รีวิว ฉลาดเกมส์โกง
รีวิว ฉลาดเกมส์โกง พล็อตเรื่อง
ในโรงเรียนทวีปัญญามีเด็กหัวกะทินั่นก็คือ “ลิน” และ “แบงค์” ในตอนแรกทั้งคู่เป็นคู่แข่งกัน แต่เมื่อ “เกรซ” ไม่สามารถทำข้อสอบได้ลินจึงใช้วิธีการโกงเพื่อช่วยให้เกรซสอบผ่าน เมื่อ “พัฒน์” รู้ว่าลินช่วยเกรซจึงจ้างลินบอกข้อสอบพร้อมกับหาลูกค้ามาให้ลินซึ่งก็คือเพื่อนในห้อง ในตอนนั้นเองลินไม่ได้อยากจะโกงข้อสอบเพื่อแลกเงินแต่เมื่อเวลา
ผ่านไปลินจึงตอบตกลง จากการโกงขนาดเล็กเริ่มขยายไปเป็นการโกงข้อสอบระดับนานาชาติโดยเป็นการโกงข้อสอบSTIC แต่ลินไม่สามารถทำเองคนเดียวได้จึงไปชวนแบงค์ให้มาร่วมธุรกิจเปลี่ยนกระดาษคำตอบเป็นเงินล้าน แบงค์ไม่ชอบการโกงจึงปฏิเสธลินไปแต่ด้วยเหตุผลบางประการทำให้เขาตัดสินใจร่วมมือกับลิน เกรซ และพัฒน์ การโกงข้อสอบสุดเดือดจึงเริ่มขึ้น
บอกได้คำเดียวเลยค่ะว่า เดือด มาก เป็นการโกงข้อสอบที่มีทั้งความกดดัน ความเครียด และความมันส์ เหมือนเราอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆได้ร่วมลุ้นร่วมเชียร์และกดดันว่าลินและแบงค์จะโดนผู้คุมสอบจับได้หรือไม่ หนังใหม่netflix
เป็นหนังที่มีความเรียบง่ายแต่ในความเรียบง่ายกลับมีความสนุกซ่อนอยู่ทำให้เรื่องไม่น่าเบื่อเพราะต้องลุ้นตลอดเวลา เข้าถึงได้ง่ายทั้งเด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่เพราะเป็นเรื่องราวที่เราได้พบทั่วๆไปในชีวิตประจำวันเหมาะที่จะดูพร้อมกันทั้งครอบครัวจริงๆค่ะ
อย่างที่บอกเลยค่ะว่าพี่บาสได้รับบรีฟโจทย์สุดหินมาจากพี่เก้ง จิระ ผู้ที่เป็นผู้ร่วมอำนวยสร้างผลงานชิ้นเอกนี้ขึ้นมา พี่เก้งได้เสนอแนวคิดการโกงข้อสอบนานาชาติหารายได้โดยใช้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง จากเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนจากที่ต่าง ๆ ทั่วโลก ลอกข้อสอบโดยใช้ความแตกต่างของเขตเวลา ทีมงานจึงทำงานกันอย่างหนักเพื่อที่จะได้เขียนเบทภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมา
เวิร์คช็อปเข้มข้น
นักแสดงหลักทั้งสี่คนได้ผ่านการเวิร์คช็อปมาอย่างหนักหน่วง ต้องเล่นให้คนดูรู้สึกกดดันจริง เครียดจริง ซึ่งสร้างความกดดันและทรมานเป็นอย่างมากในการเวิร์คช็อปของนักแสดง
กลยุทธ์การโกงสุดล้ำ
การโกงว่ายากแล้วแต่โกงยังให้ไม่โดนจับได้นั้นยากกว่าเป็นสองเท่าหากวางแผนไม่ดีความลับแตกสิ่งที่ตามมาก็จะมีแต่ผลเสียไม่มีผลดีฉะนั้นการโกงข้อสอบของลินจึงใช้วิธีสุดล้ำอย่างเช่น โน๊ตเปียโนแทนคำตอบ เขียนใส่ยางลบ แกล้งอ้วก และอีกสารพัดวิธีทำให้หนังเดือดขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์
ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด
