รีวิว จักรกลเปลี่ยนโลก

 

 

หนังใหม่ netflix รีวิว Chappie จักรกลเปลี่ยนโลก แชปปี้ อยู่นี่จ้าแม่จ๋า

หุ่นที่พิเศษ เพราะเขาคิดเองได้ แต่กลับอยู่ในสิ่งแวดล้อมเลวๆ เขาจะดิ้นรนอย่างไรเมื่อผู้สร้างก็เดือดร้อนเช่นกัน

โลกของเรากำลังเปลี่ยนไปทุกวัน บางมุมของโลกอาจเต็มไปอาชญากรรมร้ายแรงที่เพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีก็พัฒนาไปไกลไม่แพ้กัน ‘Chappie จักรกลเปลี่ยนโลก’ เมื่อมนุษย์ก่อเรื่องร้ายกันมากขึ้น ตำรวจที่ถูกโปรแกรมมาอย่างดีจึงถูกผลิตและขายดีมากยิ่งขึ้น ตำรวจเหล่านั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็น “ดรอยด์” ตำรวจเหล็กไหลที่กระสุนธรรมดาเจาะไม่เข้า ฉับไวในการดำเนินการ และเฉียบขาดในการปฏิบัติการ

 

รีวิว จักรกลเปลี่ยนโลก

 

ผลการกำกับของ Neill Blomkamp ผู้เคยกำกับ ‘District 9’ (2009) และ ‘Elysium’ (2013) มาแล้ว แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงโลกอนาคตที่มีคนหลายชนชั้นและเหลื่อมล้ำกันเหมือนเรื่องก่อนๆ ในเรื่องนี้ เราเลือกจะเล่าถึงโจฮันเนสเบิร์กอีกครั้ง เปิดเผยสภาพของประเทศที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมและผู้คนที่ซ่องสุมกันสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง และพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับหุ่นยนต์

ไม่เพียงเท่านั้น ‘จักรกลเปลี่ยนโลก’ ยังเลือกจะบอกเล่าถึงปัญหาภายในของบริษัทผู้ผลิตหุ่นตำรวจพวกนี้ออกสู่ตลาด ดูหนัง

 

รีวิว จักรกลเปลี่ยนโลก

 

เรื่องย่อหนัง ‘Chappie’

ภายในบริษัทอย่าง Tetravaal ยังมีการเมืองกันภายใน เป็นความขัดแย้งกันอยู่ระหว่าง วินเซนต์ (Hugh Jackman) นายทหารเก่าผู้เชี่ยวชาญยุทธวิธีและฝันจะสร้างหุ่นยักษ์ที่จัดการระยะไกล กับดีออน (Dev Patel) หนุ่มเนิร์ดผู้ให้กำเนิดหุ่นตำรวจที่กำลังได้รับความนิยมสั่งเพิ่มแล้วเพิ่มอีกจากกรมตำรวจอยู่ในตอนนี้ ความเห็นที่ไม่ลงรอยกันยังผลให้เกิดการชิงดีชิงเด่นและก่อให้เกิดเรื่องราวในเรื่องที่ผมกำลังเขียนถึงอยู่นี้

ยัง ยังไม่พอ เมื่อดีออนเองก็แอบพัฒนาชิปตัวใหม่ขึ้นมาเพื่อสร้างหุ่นยนต์คิดเองได้ แต่ไม่ได้รับไฟเขียวให้ทำการทดลองจากหัวหน้าอย่างมิเชล แบรดลีย์ (Sigourney Weaver) เขาจึงเลือกจะทดลองด้วยการใส่มันลงในหุ่นที่กำลังจะถูกทำลาย และมันได้กลายมาเป็นหุ่นชื่อ “แชปปี้”

 

รีวิว จักรกลเปลี่ยนโลก

รีวิวหนัง ‘จักรกลเปลี่ยนโลก’

