รีวิวหนัง อำมหิตลั่นโลก

 

 

ประเภท : สยองขวัญ / ฆาตกรรม / จิตวิทยา

ปีที่ฉาย : 2001

เวลา : 2.12 ชั่วโมง

IMDb: 6.8 /10

อำมหิตลั่นโลก Hannibal Series เต็มเรื่อง เป็นภาพยนตร์อเมริกันแนวสยองขวัญในปี ค.ศ. 2001 กำกับโดย ริดลีย์ สก็อตต์ อิงจากนวนิยายของ โทมัส แฮร์ริสในชื่อเดียวกัน นำแสดงโดย แอนโทนี ฮ็อปกินส์, จูเลียน มัวร์, เรย์ เลออตต้า, แฟรงค์กี้ เฟย์สัน, จีอันคาโล เกียนนินี และฟรันเซสกา เนรี รีวิวหนังใหม่

 

เนื้อเรื่องย่อ อำมหิตลั่นโลก

หนังใหม่ netflix สิบปีผ่านไปนับตั้งแต่ ดร. ฮันนิบาล เล็คเตอร์ หลบหนีจากที่คุมขังเป็นเวลานานสิบปีตั้งแต่ แคลริส สตาร์ลิง เจ้าหน้าที่ FBI สัมภาษณ์เขาในโรงพยาบาลที่ได้รับการคุ้มกันสูงสุด สำหรับคดีอาชญากรรมทางจิตประสาทโดยเฉพาะ ขณะนี้ ดร. ฮันนิบาล ผู้นี้หลบอยู่ในอิตาลี มีเสรีภาพเต็มเปี่ยมในโลกที่ไม่มีใครคอยเฝ้าดู แต่ แคริส สตาร์ลิง ไม่เคยลืมการเผชิญหน้าระหว่างเธอกับ ดร. ฮันนิบาล เล็คเตอร์ น้ำเสียงเย็นชาของเขายังคงหลอกหลอนเธอในความฝัน ขณะนี้ชีวิตเขากำลังไปได้สวย ทุกอย่างดูเหมาะกับเขาไปหมด แต่เขายังคิดถึงเธอ แล้วเริ่มสงสัยว่าชีวิตของเขาจะสมบูรณ์ได้หรือไม่หากขาดเธอไป สำหรับเธอ ความเข้มแข็งของเธอมาจากการมีวินัยและเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ยังคงมีเงาที่ติดตามเธอไปทุกหนแห่ง เป็นสิ่งรบกวนที่ทำให้เธออ่อนแอเรื่อยมา

 

รีวิวหนัง อำมหิตลั่นโลก

 

หนังสยองขวัญ Hannibal อำมหิตลั่นโลก.. เป็นหนึ่งในหนังชุดที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสุดยอดตำนานอัจฉริยะมนุษย์กินคน “ฮันนิบาล เล็คเตอร์” ที่เป็นเนื้อหาหลังจากที่ทาง FBI ล่วงรู้ตัวตน และออกหมายจับ จนเขาต้องหนีออกนอกประเทศไปสร้างตัวตนใหม่ที่ประเทศอิตาลี แต่.. เชื่อเถอะว่าฆาตกรรายนี้ ไม่ยอมเก็บตัวเงียบอย่างแน่นอน ส่วนหนังสยองขวัญ Hannibal อำมหิตลั่นโลกจะน่าดูแค่ไหนกันบ้างนั้น มาติดตามรีวิวจากบทความชิ้นนี้กันได้เลย ดูหนังฟรี

 

จุดเด่นและจุดด้อยของหนัง อำมหิตลั่นโลก

รีวิวหนัง อำมหิตลั่นโลก สิ่งที่ทำให้หนังสยองขวัญ Hannibal อำมหิตลั่นโลกน่าสนใจคือ การแสดงของ ดร.ฮันนิบาล ที่ยังคงมีความน่าดึงดูดเช่นเดิม เขายังคงเต็มไปด้วยความสง่างาม น่าสนใจเหมือนกับหลายภาคที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นการรักษาระดับคุณภาพของการแสดงเอาไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา ส่วนเนื้อหาแม้จะไม่ได้ซับซ้อนเหมือนกับภาคก่อน ก็ยังมีจุดแข็งในเรื่องราวของตัวเองพอที่จะน่าสนใจบ้าง เมื่อถูกนำเข้ามารวมกับบรรยากาศที่แสนงดงามของประเทศอิตาลี ก็ยิ่งช่วยทำให้หนังเรื่องนี้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างมากเลยทีเดียว