หลังจากที่เกิดปรากฏการณ์การโกงสนั่นจอ ทำรายได้หลักล้าน และถูกฉายไปเกือบทุกประเทศ ทำให้ในที่สุดฉลาดเกมส์โกงก็ถูกซื้อลิขสิทธิ์นำไปทำเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดโดยโปรดิวเซอร์มือทองสองท่าน
การันตีด้วยรางวัลมากมาย ซีรีย์ฮิตnetflix
หากใครที่ยังลังเลว่าควรดูจริงๆหรือเปล่าก็ต้องบอกเลยว่าเป็นภาพยนตร์ที่คู่ควรแก่การดูจริงๆค่ะ เพราะเป็นภาพยนตร์ที่คุณภาพสูง ได้รับรางวัลต่างๆมากมายทั้งในและนอกประเทศการันตีความดีงามของภาพยนตร์เรื่องนี้
ถ้าเราจะต้องโกงเพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง สิ่งที่อาจจะเป็นความสุข ความสะดวกสบาย แต่มันสิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นสิ่งชั่วคราว เราจะกล้าโกงอีกหรือไม่ แล้วจะโกงด้วยวิธีไหน ? นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่สำหรับภาพยนตร์ฉลาดเกมส์โกง ที่มีตัวละคร ลิน แบงค์ พัชร เกรซ ซึ่งแต่ละคนมีมุมมองและวิธีการโกงที่ไม่เหมือนกัน เรามาดูกันว่าเราจะได้อะไรจากการโกงในครั้งนี้บ้าง
ฉลาดเกมส์โกงนับเป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดมุมมองหลากหลายมากเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ โดยทุกตัวละครจะสะท้อนออกมาให้เห็นว่า ทำไมเขาทำแบบนั้น ทำเพื่ออะไร โดยเหตุการณ์มันก็จะสะท้อนให้เห็นอยู่เลย โดยเริ่มที่คนแรก ลิน ในมุมมองของฉัน ลินเป็นคนเก่งมากคนนึงที่ใช้ความเก่งในทางที่ผิดเพราะว่าเขาได้รับแรงกดดันที่เข้ามา ทำให้เขาต้องนำความเก่งนั้นมาโกง ในการโกงครั้งนี้ยังแสดงให้เห็นหลายอย่าง นี่จะนับเป็นการโกงครั้งที่1 คือ การให้เพื่อนลอกข้อสอบ
เพราะว่าข้อสอบนั้นเหมือนกับที่เรียนพิเศษ ครูคนนั้นหาเงินกับนักเรียน โดยเอาข้อสอบไปสอนที่เรียนพิเศษ ทำให้นักเรียนที่ไปเรียนทำข้อสอบได้ เกิดความไม่ยุติธรรมและไม่ควรทำอย่างมาก มันเหมือนเป็นการไม่รับผิดชอบในอาชีพตัวเอง เพราะครูคือคนที่ต้องสอนให้นักเรียนรู้ในเรื่องที่ไม่รู้ ไม่ใช่มาทำแบบนี้ และในปัจจุบันก็มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่อีกมาก ซีรีย์netflix
ในเหตุการณ์นึงของลินก็คือลินมาสารภาพกับพ่อเขาว่าตัวเขานั้นบินไปโกงข้อสอบที่ต่างประเทศแต่โกหกพ่อว่าไปแข่งตอบคำถาม เป็นฉากที่ฉันร้องไห้เพียงเพราะว่าพ่อเขากอดตอบและพูดว่าไม่เป็นไร พ่ออยู่ตรงนี้ เป็นจุดที่ทำให้คิดว่าไม่ว่าเราจะทำความผิดจะหนักหนาขนาดไหนก็ยังมีพ่อแม่ที่อยู่กับเรา คอยช่วยเหลือเรา นั้นก็ทำให้ฉันนึกถึงเหตุการณ์นึง
