รีวิว จีไอโจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ

 

 

รีวิว หนังใหม่ G.I. Joe: The Rise of Cobra  จีไอโจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ

แม้สถานการณ์โรคไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 จะยังไม่คลี่คลาย แต่ผมก็ออกจากบ้านไปอยู่ในห้องปิดมืดๆ อย่างโรงหนังจนได้ เมื่อหนังน่าหนุกอย่าง “G.I.Joe The Rise of Cobra” เข้าฉาย ต้องขอไปพิสูจน์พร้อมภาพและเสียงอลังการเสียหน่อยจะเป็นไร

ภาพยนตร์เรื่องใหม่จากการกำกับของ Stephen Sommers ที่หยิบเอาแคแรคเตอร์ลิขสิทธิ์จาก Hasbro ผู้นำด้านของเล่นมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์ มาพร้อมกับเหล่าตัวแสดงมากมาย ที่ชื่อชั้นอาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่มากนัก แต่เชื่อว่าบางคนคงได้เลื่อนชั้นไปเป็นดาราใหญ่ได้ในอนาคต

 

รีวิว จีไอโจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ

 

เริ่มเรื่องก็เล่าที่มาที่ไปย้อนไปถึงในอดีตกาลโน่นเชียว เมื่อบรรพบุรุษตระกูลแมคคัลเลนก่อวีรกรรมเอาไว้ จนถูกประหารชีวิต แต่ยังทิ้งผู้สืบทอดให้ออกมาประกอบวีรกรรมวีรเวรกันต่อเนื่องจวบจน “อนาคตอันใกล้ไม่นานนัก” แมคคัลเลนคนปัจจุบันเป็นบุคคลผู้ทรงอิทธิพลในด้านการค้าอาวุธ ส่วนอาวุธชนิดใหม่นั้น ถูกจินตนาการให้น่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก (ด้วยจินตนาการที่ผสมมาจากหนังเรื่องอื่นอีกที) หัวรบชนิดพิเศษด้วยเทคโนโลยีนาโนไมท์ ที่ทำลายโลหะได้เพียงพริบตา ใครได้ครอบครองและมีจิตใจชั่วซ่อนอยู่ภายใน โลกย่อมไม่สงบเป็นแน่

G.I. Joe จึงเป็นทีมที่ภารกิจโดยตรงในการกำจัดต้นตอแห่งความไม่สงบนี้ แต่มันมิใช่เรื่องราวแค่นั้น แม้เทคโนโลยีต่างๆ ที่คิดค้นผลิตกันขึ้นจะดูทันสมัย (ซึ่งก็หยิบยืมความคิดมาจากฟากเอเชียอีกนั่นแหละ) แต่ก็คงไม่อาจจะต้านทานความฉ้อฉลในในมนุษย์ชั่วๆ บางคนได้หรอก

 

รีวิว จีไอโจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ

 

G.I. Joe เป็นซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มครับ แต่ไม่ได้มากับความสามารถพิเศษเหนือธรรมดาดังเช่น X-Men แต่อย่างใด พวกเขาคือมนุษย์ธรรมดาที่ได้รับการฝึกจนช่ำชองในการรบ พร้อมกับมีอาวุธระดับเทพมาช่วยให้รบเก่งขึ้น โดยเฉพาะชุดสูทเพิ่มพลัง อยากได้ใส่มั่งจังเลย ดูหนังออนไลน์

ทำเลในการรบก็เรียกได้ว่า ตรงไหนที่พอจะเอามารบกันได้ พี่ท่านเอาหมด ไม่ว่าจะใต้พื้นน้ำแข็งหรือบนพื้นน้ำแข็งของขั้วโลกเหนือ ใต้ดินอันร้อนระอุของทะเลทราย หรือแม้แแต่ในเมืองหลวงอย่างปารีส

เรื่องชื่อหรือฉายาของตัวละครก็เช่นกัน มากมายจนจำไม่ไหว บารอนเนส, สเนกอายส์, สตอร์ม ชาโดว์, เดสโตร, เฮฟวี่ ดิวตี้, หรือว่าจะเป็น เบรกเกอร์ ดูไปจำไป ยังไม่ทันเลยครับ ผมล่ะชอบนินจาสองสีจริงๆ ฝ่ายหนึ่งขาว ฝ่ายนึงดำ แต่ฝ่ายขาวกลับเป็นตัวโกงซะงั้น

 

รีวิว จีไอโจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ

เนื้อเรื่องคงไม่มีอะไรมากนัก แต่อาจจะงงงันในช่วงต้นว่าอะไรคืออะไร ใครเป็นพวกใคร ใครดีใครฉ้อฉล แต่หลังจากดูไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะปะติดปะต่อเนื้อเรื่องได้ ไม่มีอะไรมากไปกว่า ความทะเยอทะยานอันไม่มีวันจบสิ้นของมนุษย์ผู้มีความเลวในหัวใจคนหนึ่งเท่านั้นเอง การเล่าเรื่องอาจจะเล่าแบบย้อนอดีต (Flash Back) กันบ่อยนิดนึง คาดว่านี่คือ ภาคแรกที่ปูทางให้ผู้ชมรู้จักที่มาที่ไปของตัวละครก่อน เผื่อจะได้ติดตามกันต่อในภาคต่อๆ ไป ซึ่งผมว่ามันมีแน่ๆ จากที่หนังพยายามทิ้งบางสิ่งบางอย่างเอาไว้

