รีวิว ยอดคนสืบระห่ำ 2

 

 

หนังใหม่ สนุกมากกกก มีความอลังการ ตระการตา ชอบการดีไซน์ฉาก การเซ็ท Element ต่างๆในเฟรมมันเก๋มาก ทำให้เราต้องคอยจ้องสิ่งที่เกิดขึ้นบนหน้าจอจนปวดตา (ฮา) แบบถ้าละสายตาไปนิดเดียวจะรู้สึกว่าพลาดอะไรบางอย่างไป “ละสายตาไม่ได้ตั้งแต่ฉากแรกยันฉากสุดท้าย” การถ่ายทำดีงาม แม้บางอย่าจะหาเหตุผลไม่ได้ จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่เพราะมันเป็น “มายากล” เราเลยสมยอมไปกับการโดนหนังหลอกโดยไม่รู้ตัว

เนื้อเรื่องภาคนี้เข้มข้นและสนุกกว่าภาคแรกเยอะมาก มีปมของตัวละครหลายตัวที่โยงมาเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างสวยงาม บางตัวละครออกแบบมาให้น่ารำคาญก็โคตรจะรำคาญมันเลย (ถือว่าประสบความสำเร็จ) ตัวละครหญิงตัวใหม่ความสวยเทียบ Isla Fisher ในบท เฮนลี่ รีฟส์ไม่ได้แต่ก็มีเสน่ห์และความน่ารักเฉพาะตัวที่ทำให้เราต้องแอบอมยิ้มไปกับการแสดงของนาง ยอมรับว่าหมั่นไส้นะ เพราะนางสวยไม่เท่าคนเดิมและอ้อล้อผู้ชายจนเกินงาม

 

รีวิว ยอดคนสืบระห่ำ 2

 

Jack Reacher : Never Go Back ยอดคนสืบระห่ำ 2 หนังแอ็คชั่นสุดระทึกใจ ที่เป็นภาคต่อของ Jack Reacher ยอดคนสืบระห่ำ เป็นหนังที่เกี่ยวกับเรื่องราวของแจ็ค รีชเชอร์ที่เข้ามาพัวพันกับคดีของผู้พันเทอร์เนอร์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว ทำให้แจ็คต้องยื่นมือเข้ามาช่วย และเขาเองก็ถูกไล่ล่าพร้อมกับสาวน้อย ที่สงสัยว่าจะเป็นลูกสาวของเขา

เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นที่ออกฉายในปี 2016 กำกับโดย Edward Zwick เขียนบทโดย Lee child, Edward Zwick, Richard Wenk

แสดงนำโดย Tom Cruise (ทอม ครูซ รับบทแจ็ค รีชเชอร์), Cobie Smulders (รับบท Susan Turner) , Aldis Hodge (รับบท Espin) และ Danika Yarosh (รับบท Samantha)

 

รีวิว ยอดคนสืบระห่ำ 2

 

เป็นภาพยนตร์แอ๊คชั่นสุดมัน ที่เป็นเรื่องราวของแจ็ค รีชเชอร์ อดีตนายทหาร ที่เดินทางมาพบผู้พันซูซาน เทอร์เนอร์ หลังจากที่ทั้งสองคุยกันทางโทรศัพท์หลายครั้ง แต่เมื่อเขามาถึงปรากฏว่าผู้พันเทอร์เนอร์ถูกนำตัวไปคุมขัง ทำให้แจ็ค รีชเชอร์ต้องหาทางช่วยเธอออกมาก่อนที่เธอจะถูกฆ่า

เมื่อคนร้ายรู้เรื่องแจ็ค รีชเชอร์ที่พยายามจะช่วยผู้พันเทอร์เนอร์ ทำให้เขาเองก็ต้องตกเป็นเป้าของคนร้ายอีกคน และในขณะนั้นเองเขาก็ถูกยื่นฟ้องค่าเลี้ยงดูบุตรจากผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้เขาต้องเดินทางไปพบสาวน้อยคนหนึ่งที่อาจเป็นลูกสาวของเขา และทำให้เธอต้องตกอยู่ในอันตรายไปด้วยอีกคน

แจ็ค รีชเชอร์ ได้พาผู้พันเทอร์เนอร์หนีออกจากที่คุมขัง ก่อนที่ทั้งสองจะรีบไปช่วยซาแมนธา ที่กำลังถูกคนร้ายตามล่าอยู่ และทั้งสามก็ตกเป็นเป้าของคนร้ายและเป็นที่ต้องการตัวของทางการ ทั้งสามจึงต้องทั้งหลบหนีจากการถูกไล่ล่าและต้องหาทางไขคดีเพื่อลบล้างความผิด

 