หลังไม่เปรี้ยงนักกับ ‘Elysium’ นีลก็กลับมาอีกครั้งกับการเล่าเรื่องบ้านเกิด เปลี่ยนไปเล่าเรื่องปัญญาประดิษฐ์แต่ก็ยังคงสไตล์ของหนังในแบบตัวเอง มีปรัชญาคอยแทรกซึม แม้ภายนอกจะเป็นแอ็คชั่นไซไฟทริลเลอร์ แต่เมื่อดูเนื้อในแล้ว แอ็คชั่นไม่ค่อยมากเท่าไหร่ และกลับมีมุมดราม่าเจือๆ มาอยู่ไม่น้อย

เรื่องราวนั้นดูจะให้ความสำคัญไม่น้อยกับ ความสัมพันธ์ระหว่างคนกับหุ่นยนต์ ดีออนเป็นเหมือนผู้สร้างของแชปปี้ ขณะเดียวกัน เขากลับไม่ได้ให้เวลาฟูมฟังแชปปี้มากพอ และเมื่อแชปปี้ถูกเลี้ยงดูในหมู่คนเลว เขาจึงเติบโตขึ้นมาเป็นแบบนั้น

 

รีวิว จักรกลเปลี่ยนโลก

 

หนังเริ่มต้นคล้ายๆ กับ ‘District 9’ ตรงที่ใส่ภาพข่าวและถ้อยคำสัมภาษณ์เพื่อให้ดูเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ก่อนจะเข้าสู่เหตุการณ์แรกของการทะลายแก๊งโจรซึ่งทำได้ค่อนข้างขึงขังดี แต่หลังจากนั้น หนังก็เริ่มดร็อปลงและหันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวดราม่าระหว่างคนในบริษัทเดียวกัน แม้ว่าเรื่องมันจะมีแง่มุมที่ดีและน่าสนใจ แต่การดำเนินเรื่องดูจะเป็นไปอย่างกระท่อนกระแท่น และดูน่าสงสัยในความสมจริงในบางส่วน ช่วงกลาง ยังพอจะพบส่วนแอ็คชั่นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ชวนลุ้นสนุกได้มากสักเท่าไหร่ แต่ ‘จักรกลเปลี่ยนโลก’ ก็มาตีตื้นได้บ้างในช่วงท้ายเรื่อง หนังกลับมาแอ็คชั่นผสานทริลเลอร์อีกครั้ง และทำให้คนดูได้สนุกลุ้นไปกับเรื่องราวได้พอประมาณ ดูหนังออนไลน์

 

 

รื่องย่อหนัง Chappie – จักรกลเปลี่ยนโลก  ฝากผลงานเอาไว้อย่างดีเยี่ยมกับ District 9 และ Elysium นีล บล็อมแคมป์ กลับมาอีกครั้งกับ ภาพยนตร์แอคชั่น -ไซไฟ-ทริลเลอร์ ไอเดียล้ำเลิศพร้อมสร้างความซึ้งปนมันส์ไปกับหุ่นยนต์ที่เปี่ยมด้วย “จิตใจ” อย่าง “แชปปี้” หุ่นยนต์ตำรวจที่ถูกอาชญากรขโมยไป และบรรจุโปรแกรมชนิดใหม่เข้าไป ทำให้แชปปี้กลายเป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่สามารถ “คิดวิเคราะห์” และ “รู้สึก” ได้เยี่ยงมนุษย์ ทว่าท่ามกลางพลังอันแข็งแกร่งของเหล่าหุ่นยนต์ตัวร้ายที่ครุกรุ่นขึ้น กลับเห็นแชปปี้เป็นอันตรายต่อชาติพันธุ์ และพวกมันก็จะไม่หยุดตามล่าเขาเพื่อคงความแข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์และมั่นใจว่า “จุดอ่อน” จะถูกกำจัดให้สิ้นซาก!