 

รีวิวหนัง อำมหิตลั่นโลก

 

ในส่วนของจุดด้อย หนังสยองขวัญ Hannibal อํา มหิ ต ลั่น โลก 037 ค่อนข้างที่จะเต็มไปด้วยความรุนแรงมากทำให้ระดับของหนังอยู่ในกลุ่ม R ที่ไม่เหมาะกับเยาวชนและคนที่ขวัญอ่อน มันเต็มไปด้วยฉากที่ชวนสะอิดสะเอียนมากมากมาย และเนื้อหาที่ทำให้เห็นว่าทำไมนักสืบตำรวจในเรื่องถึงค่อนข้างไม่ฉลาดไร้ไหวพริบจนเกินทน แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายมากเกินไปนัก
โดยรวมแล้วหนังสยองขวัญ Hannibal อำมหิตลั่นโลก น่าดูหรือเปล่า!?

 

รีวิวหนัง อำมหิตลั่นโลก

โดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่าหนังสยองขวัญ Hannibal อำมหิตลั่นโลก เป็นหนังที่ไม่เหมาะกับคนขวัญอ่อนแม้แต่น้อย โดยเฉพาะกับคนขวัญอ่อนที่พึ่งทานอาหารเสร็จใหม่ๆ (ระวังอ้วกพุ่ง) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าในภาคนี้จะไม่มีความซับซ้อนของเรื่องราวที่น่าสนใจเหมือนกับภาคอื่น แต่.. หนังสยองขวัญ Hannibal อำมหิตลั่นโลก ก็ให้ความบันเทิงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ดังนั้น ถ้าหากใครที่เป็นแฟนของหนังชุดฮันนิบาลควรลองรับชมสักครั้ง เชื่อว่าจะไม่ถึงกับผิดหวังอย่างแน่นอน
ภาคต่อที่กว่าจะสร้างออกมาได้ก็ทิ้งช่วงจากตอนก่อนถึง 10 ปี เรื่องราวต่อจากครั้งก่อน ที่ดร.เลคเตอร์ (Anthony Hopkins) แกหนีออกมาจากที่คุมขังได้ และหายตัวไป ส่วนแคลริซ สตาร์ลิ่ง (Julianne Moore เข้าสวมบทแทน Jodie ซึ่งบอกปัดไป) ก็พยายามตามรอยของเลคเตอร์ต่อไป และครั้งนี้ เธอจะได้พบเขาแน่นอนครับ เพราะเขาก็ติดตามเธออยู่เหมือนกัน…

 

รีวิวหนัง อำมหิตลั่นโลก

 

ภาคนี้มันไม่เชิงเป็นหนังสืบสวนแล้วล่ะครับ มันเป็นหนังทริลเลอร์แบบศิลป์มากกว่า สังเกตดิครับ หนังทั้งเรื่องมันสวยงามสิ้นดี ดร.เลคเตอร์ก็เท่ห์ลืมโลกเลย แต่ตัวหนังกลับไม่เข้มข้นเท่าตอนที่แล้ว อันนี้ก็แล้วแต่ครับ ส่วนผม ผมว่าหนังมันก็ไม่เลว เพราะผมชอบดร. แกเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วน่ะครับ การได้ดูพี่แกแบบเต็มๆ มันจึงชอบใจอย่างบอกไม่ถูก แม้ตัวหนังจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม

 

หนังสยองขวัญ อำมหิตลั่นโลก

รีวิวหนัง อำมหิตลั่นโลก สำหรับ การที่ดร.เลคเตอร์แก ทำไมถึงชอบและสนใจแคลริซเหลือเกิน สาเหตุนั้นหนังไม่ได้ชี้แจงตรงๆ ครับ แต่ในนิยายได้บอกไว้ว่า ในอดีตนั้น เลคเตอร์มีน้องสาวครับ สมัยที่พวกเขายังเด็กๆ กันอยู่ เลคเตอร์เป็นลูกคนมีตระกูลด้วยนะครับ แต่บังเอิญประเทศที่เขาอยู่เกิดมีเรื่องขึ้นมา ครอบครัวของเขาเนื่องจากมีอำนาจก็เลยโดยกระทบไปเต็มๆ จึงทำให้เลคเตอร์กับน้องสาวของเขาต้องระเห็จออกมาจากบ้าน และเดินทางไปกับพวกผู้ลี้ภัย Hannibal (2001 อำมหิต ลั่น โลก)