ในชีวิตเราก็คือตอนที่ฉันต้องสอบเข้ามหาลัย ฉันไม่ได้ในคณะที่ฉันหวังฉันเสียใจมากๆ แต่พ่อแม่ก็ไม่ว่าฉันเลย แถมยังคอยให้กำลังใจอยู่ตลอด มันทำให้ฉันต้องกลับมาคิดใหม่ว่าฉันได้ทำอะไรให้ท่านภูมิใจบ้างรึเปล่าฉากนี้คงเป็นฉากที่ทำให้หลายๆคนคงน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัวรวมถึงฉันด้วย มันจับใจจริงๆ
แบงค์ ลูกชายร้านซักรีด แต่เรียนดีเลยได้ทุนเรียนฟรีจากโรงเรียน แบงค์เป็นตัวละครที่ทำให้ฉันประทับใจอยู่ไม่น้อย เรื่องที่แบงค์สะท้อนออกมาให้ฉันได้เห็นคือ ความคิดแรกเลย ทำไมเราต้องทนอยู่ในสภาพที่จนๆทั้งๆที่เราสามารถใช้ความสามารถเราเพื่อที่จะได้ความสบายมา แต่เขาใช้วิธีที่ผิด คือการโกง เขายอมเป็นคนโกงทั้งๆที่เขาประวัติใสสะอาด
มาก เป็นคนดี แต่ก็ยอมเพื่อให้ได้ซึ่งเงิน เขายอมไปโกงข้อสอบ STIC กับลิน เพียงเขาจะได้เงินในจำนวนเป็นล้านเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องอยู่ในสภาพจนๆ แต่นั่นก็เป็นจุดทำลายแบงค์เพราะว่าทางสถานสอบจับได้ว่าเขาโกง ทำให้โดนตัดสิทธิ์ทุกทาง นี่ก็เป็นเรื่องที่ฉันรู้สึกว่าทุกการโกงไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กยังไงมันก็คือการโกง สักวันมันก็ต้องจับได้ ม้นทำให้เราเสียอนาคตและในตอนที่จะไปโกงข้อสอบSTICแบงค์โดนรุมซ้อมโดยเขาไม่รู้ว่าฝีมือใคร เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้งเขา ทำให้เขาไม่สามารถไปสอบทุนต่างประเทศได้
เกรซเพื่อนสนิทของลิน ในมุมมองของฉัน เกรซเป็นคนที่ดี รักเพื่อน แต่เอาเข้าจริงจากตัวเรื่อง เกรซคือคนที่ได้ผลประโยชน์เยอะที่สุด เเละเเทบจะไม่ลงทุนอะไรเลย อย่างแรกเลยที่จะเข้าชมรมละครเวทีแต่ในคุณสมบัติกำหนดเกรด เกรซก็เลยไปขอให้ลินช่วยติว แต่ไปๆมาๆกลับกลายเป็นการโกงข้อสอบ เพียงแค่ต้องการคะแนนมายื่นเพื่อเข้าชมรมละครเวที แต่ถ้ามองในอีกมุมนึงนี่เป็นจุดนึงที่ทำให้เกิดคำถามว่าคนเรามีความถนัดไม่เท่ากัน ทำไมต้องเอาเกรดมาวัด
บางครั้งคนที่ไม่เก่งเลยเขามีความสนใจในการแสดงละครเวทีมาก แต่เขาเกรดไม่ผ่านทำให้เขาหมดโอกาสที่จะทำตามความฝันของเขา ซึ่งฉันว่าตรงนี้นักเรียนเกือบทุกคนน่าจะเข้าใจอย่างในช่วงเริ่มเรื่องเกรซเพื่อนของลินอยากที่จะเข้าชมรมละครเวทีแต่ในคุณสมบัติกำหนดเกรดรวม นี่เป็นจุดที่ทำให้เกิดคำถามว่าคนเรามีความถนัดไม่เท่ากัน ทำไมต้องเอาเกรดมาวัด บางครั้งคนที่ไม่เก่งเลยเขามีความสนใจในการแสดงละครเวทีมาก แต่เขาเกรดไม่ผ่านทำให้เขาหมด
โอกาสที่จะทำตามความฝันของเขา ซึ่งฉันว่าตรงนี้นักเรียนเกือบทุกคนน่าจะเข้าใจ และอีกอย่างที่ทำให้เกรซดูเป็นคนได้ประโยชน์ตลอดก็คือ พ่อของพัชรแฟนของเธอ ได้เสนอให้เธอไปเรียนต่างประเทศกับพัชร เธอจึงได้มาขอช่วยให้ลินกับแบงค์ช่วยโกงข้อสอบอีกครั้ง เพราะว่าเธอมีเงินเยอะพอที่เสี่ยงจะทำ ซึ่งนั้นมันก็เงินของแฟนเธอ เธอแทบไม่ลงทุนอะไรสักอย่างก็ได้สิ่งที่ตัวเองต้องการมา คนในสังคมเราแบบนี้มีเยอะ เราควรต้องระวังเพราะว่าบางคนก็มาในแนวมิชฉาชีพ
