รีวิวหนัง saw 1

 

 

หมวดหมู่ : Action Crime Drama

สัญชาติ : American

กำกับโดย : James Wan

ความยาว : 1 ชั่วโมง 43 นาที

นักแสดงนำ : Cary Elwes, Leigh Whannell, Danny Glover

 

เรื่องย่อ saw 1

หนังใหม่ ดร. ลอว์เรนซ์ และ อดัม ชายสองคนที่ตื่นมาในห้องน้ำขนาดใหญที่ทั้งคู่ไม่คุ้นเคย ที่เลวร้ายไปกว่านั้น พวกเขายังพบว่าขาของตัวเองถูกล่ามโซ่ตรวนเอาไว้อยู่คนละมุมห้อง พร้อมกับศพปริศนาที่อยู่ตรงกลางห้องอีกคน จากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงในห้องประกาศว่า เกมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

 

รีวิวหนัง saw 1

 

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Saw นั้น น่าจะเป็นหนังชุดที่ฝังไปในภาพจำของผู้คนแล้วว่า เป็นหนังชุดฆาตกรโรคจิตกับเครื่องมือทรมานโหดเลือดสาด ชิ้นส่วนกระจุยกระจาย แต่เอาเข้าจริง สำหรับ saw ในภาคแรกนั้น ดูเหมือนจะเป็นหนังแนวสืบสวนเชิงจิตวิทยาซะมากกว่าด้วยซ้ำ และตัวหนังมันก็แทบไม่ได้เน้นไปที่ความโหดเลยสักเท่าไร ดังนั้นหากใครชอบหนังแนวๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเนื้อเรื่อง และไม่ต้องหวือหวาแบบนี้ ก็สามารถดู Saw ภาคแรกได้แบบไม่ต้องทนเห็นเลือดสาดมากนัก ถ้าชอบพวกหนังคนโดนจับมาด้วยเหตุผลอะไรบางอย่างแบบ The Hostel หรือ Cube ในโทนที่โหดน้อยกว่า ก็สามารถดูเรื่องนี้กันได้เลยแบบสบายๆ เว็บดูหนัง,ดูหนัง,เว็บหนัง

 

ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่อง saw 1

  1. ความรักของพ่อที่ยอมเสียสละ เมื่อ ดร. ลอว์เรนซ์ รู้ว่าเมียและลูกของเขาตกอยู่ในอันตราย วิธีที่เขาจะช่วยได้ก็คือต้องออกไปจากขุมนรกแห่งนี้คือเขาต้องยอมเลื่อยขาตัวเองสด ๆ เท่านั้น ถ้าเป็นคนเราปกติจะกล้าทำไหมครับ ระหว่างดูฉากนี้ผมนี่เสียวข้อเท้าตลอดเวลา คนเราถ้าไม่ใจกล้าจริง ๆ จะกล้าทำร้ายร่างกายตัวเองยังไง
  2. กลยุทธ์มากมาย ตลอดเวลาที่ ดร.ลอว์เรนซ์อยู่ในห้องนั้น เค้าพยายามทุกวิธีที่จะรอดไปได้โดยไม่ต้องฆ่าอดัม คือสารพัดกลเม็ด เทคนิคและวิธีต่าง ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ผลแต่ก็ทำให้เรารู้ว่า เขาตัดสินใจในตอนท้ายคือไม่มีทางเลือกจริง ๆ ถ้าเป็นคนอื่นก็คงฆ่าอีกฝ่ายเพื่อเอาตัวรอดไปนานแล้ว

 

รีวิวหนัง saw 1 หนังภาคแรกในจักรวาล Saw ภาค 1 ถือว่าทำได้ไม่เลวร้ายนัก ทำให้อยากติดตามต่อเลยว่า ภาคต่อ ๆ มา จะทวีความกดดันและสยดสยองมากขนาดไหน แต่ภาคนี้ถือว่าเป็นภาคที่แหวะน้อยที่สุดแล้วครับ

หนังสยองขวัญอาจจะเป็นของแสลงสำหรับหลายๆ คน แต่บางช่วงเวลาก็เหมาะที่จะนั่งดูหนังเหล่านี้ อย่างเช่น ในช่วงวันฮาโลวีนของฝรั่ง หรือช่วงฤดูร้อนที่ร้อนจนอยากหาอะไรมาทำให้ตัวเย็นและขนลุกตามแนวคิดคนญี่ปุ่น หรือในเวลาที่รวมตัวเพื่อนกลุ่มใหญ่มาดูหนังเรื่องเดียวกัน

 

รีวิวหนัง saw 1

 

