รีวิวหนังใหม่ Restless คนซวยซ้ำซาก

RESTLESS | Sans Répit| ตาย ตาไม่หลับ (2022) ผลงานของผู้กำกับชื่อดังชาวฝรั่งเศส Régis Blondeau เรื่องราวของ โธมัส บลัง (Franck Gastambide) ตำรวจหนุ่มที่ถูกสืบสวนเพราะมีข่าวลือเกี่ยวกับการทุจริต ระหว่างรีบร้อนเดินทางไปงานศพคุณแม่ที่เพิ่งจากไป เผลอขับรถชนคนบนถนนจนเสียชีวิต เพื่อทำการปกปิดความผิดนี้เขายอมทำเรื่องที่คนทั่วไปไม่ควรทำ ตำรวจยิ่งแล้วใหญ่ เรื่องราวยิ่งแย่ลงไปอีก เมื่อเหตุการณ์รถชนมีพยานรู้เห็น และพยานไม่อยู่เฉย กลับโทรขู่เรียกร้องเขาไม่หยุด มันยิ่งทำให้เขาถลำลึกลงไปเรื่อย ๆ  สุดท้ายแล้วโธมัสจะสามารถปกปิดความผิดที่เขาทำไว้ได้หรือไม่ ดูหนัง 

 

โธมัส บลัง ร้อยโทตำรวจที่เพิ่งสูญเสียคุณแม่ กำลังเดินทางอย่างเร่งรีบเพื่อไปให้ทันงานศพ แต่แล้วเขาก็ชนเข้ากับคนๆ หนึ่งจนเสียชีวิต ด้วยความที่ไม่อยากมีปัญหาแม้ว่าตัวเองจะเป็นตำรวจ เขาเลยทำการอำพรางศพนั้น แต่แล้วก็ได้มีสายโทรศัพท์ปริศนาโทรเข้ามา เริ่มขู่เขาเกี่ยวกับเรื่องศพนั้นจนชีวิตของเขาปั่นป่วนมากยิ่งขึ้น เขาต้องหาให้ได้ว่าคนที่โทรมาคือใคร ต้องการอะไร และคนที่เขาบังเอิญขับรถชนนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้กันแน่ ดูหนังออนไลน์ 

 

 

ภาพยนต์เรื่องนี้ ต้นฉบับมาจากเกาหลี ชื่อเรื่องว่า The Hard Day แผนล่าคนลวง (มีให้ดูใน Monomax) พล็อตเรื่องทุกอย่างเหมือนกันเป๊ะ แค่เปลี่ยนจากเกาหลีเป็นฝรั่งเศสเท่านั้นเอง แต่ทว่าการรีเมคครั้งนี้ ได้ตัด ลดทอน สิ่งต่างๆ จากต้นฉบับ ทำให้เวอร์ชั่นฝรั่งเศสนั้นกลายเป็นหนังรีเมคดาดๆ เรื่องหนึ่งเท่านั้น  เรื่องราวโดยรวมจะถูกขับเคลื่อนด้วยความตลกร้ายของตัวเอก ที่เป็นตำรวจกังฉิน แอบรับสินบน ทำเรื่องสีเทาๆ แต่ยังไม่ได้ก้าวขาเข้าไปด้านมืดเต็มตัว ประสบอุบัติเหตุจนชนคนๆ นึงเข้าอย่างจังจนตาย ไม่รู้จะทำอย่างไรก็เลยแบกศพเอาไปจัดการฝังไว้พร้อมกับแม่ตัวเองที่เพิ่งเสีย หวังว่าเรื่องจะเงียบ แต่เปล่าเลย  ดูหนัง 4k 

 

