รีวิวหนัง ทรานส์ฟอร์เมอร์ส อภิมหาสงครามแค้น

รีวิวหนัง ทรานส์ฟอร์เมอร์ส อภิมหาสงครามแค้น

 

 

วันนี้แอดมินขอมารีวิว หนังใหม่netflix สนุกสนานๆอีกเหมือนเคย กับภาพยนตร์ภาคต่อของ transformers prime season 2 พากย์ไทย เต็ม เรื่อง ภาคแรกที่ได้ออกฉายไปเมื่อปี 2007 รวมทั้งมาถึงภาคนี้หนังได้ออกฉายในปี 2009 มาในชื่อเรื่องว่า Transformers : Revenge of the Fallen อภิมหาสงครามแค้น ถือว่าเป็นภาคต่อที่หลายท่านตั้งตารอ และก็ตั้งตัวเป็นสาวกออปว่ากล่าวมัลไพร์มกับบับเบิลบีกันคนจำนวนไม่น้อย ภายหลังจากภาคแรกออกฉายรวมทั้งเห็นผลตอบรับออกมาอย่างยอดเยี่ยม

ไม่เคยรู้ว่าภาคต่อจะทำออกมาก้าวหน้าเท่าภาคแรกไหม กับหนังหุ่นยนต์ต่างดาวแปลงกายได้ภาคสองนั้น โดยได้ผู้กำกับคนเดิมอย่าง ไมเคิล เบย์ มาสร้างผลงานภาคต่ออีกที และก็กลุ่มผู้แสดงคนเดิมคนมีชื่อเสียงอย่าง ไชอา ลาบัฟ, เมแกน ฟอกซ์, ไทรีส กิบสัน, หน้าจอช เดอเมล แล้วก็กลุ่มผู้แสดงผู้อื่นอีกเยอะมาก มาร่วมสร้างสันผลงานดีๆให้พวกเราได้รับดูกัน โดยภาพนตร์เรื่องนี้ยังได้คะแนนจากเว็บรีวิวหนังหลายๆเว็บในทางที่ดี รวมทั้งได้คะแนนจากเว็บ IMDb ไปถึง 6.0 คะแนนอย่างยิ่งจริงๆ

 

เรื่องย่อ

หลังจากเหตุการณ์ที่มีหุ่นยนต์ต่างดาวมาเยือนโลกครั้งก่อนและทำสงครามกันระหว่างสองสายพันธ์นั้น ได้ผ่านเวลามาแล้ว 2 ปี ที่หุ่นยนต์ออโต้บอทและแซมได้ช่วยโลกไว้จากดิเซปติคอน ต่อมาเหล่าหุ่นยนต์ออโต้บอทได้ร่วมมือกับมนุษย์เพื่อตามล่าและกำจัดพวกดิเซปติคอนที่ยังหลงเหลืออยู่ทุกมุมโลก แซม วิทวิคกี้ เด็กหนุ่มที่ร่วมช่วยกู้โลกไว้ก็ยังคงต้องดำเนินชีวิตความเป็นวัยรุ่นต่อไป เขาต้องเข้าต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งและต้องห่างจากมิเคร่าแฟนสาวสุดเซ็กซี่ไป แล้วยังมีเพื่อนคู่ใจอย่างบับเบิลบีหุ่นยนต์ออโต้บอทที่อยู่กับแซมมาตลอด ซึ่งแซมก็ต้องจำใจบอกลาและทิ้งทั้งสองไปเรียนต่างเมือง โดยแซมนั้นมีเป้าหมายการใช้ชีวิตแบบเด็กหนุ่มธรรมดาเท่านั้น ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

 

ขณะเดียวกันอาจารย์ของเมกะตรอน นามว่าฟอลเลนเป็นผู้ก่อตั้งดิเซปติคอน (เมกะตรอนเป็นตัวร้ายจากภาคที่แล้วถูกสังหารและนำไปทิ้งไว้ที่ก้นทะเลลึก) ต้องการให้เมกะตรอนฟื้นคืนชีพ ได้สั่งให้ลูกน้องนำชิ้นส่วนของสแครปเปอร์เพื่อใช้ในการปลุกเมกะตรอนไปที่ใต้ทะเล ลูกน้องทำสำเร็จและมันก็ถึงเวลาที่สงครามกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง

แซมยังใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย เขาพยายามอย่างที่สุดที่จะไม่ให้ใครรู้เรื่องหุ่นยนต์ต่างดาว โดยที่เค้าไม่รู้เลยว่าสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์ได้เริ่มขึ้นอย่างเงียบๆ แล้ว เล่าเรื่องมาถึงตรงนี้ก็ขอบอกว่าทั้งหมดที่เอ่ยมาเป็นเพียงการเริ่มเรื่องเท่านั้น หลังจากนี้ยังมีเนื้อหาอีกมากมายให้เราได้รับชมและตื่นเต้นลุ้นระทึกไปกับเหล่ามนุษย์ที่มีมิตรสหายเป็นหุ่นยนต์ต่างดาว ต้องไปรับชมกันนะคะ

 

รีวิวหนัง ทรานส์ฟอร์เมอร์ส อภิมหาสงครามแค้น

หลังจากได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบลง แอดมินยังคงรู้สึกถึงความสนุกตื่นเต้น เหมือนอย่างที่ได้เคยสัมผัสเมื่อครั้งดูภาคแรกจบ หนังมีการบอกเล่าเรื่องราวมากขึ้น ถึงที่มาที่ไปทำให้เราเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น เอฟเฟคภาพเสียงยังคงกระหึ่มเร้าใจเหมือนเดิมในความรู้สึกแอดมิน ฉากแปลงร่างที่เคยว่าตระการตาเมื่อภาคที่แล้ว ภาคนี้กลับดูแล้วตระการตาน้อยลง อาจเป็นเพราะเคยเห็นและคุ้นตากับภาคที่ไปแล้วก็ได้ หนังใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง

 

 

แต่เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ บทมีการแทรกมุขเข้ามาตลอดเวลา ดูแล้วเพลิดเพลินหัวเราะขำไปหลายฉาก ฉากแอคชั่นมันส์ และทำให้ลุ้นระทึกไปด้วยได้ตลอด เสียงกระหึ่มตู้มต้ามสะใจ ปืนเล็ก ปืนใหญ่ ระเบิด ใส่มาให้เต็มๆ เอาเป็นว่าฉากแอคชั่นยังคงมีเหมือนเดิมแต่ข้อเสียสำหรับแอดมินอยู่ที่ฉากต่อสู้ของเหล่าหุ่นยนต์ต่างดาวนั้นดูไม่ออกมองยากจนไม่รู้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน ต้องดูจนการต่อสู้จบถึงจะรู้ฝั่งออโต้บอทหรือดิเซปติคอน ซึ่งก็สามารถมองข้ามได้เมื่อได้ดูฉากแอคชั่นบู๊แหลก เอาเป็นว่าเรื่องนี้ควรค่าแก่การรับชมเป็นอย่างยิ่ง

 

บทส่งท้าย

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังคงสร้างความน่าจดจำให้กับคนดูมากมาย แม้จะความสนุกจะสู้ภาคแรกไม่ได้ แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี และสร้างมาด้วยทีมงานคุณภาพเยี่ยมหลายท่าน ถ้าแอดมินให้คะแนนก็ขอให้คะแนนอยู่ที่ 8.5/10 ยังคงเป็นภาพยนตร์ชุดที่น่าสนใจและน่าติดตาม การันตีด้วยรายได้กว่า 27,673 ล้านบาททั่วโลก หากใครยังไม่ได้รับชมและชอบหนังแนวนี้ บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะเรารีวิวหนังสนุกๆ ทรานฟอร์เมอร์ 7

เพื่อความบันเทิงและเป็นข้อมูลก่อนการรับชมจริงๆ ไปร่วมลุ้นถึงบทสรุปว่าจะเป็นอย่างไรกันได้ แซมและมิตรสหายต่างดาวจะสามารถช่วยก้อบกู้โลกไว้อีกครั้งได้หรือไม่ รับชมได้ใน Transformers : Revenge of the Fallen อภิมหาสงครามแค้น และเว็บไซต์รีวิวหนังมากมายก็ให้คะแนนความบันเทิงของภาพยนตร์เรื่องนี้ไว้ดีมาก สำหรับวันนี้แอดมินต้องขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่กับการรีวิวหนังปี 2021

 

 