หนังสยองขวัญมักจะมีคนที่เสียชีวิตในเนื้อเรื่องอยู่เยอะ หลายเรื่องมีภาคต่อจนกลายเป็นเฟรนไชส์ใหญ่ไม่น้อย รวมไปถึงหนังสยองขวัญเลือดสาดอย่าง ‘Saw’ ที่ในปี 2019 นี้ ก็มีอายุอานามเข้าสู่วัย 15 ปี แล้ว (Saw ฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ.2004)

การที่หนังซึ่งมีฉากเสียชีวิตแบบโหดๆ เรื่องนี้มีภาคต่อเนื่องกันมาถึง 8 ภาค และถูกสร้างเป็นสื่ออื่นทั้งการ์ตูนและเกม Saw เองก็ไม่ได้มีแต่ภาพที่ดูรุนแรงไปซะทั้งหมด ถ้าไปถามแฟนๆ ของเฟรนไชส์ หลายคนจะกล่าวว่า เนื้อเรื่องยังมีอะไรที่มากกว่าฉากคนโดนทรมาน หนังแฝงด้วยประเด็นเชิงปรัชญาจึงทำให้หลายคนติดตาม Saw อย่างต่อเนื่อง

แต่กว่าที่ Saw จะผ่ากระแสภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ จนมาถึงจุดที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วต่อจากนี้ Saw จะไปทางไหน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง

 

รีวิวหนัง saw 1

ภาพยนตร์เรื่อง saw 1 เต็มเรื่อง พากย์ไทย เป็นไอเดียของเพื่อนสองคนที่เรียนทำการสร้างภาพยนตร์จากมหาวิทยาลัย Royal Melbourne Institute of Technology ที่ชื่นชอบในภาพยนตร์สยองขวัญเหมือนกัน และมีไอเดียในการทำงาน แต่ปัญหาก็คือ พวกเขาไม่มีเงินมากพอจะสร้างหนังสยองขวัญแบบที่ตลาดเคยทำมาได้ พวกเขาเลยใช้เวลาหลังจากจบการศึกษาไปทำงานอื่นพลางคิดไอเดียที่จะถ่ายทำหนังสยองขวัญที่ใช้งบไม่มากนัก

จนกระทั่งวันหนึ่ง ลีห์ วันเนล (Leigh Whannell) ก็ได้ไอเดียเกี่ยว ชายสองคนที่ติดอยู่ในห้อง โดยมีศพนอนขวางพวกเขา และมีปืนกับเครื่องอัดเสียง เขารีบโทรไปคุยกับ เจมส์ วาน (James Wan) เพื่อนที่ฝันอยากทำหนังแนวเดียวกัน ทั้งคู่ก็จับเอาไอเดียนี้มาประกอบร่าง ก่อนจะคิดว่าชื่อ Saw เหมาะกับหนังเรื่องนี้ดี

ถึงแม้บทที่ทั้งสองคนร่วมกันเขียนจะออกมาดูดีระดับที่บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ในออสเตรเลียยังแสดงความสนใจ แต่ในช่วงปี ค.ศ.2001 – 2002 นั้นไม่มีนายทุนเจ้าไหนในออสเตรเลียกล้าออกทุนสร้างหนังสยองขวัญ ลีห์กับเจมส์จึงคิดว่า ถ้าแบบนี้พวกเขาอาจจะต้องบินไปขายหนังที่อเมริกามันเสียเลย แต่จะบินเพื่อเอาบทภาพยนตร์ไปอย่างเดียวก็อาจจะโน้มน้าวใจนายทุนไม่ได้ พวกเขาจึงถ่ายทำภาพยนตร์ขนาดสั้นเพื่อให้นายทุนเข้าใจคอนเซปต์ง่ายขึ้น

ตัวหนังสั้นเล่าเรื่องของชายหนุ่มคนหนึ่ง ที่มีเลือดเปื้อนตามตัวกับเสื้อ และถูกตำรวจสอบสวนว่าไปเจอกับอะไรมา เขาจึงย้อนนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาว่า เขาถูกพาตัวไปยังห้องปิดแห่งหนึ่ง โดยที่เขาโดนถูกมัดกับเก้าอี้และมีกับดักหมีแบบย้อนกลับ (reverse bear trap) ติดอยู่ที่ศีรษะ ก่อนที่ตุ๊กตาบิลลี่ (Billy The Puppet) จะออกมาบอกกับเขาว่า ถ้าอยากรอดจากกับดักพิฆาต จะต้องมีการเล่นเกมกันเสียก่อน โดยเกมนั้นก็คือ การผ่าเอากุญแจที่ซ่อนอยู่ในร่างของชายอีกคน ที่ตอนแรกนอนสงบจนคิดว่าเป็นศพแต่แท้จริงแล้วยังมีชีวิตอยู่ หลังจากนั้นหนังจะตัดกลับมายังห้องสอบสวนและจบลง