รีวิว ยอดคนสืบระห่ำ 2

Jack Reacher : Never Go Back ยอดคนสืบระห่ำ 2 เป็นหนังแอ็คชั่นสุดมันที่มีความระทึกใจตลอดทั้งเรื่อง กับฉากฆาตกรรม การไล่ล่า รวมทั้งการต่อสู้และยิงกันสนั่นจอ รวมทั้งเนื้อเรื่องเป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นแนวสืบสวน และต้องถูกไล่ล่าระหว่างทาง โดยผู้บงการนั้นซ่อนตัวอยู่ในที่มืด และเป็นผู้มีอิทธิพล ทำให้แจ็ค รีชเชอร์ และซูซาน เทอร์เนอร์ยากที่จะไขคดีได้ง่าย ๆ และต้องเจอกับคู่ปรับที่เป็นอดีตทหารเช่นเดียวกับแจ็ค รีชเชอร์ ทำให้ฉากการต่อสู้นั้นสนุกมันขึ้นมากเมื่อแจ็ค รีชเชอร์ต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่สูสี หนังที่มีความยาวถึง 2 ชั่วโมงแต่ทุกฉากก็มันหยด ไม่ได้มีฉากไหนที่น่าเบื่อเลย ดูหนังออนไลน์

รวมทั้งเหตุการณ์ตอนจบที่พลิกล็อคเมื่อซาแมนธา เด็กสาวที่ถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ไม่ใช่ลูกสาวของแจ็ค รีชเชอร์ ซึ่งด้วยนิสัยของเธอแล้วใคร ๆ ก็ต้องเดาว่าเป็นลูกสาวของเขาแน่ ๆ ด้วยหนังที่มีความมันระทึกใจ และเนื้อเรื่องที่มีความลึกลับทำให้Jack Reacher : Never Go Back เป็นหนังที่คอหนังแอ็คชั่นทั้งหลายไม่ควรพลาด

 

รีวิว ยอดคนสืบระห่ำ 2

 

ส่วนตัวแล้ว ผมเองยังไม่เคยดูภาคแรกของแจ๊ค รีชเชอร์ แล้วไปดูภาคสองจะเข้าใจไหม จะปะติดปะต่อถูกไหม ซึ่งต้องบอกเลยครับว่าดูรู้อย่างแน่นอนเพราะหนังไม่ได้เชื่อมโยงกับภาคแรกแบบดำเนินต่อกัน แต่มีจุดเชื่อมโยงแค่ตัวละครบางตัวครับ นอกนั้นหนังก็ใส่เกียร์ไปเล่า เรื่องใหม่ทันที สำหรับผมแล้วที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายกับเรื่องนี้ก็นับว่าตอบโจทย์พองามครับ ใครต้องการดูแอ๊คชั่นมันส์ๆ แบบเข้มๆ ดุดิบ ต่อยกัน

ชอบฟังเสียงกระสุนแบบดังๆ ก็ยังพอบันเทิงกับหนังเรื่องนี้ได้อยู่หรือใครอยากจะดูใบหน้าอันหล่อเหลาไม่เสื่อมคลายของทอม ครูซอย่างเดียวก็ไม่เป็นปัญหาครับ ห งบันเทิงในแบบพอดีครับ ดูเพลินๆ ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้หนักไปทางยิงกันหูดับตับไหม้อะไรขนาดนั้นนะครับ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ายอดคนสืบระห่ำ หนังก็จะหนัก ไปทางเรื่องราวการสืบสวนความจริงของพระเอกมากกว่าครับ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นในเชิงสอบสวนแบบหนักสมองขนาดนั้นนะครับ

 

 

เป็นเรื่องราวสืบสวนแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า สลับกับฉากต่อสู้เป็นระยะๆ พอให้คนดูได้เพลิดเพลินหรือกระตุ้นอารมณ์บ้างเป็นครั้งคราว มุกตลก อารมณ์ขันในภาคนี้ก็ยังมีพอให้ได้ครื้นเครงไม่ซีเรียสจนเกินไป ส่วนฉากแอ๊คชั่นนั้นก็จะเน้นแบบสมจริง ดิบเถื่อน ไม่ได้เว่อร์วังอะไรมาก ถ้าจะสู้กันก็คงต้องเอาศิลปะการป้องกันระยะใกล้มาใช้กันครับ

