รีวิว ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง

 

‘เปิ้ล นาคร ศิลาชัย’ และ ‘เป้ นฤบดี เวชกรรม’ (สาระแนห้าวเป้ง, LOW SEASON สุขสันต์วันโสด) กลับมาอีกครั้งกับหนังอภิมหาการแกงแห่งปี เมื่อพวกเขาต้องมารับหน้าที่สอนวิชาความเป็นไอดอล พร้อมกับวิชา “แกง” ให้กับ CGM48 ป๊าเปิ้ลจึงเชิญ 4 ซูเปอร์สตาร์ตัวเป้งของวงการบันเทิงไทย มาร่วมสอนวิชาไอดอลให้กับน้อง ๆ แต่แล้วพวกเขาก็โดน “ซ้อนแผนแกง” ในแบบห้าวเป้งที่ไม่มีสคริปต์ ไม่มีคัต มีแต่เตี๊ยม ดูหนัง 

 

ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง เป็นภาพยนตร์ไทยที่ว่าด้วยกลุ่มไอดอล CGM48 ที่กำลังฝึกฝนเพื่อเดบิวต์ครั้งแรก แต่ในระหว่างการฝึกฝนนั้น พวกเธอกลับต้องเจอกับเหตุการณ์แปลกประหลาดมากมาย พร้อม ๆ กับการมาของเหล่าไอคอนตัวพ่อ ไม่ว่าจะเป็น แจ็ค แฟนฉัน, น้าเน็ก, ยังโอม, กันต์ กันตถาวร และหมอปลา ที่จะมาแกงน้อง ๆ แต่หารู้ไม่ว่าพวกเขาทั้งหมด ก็โดนซ้อนแผนโดยไม่รู้ตัวเสียอย่างงั้น ดูหนังออนไลน์ 

 

หลังจากที่ห่างหายกันไปนาน เปิ้ล นาคร แท็กทีมกับ เป้ นฤบดี อีกครั้งกับการสร้างหนังแกงคนที่ไม่รักไม่แคนดิตอย่าง “ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง” โดยเล่าเรื่องผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ของวงไอดอลน้องสาว BNK48 อย่าง CGM48 โดยมี แจ๊ค แฟนฉัน, น้าเน็ก, กันต์ กันตถาวร, Youngohm ที่มาร่วมแกงกันในครั้งนี้  ถ้าใครคาดหวังว่าเรื่องนี้จะกลับไปแกล้งคนให้สุดเหมือน “สาระแนห้าวเป้ง” เมื่อ 12 ปีก่อนก็อาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่นะ เพราะถ้าเทียบระดับการแกล้งในเรื่องนี้แทบจะเรียกว่า พอหอมปากหอมคอ ไม่แกล้งกันแรงเท่าไหร่สำหรับบางคน เลยทำให้กราฟดูน่าเบื่อไปนิดถ้าใครหวังว่าจะดูคนโดนแกล้งอย่างเดียว ดูหนัง 4k 

รีวิวหนังใหม่ ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง

หลังจากที่หนังเรียลลิตี มูฟวีเรื่องแรกอย่าง ‘สาระแนห้าวเป้ง’ (2552) ออกฉาย ก็ดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีหนังที่มีแนวการแกล้งกันออกมาให้เห็นเลย แน่นอนว่าด้วยกระแสข่าวก็ส่วนหนึ่ง แม้ ‘เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย’ และผู้กำกับคู่บุญเพื่อนซี้ ‘เป้-นฤบดี เวชกรรม’ ก็หมั่นทำหนังออกมาเรื่อย ๆ ทั้ง ‘สูบคู่กู้โลก’ (2555) หรือหนังโรแมนติกคอเมดี้ผสมผีอย่าง ‘Low Season สุขสันต์วันโสด’ (2563) แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้เฉียดใกล้กับหนังแนวแกง (แกล้ง) ที่พวกเขาเคยทำในอดีตสักเท่าไหร่ ดูหนังออนไลน์ 4k

 

13 ปีต่อมา หลังจากความสำเร็จของ ‘สาระแนห้าวเป้ง’ ‘ป๊าเปิ้ล นาคร’ YouTuber สายฮา และ ‘พี่เป้-นฤบดี’ ที่เพิ่งประสบความสำเร็จกับการกำกับภาพยนตร์ ‘Low Season สุขสันต์วันโสด’ อยู่ดี ๆ ก็ขอกลับมารีเทิร์นสู่เส้นทางแห่งการแกงอีกครั้ง พร้อมชักชวน 4 ตัวเป้งวงการบันเทิงทั้ง ‘แจ็ค แฟนฉัน’ ‘น้าเน็ก’ ‘กันต์ กันตถาวร’ ‘ยังโอมและเพื่อน ๆ ‘รวมพลเป็น ‘ขบวนแกง’นำเอาความรู้และประสบการณ์ระดับห้าวเป้ง ไปสอนให้กับน้อง ๆ สมาชิกวงไอดอลน้องใหม่หมาด ๆ อย่าง ‘CGM48’  รีวิวหนังใหม่