พัชร แฟนของเกรซ มีฐานะทางบ้านดีมาก สำหรับหนูเขาดูเป็นคนที่ไม่มีบทบาทเด่นมาก แต่ถ้าเราลองสังเกตดีๆ เขาเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องโกงทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เพราะถ้าหากเขาไม่เอาเรื่องเเปะเจี๊ยะที่นักเรียนทุกคนต้องจ่ายให้กับโรงเรียนไปบอกลิน ทุกๆการโกงคงไม่เกิดเพราะว่าลินก็สงสัยว่าทำใมต้องจ่ายอีกทั้งๆที่ตัวเองก็ได้ทุนเรียนฟรี
การที่โรงเรียนทำแบบนี้มันไม่ถูกถึงแม้จะพูดนักหนาว่าเป็นค่าบำรุง แต่มันไม่ใช่ แบบนี้มันเหมือนกับโรงเรียนหากินกับนักเรียนทุกคนเหมือนเรื่องของที่ครูสอนพิเศษ และอีกทั้งพัชรก็ยังจ้างให้ลินโกงข้อสอบไฟนอลให้อีกด้วยโดยหาลูกค้าเยอะๆเพื่อจะได้เงินเยอะ และตอนไปโกงข้อสอบ STIC พัชรก็ยังเป็นคนเสนอ เขาที่ดูไม่มีอะไรกลับเป็นคนที่
กระตุ้นให้เกิดการโกงตลอด
ถึงแม้เรื่องนี้จะมีการโกงเยอะมากแต่ก็มีเรื่องที่ประทับใจแต่จะบอกว่าประทับใจก็ไม่ได้เพราะว่ามันเป็นการลอกข้อสอบ การลอกข้อสอบแทบจะมีอยู่ทุกโรงเรียน สิ่งที่ทำให้ประทับใจก็คือคนคิดบทเก่งมากที่ใช้วิธีการลอกข้อสอบแบบนี้ คือการเคาะโต๊ะบอกสัญลักษณ์คำตอบทำให้คนที่อยู่ในห้องรู้ได้ว่าเราจะบอกคำตอบอะไร นับเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงและประทับใจมาก แต่ก็คงเป็นแรงจูงใจของคนเขียนบทที่ต้องการบอกว่าไม่ว่าเราจะมีวิธีการโกงอย่างไร
ทุกวิธีมันไม่ถูกต้องสุดท้ายเราก็จะถูกจับได้ เหมือนในเรื่องนี้ลินถูกจับได้ว่าโกงข้อสอบทำข้อสอบให้เพื่อน จึงโดนตัดสิทธิ์การสอบชิงทุนไปต่างประเทศ นี่เป็นข้อเตือนใจเด็กทุกคนเลยว่าบางเรื่องเราทำผิดพลาดไปก็ใช่ว่ามันจะแก้ไขได้ บางครั้งโอกาสมีครั้งเดียวเเต่เราทำมันพลาดเราก็หมดโอกาส
เพราะว่าเราทำความผิดจากการโกงซึ่งมันไม่ควรเกิดอยู่แล้ว อีกทั้งตอนที่โกงข้อสอบ STIC ข้ามประเทศและโดนจับได้ ทำให้โดนตัดสิทธิ์การสอบ STIC ในครั้งต่อๆไป ทำให้ยิ่งหมดโอกาสที่จะไปเรียนต่อต่างประเทศเพราะว่าโลภที่อยากได้เงินจนไม่คำนึงถึงเรื่องที่จะตามมาอีก
ภาพยนตร์ทุกเรื่องให้ข้อคิดเราแตกต่างกัน แต่เรื่องนี้นับเป็นเรื่องที่ให้ข้อคิดที่ครบทุกมุมมองไม่ว่าจะสะท้อนเรื่องการเรียน การจ่ายเงินใต้โต๊ะ การโกงข้อสอบที่ก่อให้เกิดความผิดพลาดในชีวิต การสารภาพความผิดที่อาจจะทำให้เรื่องหนักมันเบาลงได้ และยังมีมุมมองด้านมานุษยวิทยาให้คิดเยอะมากเพราะแทบทุกจุด