ส่วนเรื่องความมันคงไม่ต้องบอก หนังเรื่องมีหลายฉากมากมายให้ได้ลุ้น ได้สนุก และได้มันไปกับมัน มีทั้งฉากต่อสู้กันกลางอากาศ บนบก และใต้น้ำ ทีมงานสร้างฉากการต่อสู้ได้หลากหลายทีเดียว หลายชัยภูมิทีเดียวที่ Cobra ฝ่ายร้ายแตกพ่ายด้วยฝ่ายดี G.I.Joe

 

รีวิว จีไอโจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬรีวิว จีไอโจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ

 

หลังภารกิจ ของเหล่าจีไอโจลุล่วงให้ “ Rise of the Cobra ” (สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ) พวกเขายังคงสานต่อภารกิจเรื่อยมา จวบจนถูกสั่งฆ่าอย่างไม่ปรานี เคราะห์ยังดีที่ยังไม่ตายหมด จีไอโจที่เหลือมุ่งมั่นที่จะเอาคืนผู้ที่สั่งสังหารและเอาเกียรติของตัวเองกลับคืนมาด้วยการล้างแค้นในภาคที่ชื่อ “Retaliation” ซึ่งความหมายของคำนี้ ก็คือ “การแก้แค้น” นั่นเอง

ในภาคนี้ไม่เพียงพวกเขาต้องสู้กับเหล่าคอบร้า เหล่าศัตรูตัวฉกาจ แต่ยังต้องเจอกับคนใหญ่คนโตในรัฐบาลที่คอยบงการสั่งฆ่าพวกเขาอยู่อีกด้วย

ในภาคนี้ ยังคงมีตัวละครสำคัญอยู่ครบ ขาดไม่ได้เลยคือนินจาขาวดำ สเน้คอาย และสตอร์มชาโดว์ ที่อยู่คนละฝั่งและไม่ถูกกันในภาคแรก ภาคนี้นั้นมันมีสีสันที่แตกต่างออกไป แต่ก็ยังไม่ทิ้งช่องว่างของความบาดหมางที่ยังมีต่อกัน (ที่ดูจะไร้เหตุผลอยู่สักหน่อย) แต่คราวนี้ พวกเขาเจอตัวละครใหม่ โจ (Bruce Willis) คนที่ทำให้หน่วยนี้มีชื่อ G.I. Joe นั่นเอง ที่จะมาช่วยกันล้างแค้นให้สาสมไปด้วยกัน

 

 

“จีไอโจ สงครามระห่ำแค้นคอบร้าทมิฬ” เปลี่ยนผู้กำกับฯ เป็น Jon M. Chu จาก Step Up 2: The Streets และ Step Up 3D หนังดูจะลดเอ็ฟเฟ็กต์เฝือๆ ลง คงไว้แต่ฉากแอ็คชั่นที่ดูสนุกๆ ดิบๆ ขึ้น ทว่าเรื่องเนื้อหาและพล็อตก็ยังจะเป็นจุดอ่อนอยู่เช่นเดิม

เรื่องราวของเหล่าฮีโร่ที่ต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายให้มีความทันสมัย เป็นเรื่องราวของความดีที่ต่อสู้กับปีศาจร้ายที่ชั่วช้าที่สุด จากเทือกเขาในเอเชียกลาง จนถึงกลางทะเลทรายของอียิปต์ ลัดเลาะไปตามถนนที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนของนครปารีส จนถึงใต้ก้อนน้ำแข็งของขั้วโลกเหนือ ทีมทหารระดับหัวกะทิที่รู้จักกันในชื่อกลุ่ม จีไอโจ ได้ร่วมผจญภัยที่ตื่นเต้นไม่หยุดไม่หย่อน เมื่อพวกเขาใช้เทคโนโลยีในการสอดแนมแห่งโลกอนาคต และอุปกรณ์ทางทหารเพื่อต่อสู้กับนักค้าอาวุธที่ชั่วร้ายอย่างเดสโทร รวมถึงภัยคุกคามที่นับวันจะยิ่งร้ายแรงขององค์กรลึกลับที่ชื่อว่าคอบร้า ที่ทำให้ทั่วทั้งโลกเกิดความสับสนวุ่นวาย

 

 

กล่าวคือ คิดอยู่แล้วล่ะว่ามันต้องออกมาเอามันส์แบบไม่ต้องคิดอะไรให้เปลืองแรง สาระก็อย่าไปคาดหวังให้มากความ และหนังต้องทิ้งท้ายไว้ทำภาคต่อแบบพันเปอร์เซ็นต์

