รีวิวหนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

 

 

ชื่อเรื่อง : Jurassic World Dominion (จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร)

ผู้สร้าง : โคลิน เทรวอร์โรว์

ความยาว : 147 นาที

วันที่ฉาย : 8 มิถุนายน 2022

ระบบเสียง : เสียงไทยและบรรยายไทย

ช่องทางการรับชม : วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

Jurassic World Dominion จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร หนังใหม่ ภาคต่อที่พอดูได้ และเน้นแต่แฟนเซอร์วิส บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า

 

เรื่องย่อ จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

ภาคนี้ถือเป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ จูราสสิคเวิลด์ โดยในภาคนี้เรื่องราว 4 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในภาคก่อน ที่ไดโนเสาร์ได้หลุดออกมาจากเกาะ และได้มาอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ เปิดเรื่องมาจะให้เราได้เห็นปัญหาของการอยู่ร่วมกัน เพราะไดโนเสาร์บางสายพันธ์นั้นดุร้าย และโจมตีมนุษย์ ทำให้มีมนุษย์ถูกไดโนเสาร์สังหารอยู่บ่อยครั้ง ในด้านของ โอเว่น (คริส แพรตต์), แคลร์(ไบรซ์ ดัลลัส)และไมซี่ ล็อกวู้ด(อิซาเบลลา เซอร์มอน) รีวิวหนังใหม่

 

รีวิวหนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

 

เด็กสาวจากภาคที่แล้ว ซึ่งเธอถูกสร้างขึ้นมาจากวิทยาศาสตร์ เธอถูกหมายหัวและมีคนอยากจับเธอไปทดลอง ทำให้พวกเขาทั้ง 3 คน ต้องหนีไปอาศัยกันอยู่ในป่าที่ห่างไกล จนมาวันหนึ่ง ไมซี่ ได้ถูกกลุ่มคนปริศนาจับตัวไป ทำให้ โอเว่น และแคลร์ ที่รักไมซี่เหมือนลูกสาวแท้ๆ ต้องออกเดินทางไปยังศูนย์วิจัยไดโนเสาร์ เพื่อไปช่วยไมซี่กลับมา สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไร พวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

มาเริ่มรีวิวกันก่อนดีกว่า ส่วนตัวผมเดินเข้าโรงไปด้วยความไม่คาดหวังอะไรเลยเพราะดูจากคะแนนก็มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบผมเลยอยากเปิดใจให้สบายๆ ไม่ต้องอคติว่ามันจะแย่ หรือคาดหวังว่ามันจะออกมาดีและความรู้สึกหลังจากดูจบ ผมรู้สึกว่ามันก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียวและอาจมีหลายคนที่ชอบด้วย คืออยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งพูดตามตรงมันก็ค่อนข้างหน้าเสียดาย เพราะภาค 2 จบไว้แบบปลายเปิดพอสมควร มีประเด็นมากมายที่ให้เล่นได้ แต่หนังดันโฟกัสผิดจุด

 

รีวิวหนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

 

มาเริ่มที่เรื่องบทกันก่อนเลย จูราสสิค พาร์ค 3 ผมมองว่าภาคนี้บทเยอะแยะและโฟกัสไปผิดทางมากๆ ดันไปเน้นที่เรื่องตั๊กแตนบุกโลกซะงั้น มันไม่ได้แย่มากหรอกนะแค่มันไม่ค่อยจะเกี่ยวกับไดโนเสาร์เท่าไหร่เพราะคนที่ไปดูเพราะอยากดูไดโนเสาร์ เรื่องนี้ถือว่าพลาดมากๆ และไปให้ความสำคัญกับเรื่องตั๊กแตนมากที่สุดด้วย เลยอาจทำให้หลายคนไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ อีกเรื่องที่ไม่ค่อยเวิร์ค คือการเกลี่ยบท คือมันโฟกัสไปที่ตัวละครหลายตัวมากตัดไปตัดมา ให้ความสำคัญเท่าๆกัน หนังมันเลยดูแบบราบไปนิด และให้อารมณ์เหมือนดูซีรีส์มากกว่าหนัง ในช่วงแรกๆนะ มารู้สึกว่าเป็นหนังคือตอนท้ายๆเลย ที่ทุกคนมารวมกันแล้ว

