รีวิวหนัง day shift

 

 

Jamie Foxx เป็นบั๊ด จาบลอนสกี้ที่ดูเผินๆ จะนึกว่าเป็นคนทำความสะอาดสระว่ายน้ำ แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นนักล่าแวมไพร์มือดี และจากการล่าครั้งล่าสุดก็นำพาให้เขาต้องไปเผชิญกับออเดรย์ ซาน เฟอร์นานโด้ (Karla Souza) เจ้าแม่แวมไพร์ที่กำลังขยายฐานอำนาจในเมืองอยู่ และเธอก็หมายหัวจะเล่นงานบั๊ดแบบเอาเป็นเอาตายเลยล่ะ หนังใหม่ netflix

ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของหนังก็ออกจะเรื่อยๆ หน่อยครับ สารภาพเลยว่ามีสัปหงกอยู่เหมือนกัน แต่แล้วก็มีเหตุให้ตาสว่างตื่นขึ้นมา… เปล่าครับ ไม่ใช่เพราะหนัง แต่เพราะผมเกือบทำรีโมทหล่น พอดีมันสัปหงกจนมือไถลไปโดนรีโมท เกือบร่วงพื้นแน่ะ ดีที่คว้าทัน เท่านั้นล่ะตาตื่นขึ้นมาทันที – แต่ก็ถือว่าพอดีครับที่หนังเริ่มเข้ารูปเข้ารอย มีอะไรฮาๆ และมันส์ๆ มาให้ตามดู ทีนี้เลยตื่นยาว

 

เรื่องย่อ day shift

เรื่องย่อ: บั๊ด คุณพ่อชนชั้นแรงงานที่ทำงานหนักเพื่อหวังให้ลูกสาวมากไหวพริบของเขามีชีวิตที่ดี แต่งานทำความสะอาดสระว่ายน้ำในซานเฟอร์นานโดแวลลีย์ที่แสนจำเจกลับเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า เพราะแหล่งรายได้ที่แท้จริงของเขามาจากการล่าและฆ่าแวมไพร์ให้กับสหภาพนักล่าแวมไพร์นานาชาติ

แรกสัมผัสต้องบอกว่าหน้าหนังของ ‘Day Shift’ ชวนให้นึกถึงหนังแนวคู่หูที่มีฉากหลังเป็นโลกแนวแฟนซีอย่าง ‘Men in Black’ (1997) ‘R.I.P.D.’ (2013) หรือหนังเน็ตฟลิกซ์อย่าง ‘Bright’ (2017) ที่เหมือนว่าจะต้องมีตัวเก๋ามาดดุเข้มประกบกับเด็กใหม่ที่ยังละอ่อนฝีมือแต่สร้างบรรยากาศเฮฮาได้ดี ซึ่งหนังในหมวดนี้ไม่ว่าจะทำดีหรือห่วยมันก็ต้องจัดวางไว้ในชั้นนั่งเหยียดขาเอนหลังนั่งดูในเวลาว่างแบบขอไม่ต้องคิดอะไรให้มากอยู่แล้ว และถ้าคุณกำลังอยู่ในอารมณ์แบบที่ว่าหนังมันจะดูลงตัวในแนวทางของมันพอดี

 

รีวิวหนัง day shift

 

อาจด้วยเพราะนี่เป็นการกำกับหนังเรื่องแรกของอดีตนักแสดงเสี่ยงตายอย่าง เจ.เจ. เพอร์รี (J.J. Perry) ซึ่งเคยผ่านงานหนังใหญ่มานับไม่ถ้วน แค่คัดเอาชื่อเด่นเช่น แฟรนไชส์ ‘John Wick’ และ ‘Fast & Furious’ ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อยแล้ว แน่นอนว่าในกรณีเช่นนี้หลายครั้งเราจะเห็นว่าทีมสร้างจะไม่ได้ฝืนเล่าท่ายากอะไรมากและเปิดช่องให้เอาความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบฉากต่อสู้มาเป็นจุดแข็งมากกว่าและนี่ก็เป็นสาเหตุว่าพล็อตหนังเรื่องนี้เล่นตามสูตรสำเร็จแบบไม่ขืนอะไรมากเลย โดยเอาไอเดียของมือเขียนบทหน้าใหม่อย่าง ไทเลอร์ ไทซ์ (Tyler Tice) มาให้ เชย์ แฮตเทน (Shay Hatten) ที่มีผลงานหนังแอ็กชันทรงใกล้กันอย่าง ‘Army of the Dead’ (2021) และ ‘Army of Thieves’ (2021) มาช่วยเสริมลูกเล่นแบบไม่ต้องมากแค่พอดูเพลิน ดูหนังออนไลน์