ถ้าปีที่แล้วไม่ได้ดูหนังหุ่นยนตร์ที่ Dilemma โหดสัสกับสถานการณ์โลกและตัวละครที่ดูสมจริงสมจังสุดๆ อย่าง Automata มาก่อน เราก็คงไม่เสียดายกับการไม่ไปต่อให้สุดทางของหนัง เท่าไหร่ ถึงรายละเอียดทั้งสองเรื่องจะแตกต่างกันมากก็เถอะ ขณะที่ Automata มันทิ้งคำถามกับมนุษยธรรมด้วยท่าทีอ่อนเบาแต่ทว่าโคตรจะลึกล้ำและรุนแรงกับความรู้สึกนึกคิดส่วนตัวของเรา แต่ ทั้งที่มนุษยชาติในโลกของหนังยังไม่ได้เผชิญกับการค้นพบการย้ายจิตสำนึกจากร่างหนึ่งไปสู่ร่างหนึ่ง มันก็ตัดความรับผิดชอบต่อประเด็นไปเสียอย่างนั้น แล้วทั้งหมดทั้งมวลที่หนังลากเราไปด้วยตลอดทางสุดท้ายมันกลับปล่อยให้เรายืนเคว้งอยู่กับบทสรุปเรื่องราวที่ยังจบไม่เสร็จ

 

 

เสียดายที่หนังมันทำให้เราเชื่อในจุดที่พาไปถึงไม่ได้น่ะ ถึงเราจะเออออคล้อยตามไปได้อยู่เพราะหนังมันก็ดูสนุกเพลินๆ แต่ตัวละครถูกเซ็ตให้เป็นไปตามทางที่เลือกไว้แล้วโดยที่ขาดการโต้แย้งกับความเป็นเหตุเป็นผลทั้งน้อยนิดและใหญ่โต ส่งผลให้สถานการณ์ที่กำหนดทิศทางหนังมันแบนเรียบแล้วยังติดขัดตามไปด้วย ขณะดูเราจะรู้สึกไม่ซื้อการตัดสินใจหรือการกระทำของตัวละครหลายๆ ครั้งไม่ว่าจะตัวหลักหรือตัวรอง อย่างเช่น การตัดสินใจให้หุ่นรบออกปฏิบัติภารกิจง่ายๆ ของตัวละคร Sigouney Weaver ที่ไม่มีการผ่านอนุมัติจากกฎหมายหรือหน่วยงานไรทั้งนั้น ที่ตอนท้ายสติหลุดไปไหนก็ไม่รู้ พี่ Hugh Jackman ก็เรียบราบแต๊ดแต๋ทั้งเรื่อง รวมถึง Dev Patel ที่โดนยิงแต่กลับไม่มีความขัดแย้งอะไรเลยว่าต้องไปโรงพยาบาลนะ!! จะมาย้ายจิตสำนึกยังไงไม่ได้ผลหรอก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มันยังแย้งความคิดทฤษฎีนี้ที่มันไม่มั่นใจอยู่เลย แล้วก็ Ninja กับ Yolandi พ่อจ๋า แม่จ๋าของ Chappie ที่เรารู้สึกว่าความคิดตัวละครมันแบนสุดๆ จนบางทีน่ารำคาญ แล้วพอถึงทีทำซึ้งมันก็เลยดูขัดความรู้สึก ทั้งที่เป็นตัวละครสำคัญและมีสีสันทั้งส่วนความสนุกและดราม่าน้ำตาแตกในเรื่อง จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่แผลใหญ่มากมายหรอกแต่มันกระจายอยู่กับทุกตัวละครมันก็เลยสำคัญในการทำให้เราเชื่อ สุดท้ายมันรู้สึกแค่หนังพยายามเข็นไปให้ถึงจุดที่พล็อตพาไปแต่กับประเด็นกลับดิ่งลงเหว

 

 