หลังจากรอมาหลายวัน ในที่สุดก็ได้เข้าโรงไปชมด้วยตาตนเองมาเสียที กับภาพยนตร์ฟอร์มสุดยักษ์ที่มีผู้รอคอยอย่างล้นหลาม โรงเต็มตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ โรงนั้น คือ โรง IMAX ครับ และภาพยนตร์เรื่องนั้น คือ Transformers : Revenge of the Fallen

ด้วยความที่เขาโปรโมตว่า จะมี 4 ฉากบ้าง 6 ฉากบ้างที่เพิ่มขึ้นมาพิเศษ และมีให้ดูเฉพาะในโรง IMAX เท่านั้น และด้วยความที่อยากดูหนังในโรง IMAX มานานแล้ว ในที่สุด ก็ตั้งใจไว้ว่า เรื่องนี้จะขอเข้าไปลิ้มรสประสบการณ์ในแบบจอใหญ่ๆ ซะที แม้มันจะเป็นแค่ DMR ก็ตาม ทรานฟอร์เมอร์ 2022

 

รีวิวหนัง ทรานส์ฟอร์เมอร์ส อภิมหาสงครามแค้น

สงครามบนโลกมนุษย์ได้ยุติลง แต่ทว่าสงครามในห้วงจักรวาลนั้นเพิ่งจะเริ่มต้น หลังจากการกลับมาถึงไซเบอร์ทรอน สตาร์สครีมได้รับคำสั่งของเจ้าแห่งฝ่ายดีเซปติคอนส์ และได้ตัดสินใจกลับมาบุกรุกโลกพร้อมกองกำลังจักรกลสังหาร ฝ่ายออโต้บอทส์ ที่เชื่อมั่นในสันติภาพได้พบว่า ซากหุ่นที่ถูกทำลาย ของเมกาทรอนได้ถูกขโมยไปจากกองทัพสหรัฐฯ โดยสคอร์ ฟิน็อกซ์ และทำให้คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง ตอนนี้เมกาทรอนจึงกลับมาเพื่อแก้แค้น พร้อมสตาร์สครีมผู้ภักดี และกองทัพจักรกลสังหารฝ่ายดีเซฟติคอนส์ที่เดินทางมาสมทบอีกจำนวนมาก มหาสงครามแค้นครั้งนี้จึงเป็นงานใหญ่สำหรับฝ่ายออโต้บอทส์ ที่จะต้องรับศึกอันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะคาดคิดได้

อย่างที่บอกครับว่าผมโอเคกับบทมากขึ้น เพราะพล็อตภาคนี้ง่ายกว่าภาคที่แล้วมากโขเลย ไม่ได้มีซับพล็อตที่อิรุงตุงนังเหมือนภาคแรก ก็แค่”มีหุ่นเจ้าพ่อตัวร้าย อยากจะแก้แค้น” แค่นั้น ถามว่ามันง่ายไปมั้ย ก็มีนิดนึงครับ แต่ว่าหนังแนวนี้ก็ไม่ได้จำเป็นต้องมีพล็อตรองเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องมีบทที่เข้มข้นและตามหลักความจริง แค่มีอะไรที่เซอร์วิซคนดูได้ก็โอเคแล้ว อันนี้ป๋า Bay คิดถูกแล้วครับ เพราะบทภาคนี้ดูเหมือนเขียนโคลงมาดี

เอาประเด็นมานำเสนอได้น่าสนใจว่าบทสรุปมันจะเป็นเยี่ยงไร แล้วประเด็นเหล่านี้จะส่งผลถึงภาคต่อๆ มาหรือไม่ แต่เหมือนว่า Bay ไม่ได้หยิบเอาประเด็นเหล่านี้มาเล่าเป็นเรื่องเป็นราว(อีกแล้ว) และก็แทนที่ด้วยฉากแอคชั่น ซึ่งภาคนี้มีเยอะขึ้นครับ มีประมาณ 70% เห็นจะได้ ซึ่งผมว่ามันเยอะขึ้นก็น่าจะโอนะ เพราะหนังชุดนี้มันเน้นแอคชั่นอยู่แล้ว

 

 