G.I. Joe คือหุ่นของเล่นยอดนิยมของอเมริกาครับ เป็นหุ่นทหารพิทักษ์โลกที่เด็กผู้ชายชื่นชอบกัน ในซีรี่ส์ Friends ก็ยังเคยเอามาแซวว่าถ้า บาร์บี้เป็นของคู่เด็กหญิง จีไอโจก็ต้องคู่กับเด็กชาย ว่ากันขนาดนั้นเลยน่ะนะครับ ดูหนังฟรี

 

จีไอโจ สงครามพิฆาตคอบร้าทมิฬ

ที่บอกว่าหนังตามคาดก็เพราะมันออกแนวบู๊กับแหลกตามแนวถนัดของผู้กำกับ Stephen Sommers แห่ง Deep Rising, The Mummy และ Van Helsing พระเอกของเรื่องก็คือเหล่าทหารเอกแห่งหน่วย G.I. Joe นำโดย ดุ๊ค (Channing Tatum), ริปคอร์ด (Marlon Wayans), สการ์เล็ตต์ (Rachel Nichols) แล้วก็สเน็ค อายส์ (Ray Park) ภายใต้การนำของท่านนายพลฮอว์ค (Dennis Quaid)

สำหรับภารกิจล่าสุดคือการตามหาอาวุธนาโนมหาประลัยตัวล่าสุดที่ เจมส์ แมคคัลเลน (Christopher Eccleston) คิดค้นขึ้น แต่พอสืบไปค้นมาก็ดูเหมือนว่าผู้อยู่เบื้องหลังจะเป็นเจมส์เองนั่นแหละ

 

 

อันนี้ผมก็พอเข้าใจล่ะครับ แกคงไม่อยากผูกหลายทบเดี๋ยวคนดูจะไม่ชอบแบบตอน Van Helsing ที่พี่ท่านพยายามผูกซ่อนปม สร้างตำนานใหม่ขึ้นมา แต่คนดูดันนิ่งและไม่ค่อยโอเคนัก งานนี้แกเลยเล่นง่ายๆ โยงเรื่องแค่พอดีคำซะเลย (ทว่าตัวกระผมเองชอบการผูกการโยงเรื่องแบบใน Van นะ มันเจ๋งดี)

ดาราก็คัดมาหน้าตาสวยหล่อเป็นหลัก (อาจจะยกเว้น Wayans ไว้คนนึง) และมีการพกเอาดาราขาประจำในหนังของ Sommers มากันครบ เริ่มจากพี่ Brendan Fraser มาเป็นจ่าสโตน คนฝึกสอนเหล่าจีไอหน้าใหม่ (ตอนเห็นแว่บแรกคิดขำๆ ว่าแกจะฝึกคนไปตีกับมัมมี่หรือเปล่า) เว็บดูหนังฟรี

 

 

ตามด้วย Arnold Vosloo ที่มาโผล่แบบแว้บไปแว้บมาจนคนดูงงเหมือนกันว่าแกจะมาทำอะไร แต่พอตอนจบก็ถึงบางอ้อ และที่ขาดไม่ได้คือ Kevin J. O’Connor ในบท ดร. ไมนด์เบนเดอร์ ที่พี่ชายของแฟนเก่าพระเอกไปเจอระหว่างปฏิบัติภารกิจสุดท้ายนั่นน่ะแหละครับ เรียกว่าเหล่าดารารับเชิญนี้ไปเรียกมาจากกองถ่าย The Mummy มายกแก๊งเลยล่ะ

ดูด้วยความมันส์ครับ เพลินแบบเรื่อยๆ ช่วงท้ายก็ตีกันมันส์พอสมควร (แต่ไม่ถึงกับมากอะไร) และที่ออกจะตะขิดตะขวงใจหน่อยคือตอนที่สเน็ค อายส์เผด็จศึกกับสตอร์ม ชาโดว์ (Byung-hun Lee) ในตอนท้ายน่ะครับ ที่ออกจะมันส์น้อยไปหน่อย แล้วพื้นที่มันก็แคบไปนิด จะวาดดาบ ฟาดแข้งก็ไม่ค่อยถึงใจเลย ไม่รู้เป็นเจตนาของผู้กำกับหรือเปล่าที่อยากให้สู้กันในที่แคบๆ

 

 

เอาเป็นว่าถ้าอยากเอามันส์แบบดูหนังการ์ตูนฉบับคนแสดงก็เรื่องนี้ได้เลยครับ คาดว่าถ้ามีภาคหน้าก็น่าจะมันส์ขึ้นแล้วล่ะ อุตส่าห์ปูเรื่องมาตั้งขนาดนี้แล้ว ส่วนภาคนี้ก็ถือว่าพอกล้อมแกล้ม สนุกแบบผ่านมาผ่านไป ตอนแรกคิดว่าจะซื้อเก็บ แต่พอดูแล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไรเป็นพิเศษ ให้อารมณ์เหมือนดูหนังบู๊ไซไฟที่ Effect หนาและอุดมระเบิดเรื่องหนึ่งเท่านั้นเอง

สำหรับแฟนของ Sommers นะครับ ความสนุกของหนังเรื่องนี้โดยส่วนตัวแล้วมองว่ายังไม่มากเท่า Deep Rising ครับ และไม่ได้เด็ดเท่า The Mummy สองภาคแรกด้วย เว็บดูหนัง