 

ด้านต่างๆในหนัง

ด้านการดำเนินเรื่อง ส่วนนี้ก็อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ถึงกับดี แต่ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว เน้นเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ และบทที่ไปโฟกัสตั๊กแตนก็ไม่ค่อยน่าติดตามเท่าไหร่ มีหลายช่วงที่น่าเบื่อและแอบหลับไปเหมือนกัน อาจจะด้วยที่บทมันไม่ค่อยน่าติดตาม และการบิ้วที่ไม่ทำให้เรารู้สึกลุ้นด้วยแหละมั้ง มันเลยรู้สึกเปื่อยๆ เรื่อยๆ ยังไงไม่รู้ ส่วนนี้ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่ก็พอรับได้ ต่อมาด้านการแสดง ส่วนนี้ถือว่าดีที่สุดแล้ว

นักแสดงทุกคนแสดงได้ดีตามเหมือนภาคที่ผ่านๆมา และยังสมทบด้วยนักแสดงชุดเก่าอีก 3 คน ทั้ง 3 คนนี้ก็กลับมาเฉิดฉายจริงๆและเพราะการกลับมาของ 3 คนนี้ก็ส่งผลให้บทมันเยอะเกินไปด้วย เพราะผู้กำกับตัดสินใจที่จะให้ทั้ง 3 คนนี้ กลับมาในฐานะตัวหลักๆ ไม่ใช่แค่บทสมทบ คือมีเส้นเรื่องเป็นของตัวเองเลย เด่นพอๆกับ พระเอกและนางเอกเลย น่าเสียดายจริงๆ ไม่น่าตัดสินใจแบบนี้เลย ยังดีที่มีแฟนเซอร์วิสมาให้พอหายเซ็งบ้าง

 

รีวิวหนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

 

ด้านงานภาพ งานภาพยังถือว่าทำได้ดี ในที่นี้คือหมายถึงมุมกล้องต่างๆ เทคนิคการถ่ายทำ และการเกลี่ยสีภาพ พวกนี้ทำได้ดีหมดจะเสียก็แค่เรื่อง CGI เพราะตัวไดโนเสาร์ค่อนข้างลอยลอยแบบเห็นได้ชัดเลยซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเป็นแบบนี้ หนังระดับนี้ น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะภาคก่อนๆ งาน CG ก็ดีกว่านี้นะ อาจจะด้วยปัญหาหลายอย่างแหละมั้งเนื่องจากหนังเลื่อนฉายมาหลายครั้งเพราะโควิด เลยอาจทำไม่ทัน ส่วนในด้านของการโปรดักชั่น

 

CG ของเรื่องนี้ปังมาก

ส่วนนี้ยังคงจัดหนักจดเต็มเหมือนเดิม ดีงามเหมือนทุกภาคที่ผ่านมา เสียแค่ CG นั่นแหละ การตัดต่อ เสียงประกอบต่างๆยังมีความเป็นแฟรนไชส์ จูราสสิคอยู่ มาถึงเรื่องฉากที่ชอบกันบ้างฉากที่ดีที่สุดคงจะเป็นฉากที่ตัวละคร แคลร์ (ไบรซ์ ดัลลัส) โดดลงมาจากเครื่องบิน และคลายหนีไดโนเสาร์ลงน้ำ ฉากนั้นดูลุ้นที่สุดแล้ว ส่วนฉากไดโดนเสาร์สู้กันตอนท้ายนี่ ไม่น่าจดจำเอาซะเลยธรรมดามากๆ สรุปโดยรวมคือ พอดูได้ สนุกเพลินๆ ดูก็ได้แต่ถึงไม่ดูก็ไม่ได้พลาดอะไรไป มีดีที่แฟนเซอร์วิสแบบจัดเต็ม ดังนั้นใครที่เป็นแฟนตัวยงของ Jurassic Park ก็ควรไปดูอยู่ ได้เห็นตัวละครเก่าๆที่เรารัก กลับมาโลดแล่นก็ถือว่าคุ้มแล้วท้ายสุดนี้ผมขอให้คะแนน Jurassic World Dominion จูราสสิคเวิลด์ ไว้ที่ 6.5/10 คะแนน