แต่กลับกลายเป็นว่าส่วนของแอคชั่นในภาคนี้กลายเป็นส่วนเกินและก็ข้อเสียของหนังครับ

ช่วงต้นๆ ประมาณ 10 นาทีแรกของหนัง ผมชอบนะครับ เพราะฉากแอคชั่นมันเท่ห์มาก หุ่นหลายตัวที่เพิ่มเข้ามาดูน่าสนใจ ปริมาณฉากต่อสู้พอดิบพอดีเหมือนภาคแรก แต่หลังจากนั้นฉากแอคชั่นก็มีมาแทบทุกๆ 20 นาทีเลยครับ เดี๋ยวก็คุยกัน แล้วก็จู่ๆ ก็มีระเบิดตู้มต้ามๆ แล้วก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนจบ เอาจริงๆ แอคชั่นไม่ต้องเยอะก็ได้ครับ มีหลายฉากที่ไม่ควรใส่เข้ามา (เช่น ฉากในโรงงาน, ฉากในป่า ฯลฯ)

เพราะมันทำให้หนังยืดเยื้อครับ แทนที่จะให้เนื้อเรื่องมันเดินไปแบบดีๆ กลับมาสะดุดขามันเพราะใส่แอคชั่นที่ไม่จำเป็นเข้ามา ทำให้บทที่วางโคลงมาดี กลับหม่นอุ้ยปุ้ย(เละเทะ)ไม่เป็นท่าเพราะแอคชั่นแท้ๆ ปัญหามันไม่ได้หมดแค่นั้นนะครับ ผมว่าฉากไคล์แมกซ์นี่ก็เป็นหนึ่งในจุดปังอันยิ่งใหญ่ของหนังเลย

 

ฉากช่วงท้ายหนัง

ฉากตีกันช่วงท้ายนี่….. ผมเข้าใจป๋า Bay นะว่าอยากจะสรุปพล็อตที่วางมาแต่แรกให้ดูดีที่สุด แต่กลับกลายเป็นว่าไอ้ที่ปูมาตั้งแต่ต้นเรื่องแทบไม่จำเป็นเลยครับ ไอ้ฟอลลงฟอลเลนอะไรนั่นที่ว่าโหดมากในตอนต้น มาถึงตอนจบ…ขอประทานโทษนะครับ “โคตรกากเลยอ่ะ” (ขอสปอยเลยนะ) ตีกันไม่ถึงนาที ก็ได้ไปเฝ้ายมบาลซะแระ ไอ้ลูกน้องที่โดนฆ่าไปในช่วงก่อนหน้ายังสู้กันได้สมน้ำสมเนื้อกว่าไอ้หัวหน้ามันอีกครับ และอีกอย่าง ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 1

ไอ้เมกะตรอนในภาคนี้ แทนที่มันจะดูกาก มันกลับเป็นตัวร้ายที่ดูดีโดยที่ไม่ต้องพยายามซะงั้นครับ ไม่ต้องทำอะไรมากก็ดูดีกว่าบอสใหญ่แระ(ฮา) และปัญหาอันใหญ่หลวงอีกอันของแอคชั่นช่วงท้ายก็คือ Location ครับ

 

 

ภาคที่แล้วผมว่าตีกันมันก็เพราะโลฯ มันอำนวยครับ ตีกันในเมืองนี่แหละมันส์ดี ยิงระเบิดไปมาเรายังลุ้นเลย แถมมันยังเป็นที่กำบังและหลบซ่อนได้ดีเลยนะ เหมือนเราเล่นเกมส์ซอมบี้อ่ะครับ ถ้าเล่นในเมืองนี่ผมว่าโลฯ มันได้นะ เพราะไม่รู้ว่าไอ้ผีดิบมันจะโผล่มาจากซอกไหนมุมไหน และบรรยากาศมันก็ให้ด้วยครับ อยู่ในเมืองปล่าวเปลี่ยว ไม่มีใครนอกจากเราและฝูงซอมบี้ หรือว่าเกมบู้ระห่ำก็ได้ครับ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น PB (Point Bank) เงี้ย

ซุ่มยิงกันในตึกราบ้านช่อง มีป้อม มีช่องบุก ยิงกันสนั่นเมือง แค่พูดก็ยังมันส์เลยครับ เพราะฉะนั้นการเลือกโลฯ ในการบู๊กันนี่สำคัญครับ เพราะมันต้องให้ฟิลลิ่งแบบกดดันและไม่โฉ่งฉ่างเกินไปจนไม่ลุ้น(ลองว่ายน้ำถือปืนยิงกันสิ ถ้าไม่เชื่อ555) หรือว่าสู้กันในป่าก็ได้ครับ ได้ฟิลลุ้นดีเหมือนกัน