 

รีวิวหนัง day shift

ได้เป็นเรื่องราวของ บั๊ด คุณพ่อถังแตกที่แสดงโดยนักแสดงยอดฝีมือ เจมี่ ฟ็อกซ์ (Jamie Foxx) ต้องดิ้นรนหาเงินก้อนใหญ่มาจ่ายค่าเทอมให้ลูกสาว ก่อนที่อดีตภรรยาจะขายบ้านเอามาจ่ายแล้วพาลูกย้ายเมืองไปอยู่กับแม่ยายซึ่งจะทำให้เขาไม่พบหน้าลูกอีก แต่แย่หน่อยตรงอาชีพเดียวที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำให้บั๊ดได้คือนักล่าแวมไพร์ที่เขาปกปิดทุกคนเอาไว้ และจะกลับไปรับงานเงินดีเลยก็ไม่ได้อีกเพราะนิสัยเหมือนตำรวจห่ามไม่ตามกฎของเขา ทำให้ถูกเฉดหัวจากสหภาพหรือสมาพันธ์นักล่าเมื่อนานมาแล้วจังหวะนี้จึงต้องไปขอความช่วยเหลือจาก บิ๊กจอห์น นักล่าคนดังของสหภาพที่แสดงโดยตำนานนักปุ๊น สนูป ด็อกก์ (Snoop Dogg) ให้เข้าไปไกล่เกลี่ยอ้อนวอนหัวหน้าสหภาพให้เขากลับเข้าทำงาน แต่เงื่อนไขที่บั๊ดต้องทำให้ได้คือเขาต้องทำงานคู่กับ เซธ นักล่าป้ายแดงที่เป็นแค่เสมียนของสหภาพ รับบทโดยหนุ่มหน้าหล่ออย่าง เดฟ ฟรังโก (Dave Franco) day shift รีวิว

 

รีวิวหนัง day shift

 

ที่ต้องมาแหกปากโวยวายและถ่วงแข้งถ่วงขาตามสูตรมือละอ่อนและเงื่อนไขสำคัญคือบั๊ดต้องรับงานแค่กะกลางวันที่อันตรายน้อยเพราะแวมไพร์ไม่ออกล่ากัน ซึ่งกลายมาเป็นชื่อของหนัง แต่บังเอิญโชคร้ายที่ตอนนี้มีแวมไพร์มาเฟียที่ไม่กลัวการเดินกลางวันออกมาเพ่นพ่านช่วงที่เขาทำงานพอดีว่ากันตามตรงเรื่องราวส่วนใหญ่เดาได้ไม่ยาก และเป็นอะไรที่สบายหัวดูเพลินได้ไปจนจบด้วยสูตรหนังที่คุ้นเคย ชวนให้นึกถึงความเรียบง่ายของหนังแอ็กชันแบบยุคเก่าๆ ที่ซับซ้อนน้อยแต่เล่าให้สนุกก็พอและจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่ถือว่าสนุกดูเพลินดีคือ ฉากการต่อสู้กับพวกแวมไพร์ที่สะใจดีเหลือเกิน ตัวเอกอาจมีแค่มีดใหญ่กับปืนลูกซองแต่ก็ใช้พลิกแพลงให้มีท่าพิฆาตได้หลากหลายสมกับที่ผู้กำกับเคยออกแบบคิวบู๊มาโชกโชน และที่แจ๋วเลยคือพวกแวมไพร์ก็ตายยากดีเหลือเกิน แถมยังมีท่าทางประหลาดเหมือนพวกซอมบี้นักกายกรรมอีกต่างหาก ดังนั้นเลยเห็นฉากอัด-ดัด-หักพวกแวมไพร์ไปตั้งแต่หัวยันเท้าเลยทีเดียว ยิ่งไม่ตายก็ยิ่งมัน พวกพระเอกยิ่งได้ฉายฉากฆ่าสุดโหดมากขึ้นเท่านั้น และนี่อาจเป็นสาเหตุให้หนังได้เรต R ไปด้วย แต่ก็รุนแรงสะใจคอหนังบู๊ดีเหลือเกิน แม้จะไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่จนว้าวก็ตามโดยสรุปนี่จึงเป็นหนังในแบบที่เราอยากดูในวันว่าง ๆ อยากบันเทิงเริงใจให้เต็มที่ด้วยบรรยากาศแบบบ้านๆ เดิมๆ คล้ายยุค 80s-90s อะไรแบบนั้น และถ้าจะมีอะไรแนะนำก็คงต้องบอกว่าควรดูพากย์ไทยดีกว่าอ่านซับ เพราะแม้จะแปลได้ใกล้กันแต่แบบพากย์ไทยนั้นได้อารมณ์ถึงใจ เสริมความฮาให้หนังได้ดีกว่ามากๆ