ในเรื่องก็สามารถนำมามองได้หมด อยากให้ทุกคนได้ดูและมาวิเคราะห์หาข้อคิดเห็นและสามารถนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันและสุดท้ายเป็นคำพูดที่ลินพูดกับแบงค์ว่า ‘ ต่อให้แกไม่โกง ชีวิตมันก็โกงแกอยู่ดี ‘ เป็นคำพูดสั้นๆที่ทำให้เราสามารถเรียงลำดับเหตุการณ์ได้ว่าอะไรคือสิ่งที่ชีวิตโกงเรา
มาแรงมาก ปล่อยตัวอย่างก่อนหนังฉายสองอาทิตย์ คือเราไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้เขาโปรโมทยังไงนะแต่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้อยู่ในความทรงจำเราก่อนที่เขาจะปล่อยตัวอย่างเลย แต่พอปล่อยออกมาแล้วเราได้ดู เห้ยเดือดมากว่ะ โคตรน่าดู ตอนแรกเห็นเป็นผู้กำกับเคาท์ดาวน์เราก็…เพราะเคาท์ดาวน์นี่ยัดเยียดจังไม่ใช่แนวสุดๆ ตอนแรกที่เห็นตัวอย่างปล่อยมาเรานึกว่าอีกเดือนสองเดือนหนังถึงจะเข้าอ้าวเข้าแล้วเร็วจัง555
คนไปดูเยอะมากค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเพื่อนนักเรียนจับไปดูกัน ก็เออมันน่าสนใจนิเนอะ เนื้อเรื่องก็อยู่ในช่วงวัยเดียวกับพวกเราด้วย คือนี่เซนส์บอกแล้วไงว่าน่าจะออกมาดีดูจากตัวอย่าง และเซนส์นี่ก็ไม่เคยพลาดซะด้วย
ก่อนอื่นบอกก่อนเลยว่าเรา relate กับตัวละครในเรื่องมากๆ ด้วยความที่เป็นนักเรียนม.ปลายที่ต้องสอบแข่งขันเยอะแยะและเราเป็นคนที่อยากได้ทุนไปเรียนต่างประเทศเหมือนกัน เพราะงั้นอารมณ์การสอบแข่งขันความกดดันในเรื่องเนี่ยเราจะรับรู้ได้ชัดทีเดียว
![รีวิว ฉลาดเกมส์โกง](https://www.tvpoolonline.com/wp-content/uploads/2017/09/BadGenius4-M.jpg)
เราดูแล้วเราอึดอัด เราจะอ้วก คือเรารับความรู้สึกกดดันนั้นได้จริงๆ เราไม่ได้รู้สึกแย่ตรงช่วงไล่ล่าตื่นเต้นท้ายๆ แต่เป็นช่วงเริ่มวางแผนเริ่มโกงตอนนั้นแบบไม่ไหวแล้ว เราอึดอัด คือเราเข้าใจตัวละครแบงค์มากๆและได้แต่ภาวนาให้อย่าตัดสินใจไปในทางที่จะทำให้ชีวิตตัวเองเลวร้ายเลย ซึ่งบอกได้เลยว่าหนังบิวด์อารมณ์ได้ดีมาก คือเราคิดว่าถ้าเป็นคนรุ่นเรารุ่นเดียวกับในเรื่องไปดูน่าจะอิน เพราะตอนนี้สังคมการเรียนแข่งขันกันสูงแบบไม่รู้จะสูงขนาดนี้ไปทำไมทั้งๆที่ระบบยังตามไม่ทัน
ก็เรื่องนี้นักแสดงดี เล่นดีทุกคนเราชอบตัวนนมาก คือตอนต้นเรื่องกับท้ายเรื่องเนี่ยแสดงได้เหมือนเป็นคนละคนจริงๆ การพัฒนาตัวละครไปสูงมากและนนทำได้ดี ส่วนออกแบบเรายังเฉยๆอยู่ น่าจะต้องดูอีกสักเรื่องสองเรื่อง แต่เรื่องนี้ทำได้ดีนะ เจมส์ก็เจ๊มส์เจมส์อยากให้ได้บทอื่นแบบได้ปล่อยของๆบ้างสักที ส่วนเกรซเราว่าบทตัวละครเขามีปัญหาอ่ะ บทควรบอกคาแรคเตอร์เกรซที่ชัดเจนกว่านี้ แต่คนนี้มีเสน่ห์มาก เราเห็นในตัวอย่างสยามสแควร์ละไม่นึกว่าเป็นคนเดียวกัน รู้สึกการใช้สายตาต่างกันมาก เออน่าจะเก่งว่ะ