กลับมีคนปริศนาที่โทรมาขู่เขาเกี่ยวกับเรื่องศพนั้น จนทำให้โธมัสต้องหาทางรอดจากเหตุการณ์นี้ให้ได้ แถมทั้งยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัด โดนเพื่อนตำรวจสงสัยอีก หนีทั้งความผิดตัวเอง หนีคนแบล็กเมล์ ยังต้องหนีจากตำรวจด้วยกันเองอีก RESTLESS ตาย ตาไม่หลับ (2022) เป็นภาพยนตร์รีเมกจากออริจินัลเวอร์ชั่นเกาหลีเรื่อง A Hard Day แผนล่าคนลวง (2014) ที่ได้ อีซอนคยุน รับบทเป็นตำรวจ ซึ่งนี่ไม่ใช่การรีเมคครั้งแรกเพราะมันเคยถูกสร้างมาแล้วในเวอร์ชั่นจีน Peace Breaker (2017) กัวฟู่เฉิงเป็นพระเอก และเวอร์ชั่นฟิลิปปินส์ A Hard Day (2021) สำหรับเวอร์ชั่นฝรั่งเศสตัวโครงเรื่องยังคงเดิม มีความเหมือนเวอร์ชั่นเกาหลีเกือบทั้งหมด ต่างกันตรงรายละเอียดบางจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าใครชอบเวอร์ชั่นเกาหลี เวอร์ชั่นนี้ยิ่งสนุกเข้มข้นขึ้นไปอีก ดูหนังออนไลน์ 4k

 

พล็อตเรื่องที่บอกไปข้างต้นนั้น การดำเนินเรื่องมันก็ปาไปเกือบครึ่งเรื่องแล้วกว่าจะดำเนินเนื้อหาหลักๆ พระเอกต้องตามสืบให้ได้ว่าใครที่โทรมาขู่เขา แล้วศพนั้นที่เขาชนตาย ก็เซอร์ไพรส์กลายว่าเป็นคนค้ายาที่หน่วยเขาตามสืบหาอีกทีอยู่ ด้วยองค์ประกอบพวกนี้มันเลยเกิดเหตุการณ์แนวๆ ตลกร้ายตามมา ซึ่งตรงนี้ก็จะมีฉากที่พระเอกต้องพยายามหาวิถีทางกำจัดศพ หรือความผิดที่ตัวเองไปก่อไว้ให้ได้ก่อน รีวิวหนังใหม่

 

ในช่วงแรกของเรื่องนำเสนอได้ไม่ค่อยปะติดปะต่ออะไรสักเท่าไหร่ ไม่ได้มีการปูมาว่าพระเอกเป็นใครอะไรยังไง จะทำอะไรต่อไป ซึ่งพล็อตหลักๆ ที่จะทำให้คนดูเข้าใจภาพรวมคือเกือบๆ 40-50 นาทีเลย ซึ่งหนังก็พยายามทำให้เราคล้อยตามและเชื่อในสิ่งที่ตัวละครทำ อย่างการนำศพที่พระเอกบังเอิญฆ่า ไปฝังพร้อมกับแม่ตัวเองที่เพิ่งเสีย เขาก็ต้องหาทางนำศพไปไว้ในโลงแม่ตัวเองด้วยการใช้ทั้ง ลูกโป่ง ทหารจิ๋วแบบวิทยุบังคับ มันบ้าบอมาก แต่ก็ถือว่าทำออกมาใช้ได้เลยฉากพวกนี้

รีวิวหนังใหม่ Restless คนซวยซ้ำซาก

แฟรงค์ เกสตอมบีค | Franck Gastambide รับบทเป็น โธมัส บลัง นายตำรวจสีเทา หย่าร้างกับภรรยา มีลูกสาวหนึ่งคน เพราะอุบัติเหตุเลยพยายามปกปิดความผิดของตนเอง หลายคนน่าจะคุ้นหน้าและรู้จัก Franck Gastambide มาจากหนังบู๊สุดฮาสัญชาติฝรั่งเศส TAXI ซึ่งเขาได้แสดงในภาค 5 (TAXI 5 2018) เรียกว่าเป็นนักแสดงที่เหมาะกับบทบู๊ หน้าตาและหุ่นของเขาช่างเหมาะกับบทตำรวจซะเหลือเกิน และแฟรงค์แสดงออกมาได้มันมาก ทั้งฉากต่อสู้มือเปล่า หรือวิ่งหนี ขับรถหนี