พล็อตต่างๆ ในหนัง day shift

รีวิวหนัง day shift การดูหนังเรื่องนี้ก็ตอกย้ำความเป็นหนัง Netflix ครับ คือสเกลมันจะไม่ใหญ่ แม้เรื่องนี้จะลงทุนเป็นร้อยล้านก็ตาม แต่สเกลมันดูจำกัด พล็อตเรื่องก็จะไม่ค่อยใหญ่ หรือต่อให้พล็อตไปใหญ่แค่ไหน แต่ก็จะโดนจำกัดด้วยขนาดของฉาก ด้วย Vision บางอย่าง มันจะดูไม่บิ๊กไม่เบิ้ม ไม่เหมือนหนังฉายโรงที่บางทีขนาดพล็อตอาจไม่ใหญ่ แต่งานภาพงานฉากมันจะสเกลใหญ่ ทำให้หนังดูมีอะไรมากกว่า – จนอดคิดไม่ได้น่ะครับว่าหนัง Netflix ส่วนใหญ่ดูแล้วจะได้อารมณ์คล้ายหนังทีวี สเกลมันโดนจำกัดจนแทบจะถือเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวไปแล้ว

ดูเรื่องนี้แล้วชวนให้นึกถึงเรื่อง Bright ครับ หลายอย่างมาทางเดียวกัน สเกลก็ประมาณเดียวกัน แต่ผมก็ชอบเรื่องนี้มากกว่าหน่อย อย่างที่บอกน่ะครับว่าดูเอามันส์ได้ มีฮาแทรกมาเนียนๆ นักแสดงในเรื่องก็ถือว่ามาพร้อมสีสัน ไม่ว่าจะ Foxx ที่ลื่นไปกับบทได้ดี สมทบด้วย Dave Franco ในบทเซ็ธ รายนี้ก็ถือว่าเป็นลูกคู่ได้เหมาะ – แล้วพากย์ไทยก็พากย์คู่นี้ได้เหมาะมากๆ ด้วย, Snoop Dogg ก็มาเท่ห์ตามสไตล์ ส่วนสาวสวย Natasha Liu Bordizzo ช่วงแรกๆ จะยังไม่ค่อยมีบทครับ จนมาครึ่งหลังถึงได้เริ่มมีพื้นที่ ซึ่งแม้เธอจะไม่ถึงกับขโมยซีน แต่ก็ไม่โดนกลืนจนหายไป เพียงแต่บทของเธออาจจะรวบรัดหน่อยเท่านั้นแหละ

 

รีวิวหนัง day shift

 

ไปๆ มาๆ คนที่ได้ใจผมกลับเป็น Steve Howey และ Scott Adkins ที่มาเป็นพี่น้องคู่เดือดตระกูลนาซาเรี่ยน ช่วงที่พวกเขาปรากฏตัวนี่ดีกรีความมันส์เพิ่มขึ้นหลายขีดครับ ส่วนหนึ่งเพราะพวกพี่เขาเป็นนักบู๊อาชีพอยู่แล้ว ลีลาเวลาลุยเลยไว้ใจได้ ออกมามันส์ได้ใจจนน่าจดจำ อีกคนที่ขอพูดถึงหน่อย เพราะเห็นหน้ากันมานาน นั่นก็คือ Peter Stormare ที่ไม่ว่าจะโผล่ในหนังเรื่องไหน บทมากน้อยแค่ไหนก็จะขโมยซีนได้เสมอ