สำหรับเนื้อเรื่อง บทภาพยนตร์ในเรื่องนี้ผมว่าก็พอถูไถครับ คือดูไปเราไม่ได้รู้สึกต้องฉงน หรือสงสัยไปกับตัวละครมากนัก คือเป็นการเล่าไปแบบเรื่อยๆ ปมปัญหาอะไรต่างๆ ที่หนังวางมาก็ไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนจนเกินไป (ซึ่งยังงพระเอกเราก็ต้องหาทางรู้ความจริงจนได้) ซึ่งหนังก็ทำได้โอเคนะครับ ไม่น่าเบื่อจนเกินไปหรือยืดยาดมากความ แล้วก็ใส่แอ๊คชั่นมาประเคนให้ดูเหมาะเจาะไปกับเนื้อเรื่องกับสถานการณ์

 

 

สรุปแล้วถ้ารอบฉายของหมอแปลกมาร์เวล ยังไม่บดบังมากจนไม่มีจะฉายหรือเบื่อเอียนหนังฮีโร่ ก็สามารถตีตั๋วไปชมแจ๊ค รีชเชอร์ ยอดคนสืบระห่ำ 2 ได้สบายๆ ถ้าท่านอยากดูหนังแอ๊คชั่นเข้มๆ มันส์ๆ แบบดูได้สบายๆ เพลินๆ ย่อยง่ายหรือเป็นแฟนหนังทอม ครูซ ก็ไปดูเรื่องนี้ได้นะครับ พี่ทอมเราก็ไม่ทำให้ผิดหวังอยู่แล้ว นอกจากว่าหนังเรื่องนั้นมันจะดีมากดีน้อยแค่ไหน ซึ่งสำหรับเรื่องนี้แล้วแม้ไม่ถึงกับดียอดเยี่ยมแต่ก็ห่างไกลจากคำว่าแย่ครับ หนังฟรี

 

ยอดคนสืบระห่ำ 2

หนังภาค 2 ที่ทิ้งห่างจากภาคแรกไปถึง 4 ปี Jack Reacher เป็นหนังที่สร้างจากบทประพันธ์ชื่อดังของ ลี ไชลด์ เป็นฮีโร่ชื่อดังอีกคนในโลกวรรณกรรมที่ถูกหยิบมาสร้างเป็นภาพยนตร์ นิยายต้นฉบับนั้น ลี เขียนวีรกรรมของ แจ๊ค รีชเชอร์ ไว้ต่อเนื่องยาวถึง 21 เล่ม ภาคแรกหยิบเนื้อหามาจากเล่ม 9 ส่วน Never Go Back นั้นถูกหยิบมาจากเล่ม 18 และใช้ชื่อเดียวกับนิยาย ด้วยเหตุนี้เนื้อหาจึงไม่ได้ต่อเนื่องกัน ใครที่ไม่ได้ดูภาค 1 ก็สามารถดูภาคนี้ได้โดยไม่รู้สึกขาดตกอะไรไปเลย เพราะไม่มีการพูดถึงเนื้อหาในภาคก่อน และไม่มีตัวละครอื่น ๆ ต่อเนื่องมา

 

 

ภาคนี้แจ๊ค รีชเชอร์ มาถูกใจผู้พันคนสวย ซูซาน เทอร์เนอร์ เลยโทรมาจีบเธอเรื่อย ๆ และคอยส่งเบาะแสคนร้ายให้เธอสร้างผลงานเนือง ๆ หนึ่งในนั้นก็คือวีรกรรมจับนายอำเภอขี้โกงที่เราเห็นกันในตัวอย่างหนังนั่นแหละ แล้ววันหนึ่งที่แจ๊ค แอบไปหาซูซานที่กรมทหารกะเซอร์ไพรส์ แต่ก็พบว่าซูซาน โดนจับเข้าคุกไปแล้วด้วยข้อหาฉ้อโกงกองทัพ แจ๊ค มั่นใจว่าซูซานเป็นผู้บริสุทธิ์จึงสืบหาเบาะแส แต่โดนขัดขวางจากกองทัพที่ดูเหมือนจะรู้ว่า

แจ๊ค รีชเชอร์ จะต้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน เลยเตรียมรับมือไว้อย่างดี ด้วยการขุดประวัติแจ๊ค และเจอว่าแจ๊ค โดนลูกเมียฟ้องร้องผ่านกองทัพขอเรียกร้องค่าเลี้ยงดูแต่เมื่อแจ๊คยิ่งสืบค้นก็ยิ่งโดนตามล่าจากมือสังหาร ซึ่งลามไปถึง แซม เด็กสาววัย 15 ที่แจ๊คก็ยังงง ๆ ว่าใช่ลูกสาวเขาหรือไม่ และก่อนที่ซูซาน จะโดนเก็บ แจ๊คจึงต้องบุกไปชิงตัวเธอ ออกจากคุก แจ๊ค ซูซาน และแซม จึงต้องหนีการตามล่าจากกองทัพและขณะเดียวกันก็หาทางสืบค้นว่ากองทัพต้องการปกปิดอะไร และกระชากหน้ากากผู้ร้ายตัวจริงออกมา