 

รีวิวหนัง saw 1

 

หนังสั้นของเจมส์ วาน กับลีห์ วันเนล (ที่ภายหลังถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า Saw 0.5) ทำให้บริษัทผู้ผลิตหนังและนายทุนหลายเจ้าแสดงความสนใจอย่างยิ่ง กระนั้นชายสองคนที่เดินทางมาจากออสเตรเลียก็เลือกทำงานกับบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ขนาดย่อมๆ เจ้าหนึ่ง ด้วยการตกลงว่า เจมส์กับลีห์จะได้สร้างหนังออกมาตามที่พวกเขาอยากจะสร้างโดยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรมากนัก

แล้วหนังเรื่อง Saw ก็เริ่มถ่ายทำ ด้วยการใช้เงินทุนราวๆ 1,200,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งดูเป็นเงินไม่มากนัก แต่ตัวบทนั้นถูกวางมาให้เล่าเรื่องภายในห้องปิด งบเท่านี้จึงไม่ถือว่าน้อยเกินไปนัก หนังออกฉายในช่วงฮาโลวีนของปี ค.ศ.2004 ก่อนจะกลายเป็นภาพยนตร์ม้ามืดที่กวาดรายได้จากทั่วโลกไปราว 103 ล้านเหรีญดอลลาร์สหรัฐ อาจจะเพราะตัวภาพยนตร์มีบทที่ฉลาดเฉลียว และมีกลิ่นอายเชิงปรัชญาที่ใกล้เคียงกับแนวคิดของ เซอเรน เคียร์เคอกอร์ (Søren Kierkegaard) ที่เชื่อว่าคนเราควรจะผ่านความทุกข์ทรมานเพื่อจะได้รับรู้ว่าความหมายในการมีชีวิตคืออะไรแฝงอยู่ เลยทำให้คนดูมองว่านี่ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์ที่จับตัวละครมาฆ่าฟันกันเท่านั้น

เกมสยองรวมถึงตัวเจมส์ วาน ที่ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ และลีห์ วันเนล ที่ขึ้นเครดิตเป็นผู้เขียนบท ก็กลายเป็นที่จดจำระดับแมสนับแต่บัดนั้น

 

พล็อตหนัง saw 1

รีวิวหนัง saw 1 พล็อตเรื่องอาจจะดูไม่มีอะไรแต่หนังค่อย ๆ ให้คนดูคิดและลุ้นตามไปตลอดตั้งแต่เปิดเรื่อง ให้ไปอยู่ในห้องน้ำสกปรกโสโครก แล้วหนังก็ทำให้คนดูผ่อนคลายด้วยบทสนทนาของตัวละครสั้น ๆ จากนั้นความอึดอัดก็คลืบคลานเข้ามาเมื่อทั้งคู่รู้ว่ามีแค่คนเดียวที่จะได้รอดออกไป

นี่คือภาพยนตร์ที่แนวสยองขวัญสืบสวน ที่ไม่ได้แย่ไปกว่าเรื่องอื่นเลย หนังเดินเรื่องตัดสลับอดีตและปัจจุบันเพื่อให้คนดูได้สงสัยในตัวละครมากยิ่งขึ้น และสิ่งที่คนดูจะคิดตามคือจะเอาตัวเองออกจากโซ่ที่ล่ามได้อย่างไร และจะมีวิธีไหนออกจากห้องน้ำนรกนี้ได้บ้าง คนดูอาจจะไม่กล้าดูภาคแรกเพราะคิดว่าคงสยอง ชวนอ้วกเน้นเลือดเยอะชวนแหวะ แต่น่าประหลาดใจที่หนังสามารถเดินเรื่องไปในเชิงให้คนดูลุ้นตามและสนใจได้อย่างประหลาด ถ้าดูจากทุกภาค ถือภาคนี้ถือว่าเบาสุด ๆ แล้วครับ

 

 

หนังพยายามกดดันอารมณ์ของคนดูเข้าไปอีกเพราะตัวละครเองก็กดดันมากพอ เนื่องจากมีตัวประกันอยู่ข้างนอก แถมเลื่อยฉลุที่มีก็ไม่สามารถเลื่อยให้โซ่ขาดได้ วิธีเดียวที่จะออกไปจากที่นี่ได้คือเลื่อยขาตัวเอง คือเราเองคงไม่ใจกล้าพอจะเฉือนขาตัวเองเป็นแน่แท้ ดูหนัง saw 2