 

ด้วยความที่การแกล้งครั้งนี้เป็นสไตล์ “ไม่รักไม่แคนดิต” สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูน่ารักขึ้นไปอีกก็คือการมีอยู่ของ CGM48 ซึ่งแต่ละช็อต หรือแต่ละเรื่องที่ถูกเล่าในหนังทำให้เรารู้สึกเอ็นดู น่ารัก เอาใจช่วย ความอิหยังวะ ฯลฯ จนรู้สึกว่า แฟนๆ CGM48 อาจจะชอบและหลงรักวงนี้มากขึ้นก็ได้ นอกจากนั้นระหว่างทางในการแกล้ง ก็ได้เห็นมุมมองของแต่ละคนที่ถูกเชิญมาให้สอน ให้การฝึกกับสมาชิก CGM48 ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดูไปก็อมยิ้มไปเรื่อยๆ นะ

 

ว่าด้วยความรู้สึกหลังดู คงต้องบอกว่านี่เป็นหนังแคนดิดที่พอจะให้กลิ่นอายของรายการทีวีสมัยก่อนอย่างสาระแนโชว์ขึ้นมาบ้างครับ ทั้งวิธีการแอบถ่ายโดยไม่รู้ตัว การสร้างสถานการณ์ที่แปลกประหลาด รวมถึงการได้เห็นภาพรีแอ็คชั่นของเหยื่อ โดยไม่มีสคริปต์ ก็ให้ความดิบความสด และทำให้เราอยากรู้ว่าเหยื่อที่โดนแกล้ง จะรับมือกับเหตุการณ์นั้นอย่างไร

 

รีวิว ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง

ทางด้านการดำเนินเรื่องอาจจะไม่ซับซ้อนมาก ตัวหนังจะให้ CGM48 เป็นแกนกลางหลักของเรื่อง โดยมีพี่ ๆ คอยมาเสริมมาแกล้งน้อง ๆ ให้พอมีสีสัน แต่ด้วยความเป็นหนังแคนดิดหนังแกงคน มันควรจะเพิ่มความตื่นเต้น หรือให้ความสนุกได้มากกว่านี้ เพราะสิ่งที่เห็นในหนังคือการแกงในระดับ “เบา ๆ” พอให้ขำนิดหน่อย หรือบางฉากก็ทำให้รู้สึกว่า “มีแค่นี้เองเหรอ!” ก็เป็นอะไรที่น่าผิดหวังพอสมควร ในเรื่องของความห้าวเป้ง การแกงแบบอลังการตามที่โปรโมทไว้ แต่กลับกลายเป็นว่าทุกสิ่งทุกอย่าง มันแทบจะอยู่ใน Trailer หนังจนเกือบหมด แถมไม่พอระดับความแรงในการแกล้งก็เบาบาง เหมือนหยอกกันเสียมากกว่าครับ

 

แน่นอนว่าพอเป็นการกลับมาบนถนนสายแกงในรูปแบบภาพยนตร์ของพี่เปิ้ล และพี่เป้ หลายคนคงคาดหวังในใจลึก ๆ แน่นอนว่า จะสามารถสู้ได้เทียบเท่าหรือฮาสะใจได้เทียบเท่ากับที่เคยทำไว้ในอดีตหรือไม่ แม้ว่าทั้ง 2 เรื่องเป็นหนังที่บันทึกการแกล้งกันแบบจัดหนักจากสถานการณ์จริง ผสมสถานการณ์เซ็ตถ่ายอินเสิร์ตอีกเล็กน้อย แต่สิ่งที่แตกต่างจาก ‘สาระแนห้าวเป้ง’ อย่างชัดเจน คงเป็นเรื่องของน้ำหนักในการแกล้งกัน และวิธีการเล่า Situation การแกงในรูปแบบต่าง ๆ ให้ออกมาลงตัวนี่แหละครับ

 

แต่ถ้ามองในมุมของคนที่ไม่รู้จักวง CGM48 ก็อาจจะงงๆ นิดหน่อย เพราะหนังให้เราได้ทำความรู้จักกับวง รวมถึงระบบของ 48 Groups แบบรวบรัด ซึ่งก็ถือว่าโอเคนะ และที่เหลือก็คือติดตามต่อในหนังเรื่อยๆ