หลังจากเหตุการณ์ จูราสสิคเวิลด์เข้าวันไหน ใน ‘Jurassic World 2: Fallen Kingdom’ (2018) ถือเป็นสัญญาณแห่งการเริ่มต้นของบทสรุปไตรภาคไดโนเสาร์ครองโลกใน ‘Jurassic World Dominion’ (2022) หรือ ‘จูราสสิคเวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร’ ภาพยนตร์ภาคที่ 3 ของไตรภาคจูราสสิค เวิลด์ (Jurassic World) และภาพยนตร์ลำดับที่ 6 ในจักรวาลจูราสสิค นับตั้งแต่ที่ภาพยนตร์ภาคแรก ‘Jurassic Park’ (1993) ออกฉายเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้วโน่น

 

 

แต่กว่าที่น้องบลู และเหล่าไดโนเสาร์จากยุคจูราสสิกจะได้กลับมาโลดแล่นกันในปีนี้ ตัวหนังก็ถือว่าต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากพอสมควร ทั้งกระแสจากภาคที่แล้ว ‘Jurassic World 2: Fallen Kingdom’ (2018) ผลงานการกำกับของ ‘เจ. เอ. บาโยนา’ (J. A. Bayona) ที่ได้คะแนนมะเขือเน่าจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes เพียงแค่ 47% ต่ำที่สุดในบรรดาแฟรนไชส์จูราสสิก พาร์ก แม้จะทำรายได้ค่อนข้างดี แต่พอออกทรงลูกผีลูกคนขนาดนี้ อาจารย์ปู่ ‘สตีเวน สปีลเบิร์ก’ (Steven Spielberg) Executive Producer เจ้าของแฟรนไชส์ เลยเรียกตัว ‘โคลิน เทรวอร์โรว์’ (Colin Trevorrow) ผู้กำกับจาก ‘Jurassic World’ (2015) กลับมากำกับในภาคนี้อีกครั้ง ตัวอย่าง จู รา ส สิ ค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

 

รีวิวหนัง จูราสสิค เวิลด์ ทวงคืนอาณาจักร

อีกอุปสรรคใหญ่ยิ่งกว่าน้อนไดโนเสาร์กิแกนโนโตซอรัส (Giganotosaurus) ก็คือ ช่วงเดือนมีนาคม 2020 กองถ่ายต้องหยุดถ่ายทำทั้งที่เพิ่งเปิดกล้องไปได้แค่ 13 วัน เพราะการระบาดของโควิด-19 ทีมงานเลยต้องทำงานโพสต์โปรดักชัน และงานด้านวิชวลเอฟเฟกต์กับฟุตเทจที่ถ่ายมาได้ไปพลาง ๆ และจำต้องยอมเลื่อนกำหนดฉายจากเดิมที่วางแผนฉายในปี 2021 ออกไปอีก 1 ปีเต็ม จู รา ส สิ ค เวิลด์ ล่าสุด

 

 

สถานการณ์เริ่มคลี่คลายในเดือนกรกฏาคม 2020 ทางยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ (Universal Studios) จึงยอมควักเงินอีก 5 ล้านเหรียญสำหรับเซ็ตมาตรการความปลอดภัย ถือว่าเป็นกองถ่ายแรก ๆ ที่กลับมาเริ่มถ่ายทำอีกครั้งหลังการระบาดครั้งใหญ่ เริ่มตั้งแต่การร่างเอกสารคู่มือมาตรการจำนวนนับร้อยหน้า แจกให้กับนักแสดงและทีมงานทุกคน มีจุดตรวจคัดกรอง มีห้องฉุกเฉินในกองถ่ายกรณีพบผู้ติดเชื้อ นักแสดงและทีมงานจะต้องกักตัวในโรงแรมที่ยูนิเวอร์แซลเช่าไว้ทั้งอาคารเพื่อใช้เป็นบับเบิลที่ควบคุมอย่างเข้มงวด