 

 

เป็นภาคที่ดุเดือดเข้มข้น เนื้อหาเดินหน้าเร็วมาก แค่ 15 นาทีแรก ก็อัดใส่มาทั้งปริศนาและวิกฤตการณ์มากมาย ทั้งภัยมืดที่คุกคามผู้พันซูซาน ทั้งเรื่องลูกสาวของแจ๊ค สมกับที่นักวิจารณ์หนังสือบอกว่า Never Go back เป็นตอนที่ดีที่สุดของซีรีส์ แจ๊ค รีชเชอร์ แล้ว และรู้สึกได้ว่าสนุกน่าติดตามกว่าภาคแรกมาก แม้ไม่ต้องมีฉากแอ็คชั่นอลังการ แต่ละนาทีเดินหน้าไปก็ยิ่งเจอตัวละครใหม่ ๆ โผล่มาพัวพันกันมากมาย ดูหนังฟรี

สืบสาวไปก็ยิ่งเจอนายทหารระดับสูงขึ้น ๆ อยู่เบื้องหลัง ดูจะเป็นคู่ต่อสู้ที่ถือไม้เหนือกว่า แจ๊ค อยู่มาก ภาคนี้ถือว่า แจ๊ค ไม่ได้นำเดี่ยวบทยังกระจายความเด่นไปให้โคลบี้ สมัลเดอร์ ในบทผู้พันซูซาน อยู่มากในฐานะนายทหารหญิงที่ไม่ยอมลดราวาศอกให้กับแจ๊ค ห้ามมองว่าเธอเป็นผู้หญิง เธอทำได้ชั้นก็ต้องทำได้ เราเคยเห็น โคลบี้ โชว์ฉากแอ็คชั่นกันมาแล้วในบทเอเยนต์มาเรีย ฮิลล์ จาก The Avengers มาเรื่องนี้ในฐานะหนังแอ็คชั่นชัดเจน

 

 

ก็เลยได้เห็นโคลบี้โชว์ฉากพะบู๊กันหนัก ๆ มากขึ้น เช่นเดียวกับบทแซม ลูกสาวปริศนาของแจ๊ค ก็ไม่ได้ทำตัวเป็นภาระของทีม ยังใช้ความเป็นมิจฉาชีพของเธอเป็นประโยชน์อยู่หลายครั้ง ตัวร้ายในภาคนี้เป็นนักฆ่านิรนามที่เก่งและโหดมาก หนังที่มีตัวร้ายแบบนี้ถือว่าช่วยยกสถานะให้หนังน่าลุ้นกับสวัสดิภาพของฝั่งพระเอกมากขึ้น แล้วไอ้ตัวนี้ก็เก่งมากถนัดทั้งมือเปล่าและอาวุธ ขนาดที่ว่า แจ๊ค กับ ซูซาน ช่วยกันรุมยังเอาไม่ลง ส่งผลให้ฉากแอ็คชั่นช่วงท้ายได้เล่นกันแรง ๆ หนัก ๆ สมกับเป็นฉากไคลแมกซ์

ต้องยกประโยชน์ความดีงามส่วนหนึ่งให้กับฝีมือดัดแปลงบทภาพยนตร์ของริชาร์ด เวงค์ ชื่อนี้มีผลงานในช่วงหลังที่เชื่อถือได้ทั้ง The Magnificent Seven (2016) , The Equalizer (2012) , The Mechanic (2006) เรื่องนี้ยังได้ เอ็ดเวิร์ด ซวิค ผู้กำกับรุ่นเก๋าโดดมาร่วมเขียนบทด้วย เอ็ดเวิร์ด เคยร่วมงานกับ ทอม ครุยส์ มาแล้วจาก The Last Samurai (2003) รายนี้ไม่ได้ถนัดแอ็คชั่นเน้นมันส์ แต่ถนัดแนวแอ็คชั่นแซมในดราม่าอารมณ์หนัก ๆ สังเกตได้จากผลงานเด่น ๆ ที่ขึ้นหิ้งคลาสสิกหลายเรื่อง เช่น Legend Of The Fall (1994) , Courage Under Fire (1996) และ Blood Diamond (2006) เรื่องนี้ เอ็ดเวิร์ด ก็โชว์ทักษะผู้กำกับรุ่นเก๋าให้ได้เห็นว่าหนังแอ็คชั่นสนุกได้ โดยไม่ต้องมีระเบิดตูมตามหรือซีจีมากมาย แล้วก็ยังไม่วายทิ้งทายด้วยฉากดราม่าชวนซึ้งตามแนวถนัด