 

แต่ปัญหาอย่างแรกของหนังเรื่องนี้เลยก็คือ ตัวเอก ที่เป็นตำรวจแบบ ดื้อๆ ทื่อๆ หัวคิดขี้โกง ไม่มีความรับผิดชอบชั่วดี พูดง่ายๆ คือเป็นตำรวจเลวนั่นแหละ มันเหมือนกับว่าเรากำลังดูคนเลวๆ ที่พยายามทำเลวเพิ่มขึ้น เพื่อปกปิดเรื่องเลวที่ตัวเองก่อ เอากองขยะมาถมขยะอีกที นั่นเลยทำให้เรื่องมันไม่น่าสนใจ เพราะอย่างที่บอกว่า มันไม่ได้มีการปูบทตัวพระเอกมาดีพอ แถมฉากต่อๆ ไปก็เดาได้เลยว่าจะไปยังไงต่อ

 

พระเอกตามสืบ สืบไปเจอตัวการ ง่ายๆ แบบนั้นเลย และปัญหาของตัวเอกคือบุคลิก ที่เป็นเหมือนคนประเภทแบบแข็งแกร่ง อารมณ์ทำหน้าเข้มๆ แบบดอมทอเร็ตโต้ในเดอะฟาสเลย แต่เจอซ้อมง่ายๆ แล้วก็นั่งร้องไห้ มีการเอาตุ๊กตาของเล่นมาอำพรางศพแบบแปลก โกหกหน้าตายเนียน สรุปแล้ว personallity ของตัวพระเอกที่หนังต้องการให้เป็นนี่คืออย่างไรกันแน่

 

 

เป็นหนังแอ็คชั่น เกี่ยวกับนายตำรวจที่ทำเรื่องผิดศีลธรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า สมกับชื่อเรื่องภาษาฝรั่งเศส Sans Répit แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Without Respite คือทุ่มไปให้สุดไม่มีหยุดพัก และหนังก็ทำออกมาได้สมชื่อเรื่องจริง ๆ  บทดีงามเข้าใจคิด รายละเอียดเริ่ด ทั้งตัวลูกโป่ง ทหารของเล่นG.I. Joe ยันไปถึงไอเดียระเบิด ทุกอย่างใส่มาได้อย่างลงตัวเพิ่มความเข้มข้นให้กับตัวหนัง ถึงจะไม่เหมือนกับของเกาหลีทั้งหมด แต่ก็ทำแบบฉบับฝรั่งเศสออกมาได้สนุก ดูมันทั้งเรื่อง แต่ก็ยอมรับว่ามีหลายจุดดูแล้วไม่น่าเป็นไปได้ เช่นขนาดเชือก หรือเวลาในการทำภาระกิจ มันดูไม่น่าจะทำสำเร็จทันเวลา แต่กระนั้น มันก็ช่วยเพิ่มความลุ้นระทึกให้อย่างไม่น่าเชื่อ

 

ปัญหาที่สองคือ หนังมันไม่รู้ที่จะเอาตัวเองไปอยู่ในหมวดหมู่อะไร แอ็กชั่นทริลเลอร์ก็ได้แค่ส่วนหนึ่ง มีต่อยตีต่อสู้สามฉากถ้วน สืบสวนก็ได้อีกนิดหนึ่ง พล็อตรวมๆ มันตลกร้ายก็ได้หน่อยนึง สะเปะสะปะจนมันไม่ได้โฟกัสองค์รวมของเรื่องเหมือนกับต้นฉบับของเกาหลี ที่มันจะดำเนินแบบสืบสวนตลกร้ายไปเลย แถมยังนำเสนอดราม่าตัวละครที่ช่วยเสริมให้ตัวเอกมีความน่าสนใจและน่าเอาใจช่วยนิดหนึ่ง แต่เวอร์ชั่นฝรั่งเศสนี้ องค์ประกอบพวกนั้นกลับหายไปจนต้องบอกตามตรงว่า ไม่อินกับพระเอกคนนี้มากๆ

 