แล้วทีนี้ระหว่างทาง พวกผู้ลี้ภัยหิว ไม่มีอะไรกิน พวกเขาเลยฆ่าน้องสาวของเลคเตอร์ แล้วเอาเนื้อของเธอมาแบ่งกันกิน (โหดมากครับ) ซึ่งเลคเตอร์ที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วยก็ช็อคครับ และนั่นก็เป็นชนวนสำคัญที่ทำให้เลคเตอร์มีปมเกี่ยวกับการกินเนื้อคนในเวลา ต่อมา และน้องสาวของเลคเตอร์ก็มีบุคลิกคล้ายกับ แคลริซเหลือเกินครับ นี่จึงเป็นเหตุให้เลคเตอร์ สนใจแคลริซมากเป็นพิเศษ กลับมาที่หนังนะครับ สาระไม่ค่อยมีอ้ะนี่ว่ากันตามจริง แต่หนังเหมาะจะดูเพื่อความบันเทิง(แบบโรคจิตมากกว่า)ผมชอบน่ะครับใครชอบดร.เลคเตอร์ก็น่าจะโอเคกับหนังอยู่ เพราะ Hopkins แสดงได้ดีมากๆ อยู่แล้ว ส่วน Moore นั้นก็ถือว่าพอผ่านได้ครับ แต่ก็ยังไม่สามรถเทียบได้กับเจ๊ Jodie Foster ของผมอยู่ดี ส่วน Gary Oldman ที่มารับบทเป็นเมสัน เวอร์เจอร์ เหยื่อรายเดียวของดร.เลคเตอร์ที่รอดชีวิตมาได้ ก็เมคอัพซะจนจำหน้าไม่ได้ล่ะครับ แต่ถึงกระนั่นเขาก็ยังสามารถแสดไงด้อย่างน่าจดจำ และ Giancarlo Giannini ที่มารับบทเป็นสายสืบที่มาตามจับตัวดร.เลคเตอร์ ก็ทำหน้าทีไ่ด้ดีครับ ในขณะที่ Ray Liotta กับบทพอล เครนเลอร์ ก็มาเพื่อชั่วอย่างเดียวเลยครับ บทของพี่ท่านออกจะมีมิติเดียวมากเกินไปหน่อยน่ะและอีกคนที่ยังตามมาเล่นหนังชุดนี้ก็คือ Frankie Faison ไงล่ะครับ เจ้าของบทบาร์นี่ย์ ผู้ดูแลสถาบันประสาทเป็นคนที่ดูแลเลคเตอร์มาด้วย อํามหิตลั่นโลก พากย์ไทย

 

 

ตกลง ว่านี่ไม่เชิงเป็นหนังสืบสวนครับ มันเป็นหนังระทึกขวัญมากกว่า จะว่าไปอารมณ์มันก็ออกจะคล้ายพวกเจสันอะไรอยู่เหมือนกันเพราะพี่เลคเตอร์แกก็เป็นประเภทฆ่าไม่ตายซะด้วย แล้วพี่เลคเตอร์แกก็ไล่ฆ่าคนโดยหน้าเปื้อนยิ้มไปเรื่อยๆ โรคจิตดีครับ แต่หนังทำได้ศิลป์ดีจริงๆ ส่วนฉากที่คงจะลืมไม่ได้ก็หนีไม่พ้นฉาก “สมอง” นั่นแหละครับ ถือว่าทำออกมาได้สยองจริงๆ
ภาคนี้แสดงถึงเหตุการณ์หลังจาก The Silence of the Lambs นะครับ คือ…หลังจากที่ป๋าฮันนิบาล(แอนโทนี่ ฮ้อปกิ้นส์)แหกคุกหนีออกมาได้แล้ว ป๋าแกก็เดินทางสายฆาตรกรโรคจิตต่อเรื่อยมา

 