สรุปแล้ว หนังเรื่องนี้เหมือนแกงโฮะที่รวมๆ หลายๆ อย่างแบบนัวๆ ทั้งการแกล้งคน และการติดตามชีวิตของเหล่า CGM48 จนสุดท้ายแล้ว ห้าวเป้งจ๋าอย่าแกงน้อง ก็คล้ายๆ หนังสารคดีอารมณ์ดีที่มีการแกล้งกันพอเป็นสีสันให้กับเรื่องนี้

 

 ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง

ในขณะที่ ‘สาระแนห้าวเป้ง’ คือหนังแคนดิตดิบ ๆ ที่มุ่งเน้นการแกล้ง 2 หนุ่มพนักงานใหม่ ซึ่งเป็นการแกล้งที่ค่อนข้างเน้นผลลัพธ์ทางภาพยนตร์มากกว่า

พูดง่าย ๆ ก็คือ เน้นแกล้งฮา ๆ ให้สะใจ และเพิ่มความแรงในการแกล้งไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีเกรงใจเพื่อเน้นอารมณ์ให้หนักหน่วงขึ้น ทั้งฮา เศร้า เครียด ฯลฯ แถมยังเป็นหนังที่แกล้งกันแบบแมน ๆ แรง ดิบ สด ที่เป็นภาพลักษณ์ห้าว ๆ ห่าม ๆ สไตล์สาระแนอยู่แล้ว

 

รีวิวหนังใหม่ ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง

 

เพราะหนังเรื่องนี้มีความเป็นสารคดี กึ่งหนังแนว Candid Camera ที่สร้างสถานการณ์ในการแกง และการถูกแกงแบบห้าวเป้งสไตล์พี่เปิ้ล ที่มีการสร้างสถานการณ์การแกงเข้าไปสอดแทรก

คอหนังตัวยงที่หวังว่า อยากดูหนังสไตล์ห่าม ๆ ตลก ๆ แกล้งแรง ๆ แบบพี่เปิ้ล อาจไม่ถูกรสถูกชาติกับการแกงสไตล์พี่เปิ้ลในยุคนี้ ที่คราวนี้เน้นความฟีลกู๊ด มีการวางการแกงให้กับน้อง ๆ และพี่ ๆ ดาราที่มาสอนน้อง ๆ มากกว่าจะเป็นแกงแบบขยี้ซ้ำ ๆ หรือแกล้งให้เคือง เพื่อหวังผลลัพธ์ความฮาแบบสะใจ

 

แต่ใน ‘ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง’ นั้น ต้องบอกและออกตัวแรง ๆ ดริฟต์เบิร์นล้อไหม้ก่อนเลยนะครับว่า ถ้าจะดูเพื่อหวังว่า พี่เปิ้ลจะคิดอะไรแรง ๆ เพื่อแกล้งน้อง ๆ หรือแม้แต่แกงพี่ ๆ และหวังว่าจะได้ลูกฮาจากความโกรธเคือง หรือโดนแกล้งจนร้องไห้ หรือไม่ก็แกล้งกันแบบเฉียดตายแบบพี่หม่ำ จ๊กม๊ก ในตำนาน คงต้องให้เวลาทำใจนะครับ

 

รีวิวหนังใหม่ ห้าวเป้งจ๋า อย่าแกงน้อง

 

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ ทำให้หนังเรื่องนี้อาจไม่ได้เป็น ‘หนังตลก’ จากการแกล้ง เหมือนอย่างที่เราเห็นจากหน้าหนังเสียทีเดียว แต่ยังมีความเป็น ‘สารคดี Senpai’ ที่ฉายให้เห็นเรื่องราวการต่อสู้ของน้อง ๆ CGM48 ที่มีความแตกต่าง

สนุกสนาน ดูได้เพลิน ๆ ไม่ดึงดราม่า เป็นสารคดีตามติดชีวิตน้อง ๆ ในช่วงแรกที่เข้าวง โดยเฉพาะอุปสรรคเพี้ยน ๆ แปลก ๆ ที่เข้ามาแกงน้องแบบหยอก ๆ ในสไตล์ “สอนไป แกงไป” ที่ทำให้ได้เห็นรอยยิ้ม

น้ำตา การต่อสู้ และมิตรภาพของน้อง ๆ และเลือกไปแกงแรง ๆ กับพี่ ๆ ดาราทั้ง 4 คนซะมากกว่า