะเดิมพันหมดหน้าตักพลิกผันจากดราม่าสยองขวัญกลายเป็นทริลเลอร์ได้แบบวัดไปเลยว่าคนดูจะชอบหรือชัง แต่ที่แน่ ๆ คืออย่างน้อยตอนจบของหนังก็เมกเซนส์พอสำหรับปมต่าง ๆ ที่ปูมาแม้ว่าจะมีบางปมหนังยังเล่าไม่เคลียร์และตัดจบไปอย่างน่าเสียดายก็ตาม