ช่วงต้นก็ทนนิดนึงครับ ตามสไตล์หนังแนวนี้แหละ (และตามปกติของหนัง Netflix) ตอนต้นมันจะเรื่อยๆ ยังไม่ค่อยมีอะไร เป็นการปูพื้นแนะนำตัวละคร ต้องรอผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงอะไรๆ ถึงจะค่อยน่าสนใจขึ้นบ้าง แต่ก็นั่นแหละครับ ความน่าสนใจที่ว่ามันจะไม่ถึงกับสุดๆ มันจะเหมือนโดนจำกัดวงเอาไว้ ไม่ใหญ่ ไม่แกรนด์ ไม่สุด แต่มันก็ตอบโจทย์ความบันเทิงได้อยู่ครับ (หรือไม่ผมก็คงจะชินกับการดูหนัง Netflix ไปแล้วล่ะครับ ดูปุ๊บปรับความคิดหวังปั๊บว่าหวังได้แค่นี้ จะหวังมากกว่านี้ไม่ได้) ดูหนัง day shift

 

รีวิวหนัง day shift

หนังกำกับโดย J.J. Perry สตันท์แมนผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมากว่า 30 ปีครับ แล้วก็ไต่เต้ามาเป็นผู้กำกับกองสองให้หนังอย่าง Spy, Skyscraper, Fast 8กับ Fast 9 และเรื่องนี้คือผลงานกำกับชิ้นแรกของเขา ก็ถือว่าไม่เลวครับสำหรับการเปิดตัว

และถ้าว่ากันจากใจจริงแล้ว ผมก็อยากดูภาคต่อนะ มันก็เพลินดี และตัวละครก็ยังเล่นอะไรต่อได้อีก เช่นเดียวกับรายละเอียดต่างๆ ในเรื่อง ไม่ว่าจะสายพันธุ์ของแวมไพร์ หรือองค์กรนักล่า ถ้าผูกเรื่องดีๆ วางพล็อตดีๆ มันก็น่าสนุกน่าตามต่ออยู่ครับ และเอาเข้าจริงๆ หนังก็ยังมีอะไรอีกหลายจุดที่ยังอธิบายไม่เคลียร์ด้วย ก็ไม่รู้ว่าตั้งใจจะเอาไว้เล่าในภาคต่อหรือเปล่า ก็รอดูกันต่อไปครับ

 

 

Day Shift: งานต้องล่า หนังแวมไพร์ Netflix ที่มาในแนวตลกขำๆ กับพล็อตบ้องตื้นมากว่าตัวเอกนักล่าแวมไพร์กำลังเดือดร้อนเรื่องเงินอย่างหนักเพื่อจ่ายค่าเทอมลูกให้ทันตามกำหนด ในระหว่างนั้นก็โดนแวมไพร์ตัวแม่ไล่ล่า เพราะดันไปฆ่าลูกของมัน

day shift พากย์ไทย

 

เจมี่ ฟ็อกซ์รับบทพ่อชนชั้นแรงงานที่ทำงานหนักเพื่อหวังให้ลูกสาวมากไหวพริบของเขามีชีวิตที่ดี แต่งานทำความสะอาดสระว่ายน้ำในซานเฟอร์นานโดแวลลีย์ที่แสนจำเจกลับเป็นเพียงแค่ฉากบังหน้า เพราะแหล่งรายได้ที่แท้จริงของเขามาจากการล่าและฆ่าแวมไพร์ให้กับสหภาพนักล่าแวมไพร์นานาชาติ

 