รีวิวหนัง อำมหิตลั่นโลก

ตัวหนังภาคนี้เนื้อเรื่องจะไม่เข้มข้นเหมือนภาคก่อนแล้วนะครับ และดูจะไม่เป็นหนังแนวสืบสวนสอบสวนเหมือนเดิมเสียด้วยซ้ำ กลับกลายเป็นหนังที่ทำมาเอาใจคอหนังโรคจิตกินคนไปซะเลย โดยตัวหนังที่สร้างออกมานี่…ศิลป์มากๆครับ ผมยังต้องขอซูฮกให้เลย เพราะจัดฉากได้ศิลป์และสวยมากๆ วิธีการฆ่าตามฉบับของฮันนิบาลก็สุดยอดมาก และสร้างตำนานจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะฉากร่วมโต๊ะอาหาร รับประทาน “สมอง” ที่เป็นฉากชวนแหวะสุดประทับใจของหลายๆคน

ตัดมาที่ ฮันนิบาล นะครับ ฮันนิบาลหลงไหลในตัวของแคลริสมานานแล้วหละครับ ซึ่งจะเห็นได้ตั้งแต่ The Silence of the Lambs แล้ว ที่พี่แกแอบแต๊ะอั๋งแคลริสอยู่ตลอด ซึ่งคนที่เคยอ่านในฉบับนิยายก็จะเข้าใจครับ ว่าความจริงในการที่พี่ฮันนิบาลชื่นชอบแคลริส มีส่วนเกี่ยวกันกับเหตุการณ์ในภาค “ฮันนิบาล ไรซิ่ง” ด้วย (เก่งนะครับ คนแต่งเนี่ย) มีอีกฉากหนึ่งที่ผมว่าคุณห้ามพลาดเลยก็คือ ฉากที่ฮันนิบาลถูกเมสันจับตัวไปครับ เพื่อหวังที่จะมัดแล้วให้หมูที่ถูกฝึกมาเป็นพิเศษรุมทึงทั้งเป็นครับ ซึ่งจุดจบของฉากนี้จะเป็นเช่นไร ต้องติดตามกันเอาเองนะครับ(ขอบอกนะครับ สะใจม๊ากกกกกกกกกกก) เอาละครับ มาถึงเหตการณ์ที่ฮันนิบาลพาแคลริสมาบ้าน(คนอื่น)กันดีกว่า ซึ่งจุดนี้ผมหละอยากจะวิจารณ์เหลือเกิน คือ ถ้าอิงตามฉบับในหนัง ผมชอบนะ ดูดีไปอีกแบบหนึ่ง แต่ในฉบับนิยายที่ผมไปอ่านมาสดๆร้อนๆคือ….คนเขียน บ้าไปแร้ว!!! – -“ แต่งมาให้แคลริสหื่น และโรคจิตพอๆกับฮันนิบาลเลย อยากจะบ้าตาย!! (สำหรับคนที่ไม่เคยอ่านในฉบับนิยาย หามาอ่านดูครับ แล้วจะรู้ว่าคนเขียนเพี้ยนไปแล้วจริงๆ)

 

 

ฉากโต๊ะอาหารร่วมรับประทาน “สมอง” ทำได้ดีในระดับหนึ่งนะครับ คือ สามารถทำให้ผมรู้สึกอยากเข้าไปร่วมรับประทานอาหารกับฮันนิบาลด้วยเลย สมองคนย่างสดๆซักชิ้น ชีวิตนี้อยากลองกินซักครั้งจัง จุดจบของหนังก็ทำออกมาแรงดีครับ ฮันนิบาลแมนมากๆเลย ถ้าคุณได้ดูแล้วจะทึ่งถึงความเป็นสุภาพบุรุษของผู้ชายคนนี้

ตัวหนังจัดว่าทำออกมารุนแรงมากๆครับ เรียกได้ว่าเด็กเล็กๆไม่ควรดูเลยหละครับ อาจซึมซับอะไรบางอย่างจนเข้าด้านมืดแบบผม ซึ่งผู้ที่มีอาการเสพติดของพวกนี้ ถ้าควบคุมสติตัวเองไม่ได้ ก็อาจจะกลายเป็นโรคจิตไปเลย ซึ่งผมยังไม่เป็น เพราะผมเป็นคนมีสติ เป็นอีกหนึ่งในซีรี่ฮันนิบาลที่จัดว่า พลาดไป เสียดายตายชัก เลยหละครับ