การดำเนินเรื่องดีสนุก ยิ่งการตัดต่อมุมภาพหลายๆอย่างสวย ยิ่งฉากลุ้นระทึกตื่นเต้นอันนี้อินจริงจัง ช่วงท้ายเรื่อง 40 นาทีตื่นเต้นจริงเหมือนที่หลายคนบอก แต่เราจะไปรู้สึกอึดอัดตอนกลางๆมากกว่า แต่ก็สัมผัสได้เลยว่าตอนท้ายเรานั่งใจเต้นตึกตักอยู่เหมือนกัน555 ถึงเรื่องนี้จะพล็อตโฮลเยอะแต่ก็ไม่ได้แบบทำให้หนังพังและมองข้ามไม่ได้ มันยังพอแถๆว่าเอออย่างนี้ก็ได้วะได้อยู่ ซึ่งบทอยู่ในระดับโอเคไปถึงดี ส่วนตอนจบเราขอบาย ยัดเยียดอีกแล้วจ้าาา ถ้าตัดไปเลยอาจจะดีกว่านี้นะไม่รู้สิ
ก็อยากให้ทุกคนไปดูกัน มันไม่เอื่อย มันสนุกตื่นเต้นเร้าใจและสามารถพาผู้ชมอินไปกับเรื่องได้ง่ายๆ เอาเป็นว่าดูเพลินคุ้มค่าตั๋วและน่าจะเป็นที่จดจำไปอีกนาน
trebeilnahoj, 4 พฤษภา 2017
ชอบพลอตเรื่องและคอนเซปรวมๆ หนังแม่งจิกกัดทุกอย่าง ตั้งแต่ความคาดหวังของผู้ใหญ่ต่อเด็ก ค่าบำรุงสถานที่
โรงเรียน = เรียนพิเศษ = ธุรกิจทางการศึกษา
ชอบการถ่ายภาพ ตัดไปตัดมา รู้สึกเหมือนไปสอบ stic ด้วยกันจริงๆ
ชอบนักแสดง รู้สึกกดดันไปพร้อมๆกัน อยากอ้วกเหมือนกัน เสียอย่างเดียวไม่ได้ฉลาดเหมือนกัน
ไม่ชอบความสมเหตุสมผลหลายอย่างในเรื่องอย่างคอนเซปตัวละคร และ จังหวะทุกอย่างที่ดูจะง่ายดายไปซะหมด แต่หักลบกับการลำดับภาพและนักแสดง ถือว่าแทนกันได้
มุกตลก มีบ้างประปราย บางฉากเป็นตลกร้ายที่ทำให้ขำแห้ง
ผิดหวังช่วงท้าย รู้สึกลึกๆเหมือนทีมงานกลัวที่จะไปให้สุดโต่ง
แต่คิดอีกมุม ความลงตัวในช่วงท้ายถือว่าไม่แย่มาก ค่อนข้างเป็นกลางต่อทุกคน ทั้งสายดาร์ค สายชอบคิดต่อ และสายโลกสวย
1.ความรู้สึกส่วนตัว ชอบนะ ชอบมาก ถึงจะคาดหวังสูงจนผิดหวังก็ยังชอบมากๆอยู่ดี
2.หลังเดินออกจากโรง รู้สึกขอบคุณปนแอบขมขื่นในใจนิดๆ
3.ขอบคุณที่มีหนังที่นำเสนอประเด็นที่แทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมไปแล้ว
4.ขมขื่นใจที่ สุดท้ายแล้ว ชีวิตจริงมันไม่ใช่หนัง เรายังปฏิเสธไม่ได้ว่าต้นทุนชีวิต สถาบัน และเกรด มันยังมีส่วนผลักดันคนหลายๆคนจริงๆ ถ้าการศึกษายังเป็นแบบนี้ (โคตรละเอียดอ่อน พูดไปก็เครียด)
5.เอาจริงๆแล้ว ถึงต้นทุนชีวิตจะมาแย่ขนาดไหน อย่าลืมว่าเราเป็นคนลงทุน และสร้างคุณค่าชีวิตเอง ทางเลือกมันมีมากมาย ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกทางไหนมากกว่า
6.และอีกอย่างคือในชีวิตจริง เราไม่สามารถเอาความถูกผิดของเรา ไปเป็นบรรทัดฐานวัดคนอื่นได้ ถึงแม้ว่าเราจะทำมันอยู่บ่อยๆในใจก็ตาม
7.สุดท้ายแล้ว ดูแล้วจะรู้สึกกระแทกใจ หน้าสั่นขนาดไหน
เราว่าให้บรรทัดฐานความถูกต้องของแต่ละคนวัดกันเองดีกว่า