แล้วกว่าจะถึงตอนที่มันสนุกกับประเด็นที่เราเฝ้ารอมันก็ดันจบซะแล้ว…เรื่องราวหลังหนังจบมันน่าสนใจน่าลุ้นน่าติดตามกว่าหนังทั้งเรื่องเสียอีก ว่าพอย้ายจิตสำนึกเข้าร่างหุ่นยนตร์ได้แล้วคนพวกนี้จะอยู่รอดได้รึเปล่า หลังจากมวลมนุษยชาติรับรู้แล้วจะเกิดเอ็ฟเฟ็กต์อะไรขึ้น จะกลายเป็นการค้นพบที่ถูกยอมรับหรือสุดท้ายก็ต้องถูกล้างบางอยู่ดี แล้วการค้นพบความสำเร็จครั้งนี้มาจากหุ่นยนตร์ที่ถูกพัฒนาจนคิดเองได้รู้สึกเองได้ไม่ใช่คนนะโว้ยยยยยย..เราว่ามันน่าสนใจมากๆ ในการถกเถียงต่อ อีกอย่างหนึ่งคือภาพการตายโหดๆ ของ Amerika มันสะท้อนอะไรในภายหลังได้แค่นี้เองเหรอ แล้วเหลือพี่ Hugh Jackman ไว้เพื่ออะไรกัน คนเหี้ยมกว่าหุ่นยนตร์แค่นั้นเหรอ ตอนดูเราคาดหวังให้สุดท้ายมันพาไปถึงจุดๆ หนึ่งที่ฟินบรรลัย เสียดายๆ…

 

จักรกลเปลี่ยนโลก

ส่วนตัวเราคิดว่าความสำคัญของเรื่องไม่ใช่อยู่ที่การพิสูจน์ทฤษฎีของความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ที่คนทำจินตนาการไปไกลได้แค่ไหน แต่เราว่าความคิดเห็นและทัศนคติของมนุษยชาติกับสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นสิ่งที่เราหวังให้ พาไปถึง ไม่ใช่แค่ขมวดบทสรุปของตัวละครให้รับรู้ถึงแค่การแก้ปัญหาและทิ้งเรื่องความอยู่รอดของตัวละครพวกนี้ไว้ให้คนดูจินตนาการถึงโลกใหม่ของทั้งตัวละครและมวลมนุษยชาติในหนังด้วยตัวเอง การตื่นขึ้นมาของ Yolandi ในร่างหุ่นยนตร์มันก็เลยกลายเป็นแค่แฟนตาซีลีลาฟุ้งฝันแต่เบาแก่นสารเท่านั้นเอง…แล้วมันก็ไม่ได้เป็นหนังภาคต่อนี่..ใช่มั้ย ดูหนัง 4k

กลับมาอีกครั้งกับผลงานของผู้กำกับ “นีลล์ บล็อมแคมป์ (Neill Blomkamp)”  ผู้มีสไตล์หนังเด่นชัดเป็นเอกลักษณ์และหลายคนอาจไม่รู้จัก แต่ถ้าพูดถึงภาพยนตร์เสียดสีสังคมแนวดาร์คๆ ที่มีแนวคิดลึกล้ำ และมาพร้อมกับเหล่าสิ่งมีชีวิตหรือเกือบมีชีวิตต่างสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น District 9 กับเหล่าเอเลี่ยนหน้ากุ้งที่ถูกกักกัน และหุ่นยนตร์ทวงสิทธิมนุษยธรรมใน Elysium เชื่อว่าหลายคนคง อ๋อ! ขึ้นมาทันที สำหรับครั้งนี้เป็นการนำเสนอเรื่องราวผ่านในรูปแบบของของหุ่นยนต์ AI หรือหุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ ที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกับ Automata ที่พึ่งเข้าฉายในโรงไปเมื่อไม่นานมานี้ สำหรับพล็อตเรื่องที่ว่า หากหุ่นยนต์เกิดมีชีวิตจิตใจขึ้นมาเหมือนคน จะเป็นยังไง?