สรุปหนัง day shift

รีวิวหนัง day shift ตัวเรื่องตอนแรกดูเหมือนจะพยายามเซ็ตโลกแวมไพร์แบบใหม่ที่มีสมาพันธ์นักล่า เอาเขี้ยวแวมไพร์มารับเงินรางวัลได้ โดยนักล่าเป็นอาชีพปกติที่หาเช้ากินค่ำเหมือนคนทั่วไป ออกล่าแวมไพร์ทุกวันไม่หยุดหย่อน แต่ทั้งเรื่องก็มีแค่นั้นจริงๆ เพราะนอกจากนี้แล้วตัวเรื่องก็ไม่ได้มีรายละเอียดอะไรลึกกว่านี้เลย ทั้งๆ ที่ในตัวอย่างพยายามขายว่าเป็นทีมงานจอห์นวิคมาทำ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในผู้เขียนภาค 3 ที่ชื่อ Shay Hatten แค่นั้นเอง (มีคนเขียนบทหลายคน) ส่วนผู้กำกับก็หน้าใหม่เรื่องแรกชื่อ J.J. Perry มีเครดิตเป็นสตันท์แมนมาก่อนเท่านั้น

ด้วยความที่ตัวเรื่องกลวงจนไม่มีอะไรให้พูดถึงมากหรือมีความคิดริเริ่มแปลกใหม่ให้กับหนังแวมไพร์เลย นอกจากแค่แวมไพร์พวกนี้ทาครีมกันแดดสูตรใหม่ทำให้ออกมาสู้ตอนกลางวันได้เท่านั้น (สมาพันธ์นักล่านี่เรื่องอื่นๆ ก็มีหลายเรื่องแล้ว) ที่เหลือก็เลยมีแต่ฉากแอ็กชั่นไล่ฆ่าแวมไพร์ลูกกระจ๊อก ก็อารมณ์ราวๆ จอห์นวิคเลยคือมาเป็นฝูง แต่กรูกันมาเพื่อให้โดนยิงตายง่ายๆ ไม่ได้มีความลุ้นระทึกอะไรทั้งสิ้นเลยตั้งแต่ต้นจนจบ แม้แต่บอสก็ตายแบบกระจอกงอกง่อยมาก ตัวเรื่องได้แค่ได้ความมันส์สะใจจากฉากฆ่าอยู่บ้าง มีฉากตรงกลางเรื่องดูสนุกกว่าฉากอื่นอยู่นิดนึงกับฉากต้นเรื่องแวมไพร์ป้าแก่อึดทรหดแล้วก็มีท่าทางแปลกๆ ชวนหัวเราะได้มากจริง เพราะนี่เป็นหนังตลก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีฉากฆ่าแวมไพร์ตลกอะไรมากกว่านี้สักเท่าไหร่แล้ว ไปเน้นที่บทพูดตลกๆ กับตัวละครในเรื่องมากกว่า

 

 

หนังพยายามทำแนวคู่หูเพิ่มโดยให้มีหนุ่มจากสมาพันธ์ที่โดนไล่ให้มาประกบพระเอกเพื่อจ้องจับผิดว่าทำผิดกฎข้อไหนจะได้ไล่ออก แต่เรื่องก็ไม่ได้เน้นไปทางคู่หูอะไรนัก เพราะหมอนี่ก็เป็นแนวไก่อ่อนธรรมดา แม้ตอนหลังจะมีอัพเกรดเพิ่มพลังขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้มีบทประกบเป็นคู่หูโดดเด่นอะไรกับพระเอก ต่างกับสาวแวมไพร์ตัวดีที่มาช่วงหลังที่กลายมาเป็นจุดสนใจใช้ดาบเป็นอาวุธที่ดูเท่ห์ดี แต่บทก็ออกมาน้อยไม่ได้โชว์ของมาก แล้วก็จบบทไปง่ายๆ ไม่ได้มีสานต่ออะไรอีก

สรุปเลยว่าเป็นหนังแอ็กชั่นติดตลกเล่นมุกแวมไพร์ที่พอดูได้ขำๆ ไม่มีอะไรแปลกใหม่หรือน่าจดจำ เนื้อเรื่องกลวงเบาหวิวจนเหมาะกับหนังทำลงสตรีมมิ่งเท่านั้นจริงๆ
Day Shift เป็นหนังดูง่าย เล่าง่าย เขียนง่ายครับ สรุปสั้นๆ ว่าเป็นหนังแอ็กชันล่าแวมไพร์ที่ดูได้เพลินๆ เอามันส์เป็นหลัก มีความฮาแทรกลงไป จัดว่าโอเคตามมาตรฐานของหนัง Netflix น่ะครับ day shift เต็มเรื่อง