คะแนนภาพยนตร์ 8/10 หนังไม่จำเป็นต้องเอาฉากชวนแหวะมาทำให้หนังดูน่าขยะแขยง แต่หนังทำได้โคตรดีในเรื่องกดดันอารมณ์คนดู ทำให้คนดูกดดันและพยายามเอาใจช่วยให้ตัวละครหาทางออกจนเจอ ซึ่งเราก็อดคิดไม่ได้ที่จะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์นั้น

 

รีวิวหนัง saw 1

จุดกำเนิดของหนังสายโหดแห่งยุคที่คลอดภาคต่อมาไม่รู้จบ ทั้งๆ ที่ภาคแรกเองก็หนังก็มีโทนเป็นหนังสยองขวัญ ระทึกขวัญแบบสืบสวนมาตั้งต้น แต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นหนังทรมานทรกรรมคนด้วยเครื่องมือและกับดักต่างๆ ไปเฉย อย่างไรก็ตามก็นับว่าเป็นจุดเปลี่ยนแปลงที่ทางแฟนๆ ของหนังก็ดูเหมือนจะรับได้ และพร้อมใจติดตามเจ้าฆาตกรไลฟ์โค้ชคนนี้มาโดยตลอด กลับมาที่ภาคแรกกันก่อน ในภาคนี้พล็อตเรื่องคือน่าสนใจมาก กับเรื่องราว คนสองคนที่ดูเหมือนจะไม่รู้จักกัน แต่กลับมาอยู่ในห้องเดียวกันพร้อมกับศพตรงกลางห้อง แค่นี้ก็ชวนติดตามไม่น้อยแล้วว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น”

วิธีการเล่าเรื่องของหนังมันเลยเป็นการค่อยๆ โยนข้อมูลเข้ามาให้กับคนดูมากขึ้น ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังของตัวละคร ว่าพวกเขามีที่มาที่ไปอย่างไร และเหตุใดต้องมาเจอกัน ก็เป็นส่วนหนึ่งของหนังที่น่าติดตามเลยทีเดียว ซึ่งหนังเองก็คงกลัวว่าหากจะเล่าเรื่องภายในห้องอย่างเดียว ก็ว่าจะน่าเบื่อเกินไป ในสถานการณ์นอกห้องก็เป็นอีกปัจจัยที่หนังพาไปชวนลุ้นกับเหตุการณ์ต่างๆ รวมถึงโชว์การฆ่าด้วยเครื่องมือสุดโหดได้มากขึ้น เพื่อตอบสนองคอหนังโหดอยู่บ้าง

 

 

ในพาร์ทอารมณ์หนังก็สร้างความกดดันได้เป็นอย่างดี และบิวท์ความตึงเครียดของคนดู โดยเฉพาะในช่วงท้ายๆ ความอยากเอาชีวิตรอดของตัวละครมันมีมากขึ้น ก็นำไปสู่บทสรุปที่แสนลงตัวในตอนท้ายที่ใครๆ ก็น่าจะจดจำกันได้มาถึงทุกวันนี้ ซึ่งส่วนสำคัญอีกอย่างของหนังอีกด้านก็คือ การดีไซน์เจ้าฆาตกร Jigsaw ออกมาทำตัวเสมือนเป็นไลฟ์โค้ช ให้คนเรียนรู้คุณค่าชีวิตนี่แหละที่ทำให้เขาแตกต่างจากฆาตกรโรคจิตรายอื่นๆ จนขึ้นแท่นเป็น Iconic ฆาตกรแห่งยุคอีกคนได้อย่างสวยงาม ด้วยลักษณะบุคลิกที่มีความแปลกแต่น่าสนใจ

ช่วงวันหยุดหาหนังอะไรแปลก ๆ ดูกันบ้างดีกว่า แล้วก็ลองมาดูหนังแนวฆาตกรรมกันบ้าง แต่หนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังฆาตกรรมธรรมดา แต่เป็นเกมส์วัดใจในการฆาตกรรม

ดร.ลอว์เรนซ์(Cary Elwes) และ อดัม(Leigh Whannell) คนแปลกหน้าสองคนที่จู่ ๆ ก็ตื่นมาเจอกันในห้องน้ำ แต่ถูกล่ามโซ่ไว้คนละมุมและมีศพผู้ชายคนหนึ่ง นอนจมกองเลือดอยู่กลางห้องในมือถือปืนไว้ โดยทั้งคู่จะมีซองจดหมายคนละ 1 ซอง ในซองจะมีเทปที่มีเสียงอัดไว้ว่าให้ฆ่าอีกฝ่ายทิ้งก่อน 06.00 น. saw 2 พากย์ไทย