Chappie เป็นการภาพยนตร์มีแนวคิดมาจาก Tetra Vaal หนังโฆษณาสั้นๆ ที่ นีลล์ บล็อมแคมป์ กำกับเอง ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับตำรวจหุ่นยนต์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศโลกที่สาม และแน่นอนว่าสไตล์ของผู้กำกับคนนี้ก็ยังคงไว้แม้ในกระทั่งหนังเล็กๆ เรื่องนี้ด้วย

 

 

Chappie เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกรมตำรวจในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก ที่มีโครงการต้องการลดระดับอาชญากรในเมืองให้ลดลง โดยการนำ “หุ่นยนต์” มาทำหน้าที่นี้ จึงได้ร่วมมือกับบริษัท “Tetravaal” โดยการนำหุ่นยนต์ที่ถูกออกแบบโดย “ดีออน วิลสัน” (นำแสดงโดย เดฟ พาเทล) หนุ่มนักประดิษฐ์ที่ได้ให้กำเนิดหุ่นยนต์ตำรวจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากมาใช้ในโครงการ จึงทำให้มียอดการสั่งซื้อหุ่นยนต์จากกรมตำรวจอย่างต่อเนื่อง

โดยอีกด้านหนึ่ง “วินเซนต์” (นำแสดงโดย ฮิวจ์ แจ็คแมน) นายทหารเก่าที่เชี่ยวชาญทางการรบและมีความใฝ่ฝันที่จะสร้างหุ่นยนต์โจมตีจากระยะไกล ซึ่งในชณะนั้น “วินเซนต์” เองก็ได้พัฒนาโครงการที่เรียกว่า “Moose” นำเสนอให้กับทาง Tetravaal แต่ทาง Tetravaal และกรมตำรวจไม่สนใจ โปรเจคนี้จึงถูกปัดตกไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ “วินเซนต์” เกิดความอิจฉา “ดิออน” เป็นอย่างมาก จึงเป็นเหตุที่ทำให้พวกเขาเกิดความไม่ลงรอยและเกิดการชิงดีชิงเด่นขึ้นมา

 

 

จนกระทั่ง “ดีออน” ได้พัฒนาระบบ “ปัญญาประดิษฐ์” ขึ้นมาเพื่อจะนำมาใช้กับหุ่นยนต์ให้สามารถมีความคิดเป็นของตัวเองได้ แต่ทาง “มิเชล แบรดลีย์” (นำแสดงโดย  ซิกัวร์นีย์ วีเวอร์) CEO ของ Tetravaal ไม่อนุมัติและขอให้ยกเลิกโครงการนี้ไป แต่ว่า “ดีออน” เองไม่ยอมแพ้ เขาได้แอบลักลอบนำหุ่นยนต์ที่เกิดความเสียหายใช้งานไม่ได้ที่กำลังจะถูกทำลายทิ้งออกมา เพื่อจะนำมาทดสอบระบบปัญญาประดิษฐ์ของเขา แต่จู่ ๆ ก็เกิดมีโจรกลุ่มหนึ่งได้ขโมยหุ่นยนต์ตัวนี้ไปและได้บังคับให้ “ดีออน” โปรแกรมหุ่นตัวนี้เพื่อใช้ในปล้นธนาคาร (เอ๊า! งานเข้าแล้วสิ…) และยังได้ตั้งชื่อให้หุ่นยนตร์ตัวนี้ว่า “Chappie”

“Chappie” จึงได้เข้ามาอยู่ในแก๊งค์ปล้นธนาคารโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย แต่ “ดิออน” ก็พยายามที่จะสอนและปลูกฝังให้ “Chappie” ได้เรียนรู้และเติบโตไปในด้านที่ดีตลอดเวลาเท่าที่มีโอกาสจะทำได้ในขณะที่อยู่ท่ามกลางแก๊งค์โจร แต่ในขณะเดียวกัน “วินเซนต์” ก็คอยตามมารังควาน “ดิออน” อย่างไม่เลิกและยังแอบมีแผนการร้ายอีกด้วย ดูหนังออนไลน์ 4k