และปัญหาอีกอย่างของหนังเรื่องนี้ คือการนำมารีเมค ก็ควรที่จะทำให้ดีเทียบเท่า หรือดีกว่า ไม่ใช่นำมารีเมคแล้วลดทอนหลายๆ สิ่งออก มันเลยทำให้การดำเนินเรื่องดูเก่า เก่าในที่นี้หมายถึงว่ามันไม่ได้แตกต่างจากหนังสูตรสำเร็จ ที่สร้างมาแล้วเป็นร้อยๆ พันๆ เรื่อง แค่เปลี่ยนตัวละครเป็นตำรวจเลวหัวโล้นที่กำลังปกปิดการกระทำโง่ๆ ของตัวเอง ยิ่งทำให้เรื่องไม่น่าสนใจ แถมตอนเฉลยปมก็ไม่ได้พลิก หักมุม ชวนว้าวอะไรด้วย แต่เวอร์ชั่นต้นฉบับมันพยายามจะสื่อถึงการคอรัปชั่นในวงการตำรวจเกาหลี เวอร์ชั่นฝรั่งเศสนี่คือไม่ได้เลยจริงๆ

 

 

ยิ่งดูหนังเรื่องนี้ไปมันเลยยิ่งมีคำถามในหัวว่า ทำไมเราต้องเอาใจช่วยไอ้หมอนี่ด้วย? ขาดการปูบทในส่วนตัวเอกที่สำคัญมากๆ ของเรื่อง แถมยังดำเนินเส้นเรื่องในแบบที่ทำกันมาเป็นร้อยๆ พันๆ ครั้งจากหนังเรื่องอื่น ทั้งเดาได้ง่ายและน่าหงุดหงิดว่า รีเมคมาเอ็งจะไม่ให้มันแปลกใหม่หรือแตกต่างหน่อยเลยหรือยังไง ทำได้ไม่สุดทางไหนสักทางหนึ่ง ไปหาเวอร์ชั่นต้นฉบับดูยังจะสนุกกว่าเสียอีก

 

อีกอย่างที่น่าหงุดหงิดคือฉาก Jumpscare ที่ไม่รู้จะใส่มาเพื่ออะไร เป็นฉากที่พระเอกกำลังสืบหาข้อมูลในที่มืดๆ แล้วก็เปิดลิ้นชัก เจอหมา แล้วเสียงก็ดังแผ๊ม คือการเจอหมานี่จะหลอกคนดูให้ตกใจทำไม ไม่เข้าใจจริงๆ คนดูที่ไม่ได้ตั้งตัวนี่สะดุ้งโหยงกันแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้มันไม่ได้มีสัญญาณว่าหนังมันจะมีอะไรแบบนี้ด้วยเลย

 

เป็นหนังรีเมคที่ทำได้แย่กว่าต้นฉบับ ขาดการปูบทในส่วนตัวเอกที่สำคัญมากๆ ของเรื่อง แถมยังดำเนินเส้นเรื่องในแบบที่ทำกันมาเป็นร้อยๆ พันๆ ครั้งจากหนังเรื่องอื่น ทั้งเดาได้ง่ายและน่าหงุดหงิดว่า รีเมคมาเอ็งจะไม่ให้มันแปลกใหม่หรือแตกต่างหน่อยเลยหรือยังไง ทำได้ไม่สุดทางไหนสักทางหนึ่ง ไปหาเวอร์ชั่นต้นฉบับดูยังจะสนุกกว่าเสียอีก เป็นหนังที่ดูสนุก ลุ้นมันตลอด การันตีด้วยการรีเมกจากหนังออริจินัลเวอร์ชั่นเกาหลี ซึ่งรีเมกมาแล้วถึง 3 เวอร์ชั่น (รวมเวอร์ชั่นนี้ด้วย) ถึงจะมีบางฉากที่ดูแล้วอาจคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่โดยรวมไม่แย่ ไม่เสียเวลาดู สำหรับเวลา 96 นาที เป็นอะไรที่มันต่อเนื่อง สนุก ควรค่าแก่การดู