รีวิว สายลับจับบ้านเล็ก
ถ้ามองแต่พล็อตนี่บอกเลยว่าดาร์คมากที่ให้พระเอกตกหลุมรักพริตตี้ที่หวังรวยทางลัดด้วยการเป็นเมียน้อยเศรษฐี แต่พอมาทำเป็นหนังเขาก็ลดโทนความหม่นลงมาด้วยการทำเป็นหนังคอเมดี้แทรกมุกตลกทั้งเรื่อง
แต่เส้นหลักความสัมพันธ์ระหว่างพระนางก็ยังคงเกี่ยวข้องกับการพัฒนาคาแรคเตอร์ของนางเอกที่ค่อย ๆ เลิกเกาะสามีคนอื่นมายืนด้วยลำแข้งตัวเอง ซึ่งอาจจะบอกได้ว่ามาจากพลังรักของพระเอกนั่นเอง
.
‘จ๊อก’ (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) เป็นนักสืบที่ได้รับการว่าจ้างจากเมียหลวงให้ตามเก็บภาพสามีไปมีชู้กับ ‘น้ำปั่น’ (พีค ภัทรศยา) พริตตี้สาวคนสวย แต่เมื่อเขาตามสะกดรอยกลับตกหลุมรักเธอถึงแม้จะรู้สึกชังเธออยู่เหมือนกันที่หน้าตาสวยแต่ดันชอบแย่งสามีคนอื่น หนังใหม่netflix
.
สองอย่างที่ชอบในสายลับจับบ้านเล็กคือการวางคาแรคเตอร์ของน้ำปั่นให้เป็นผู้หญิงหลงผิดอยากมีบ้านเป็นของตัวเองแต่กลับหวังรวยทางลัดจากบรรดาเสี่ย ๆ ซึ่งหนังต้องค่อย ๆ ใช้ความสัมพันธ์ที่จริงใจของพระเอกมาช่วยพัฒนาความคิดก่อนจะกลับตัว และชอบความโรแมนติกของพระเอกที่เล่าผ่านการกระทำต่าง ๆ ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์
จนเราอินกับความรักที่ดูจริงใจแม้ความสัมพันธ์จะผ่านเข้ามาและรุกคืบอย่างรวดเร็ว การใช้เพลงไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ และเพลงคนของเธอ ถือเป็นการเลือกเพลงประกอบที่เสริมให้เห็นภาพของตัวละครชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย ซีรีย์ฮิตnetflix
.
ถ้าไม่นับความพยายามตลกส่วนเกินของโอปอล์และแจ็ค แฟนฉัน มุกตลกอื่น ๆ ในหนังถือว่าเล่นกับสถานการณ์ได้สร้างสรรค์ดี โดยเฉพาะสิ่งประดิษฐ์และแก๊งค์ทวงหนี้ที่ดูจะช่วยประคองให้หนังมีเสียงหัวเราะได้บ้าง ทำให้ภาพรวมของหนังจึงเป็นหนังคอเมดี้ดูสนุกภายใต้เนื้อหาที่ไม่ได้สดใสแต่กลับอมยิ้มได้ทั้งเรื่อง ที่สำคัญคือพีคน่ารักมาก ค่อนข้างชอบการแคสพีคมาเล่นบทไร้เดียงสาอะไรประมาณนี้แฮะ
“Movie From That Day” หนังเรื่องนี้ฉายเมื่อวันนั้น เป็นการพาทุกคนย้อนกลับไปให้ชวนคิดถึงผลงานหนังเรื่องดังที่เคยออกฉายที่โรงภาพยนตร์เมืองไทย โดยในวันนี้เป็นคราวของหนังไทยในความทรงจำอีกเรื่องจากค่ายหนังอารมณ์ดี จีทีเอช กับหนังดัง “สายลับจับบ้านเล็ก” (The Bedside Detective) ปฏิบัติการสืบสะกดรอยบ้านเล็ก…แต่ดันไปสะดุดรักเสียเอง อีกหนึ่งหนังมาสเตอร์พีชของพระเอกขวัญใจคนไทย หนังฮิตnetflix
สายลับจับบ้านเล็ก เป็นเรื่องราวของ จ๊อก ที่กำลังร้อนเงินเนื่องจากไปกู้เงินเพื่อเปิดร้านหมูกระทะพลังแสงอาทิตย์ แต่ก็ปิดตัวไป โดนแก๊งทหารนอกราชการตามทวงหนี้ จึงต้องผันตัวเองมาเป็นนักสืบชู้ โดยมี ไอ้แจ็ค ด็กร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่เข้าใจว่าจ๊อกเป็นนักสืบชื่อดัง กับ ฤทัย เจ๊ร้านคาราโอเกะ มาช่วยเหลือ และเมื่อมีคดี จาก คุณนายอรัญญา
รีวิว สายลับจับบ้านเล็ก พล็อตเรื่อง
ผู้ว่าจ้างรายใหม่เสนอเงินก้อนโตให้จ๊อกตามจับพฤติกรรมของ สารวัตรวศิน สามีที่ไปติดพัน พริตตี้สาวชื่อ น้องน้ำปั่น ซึ่งน้องน้ำปั่น ก็ดันแอบมีกิ๊กเป็น เสี่ยอดิสรณ์ เสี่ยเต็นท์รถรายใหญ่อยู่อีกคน เมื่อ คุณหญิงสุวิมล ภรรยาไฮซ้อของเสี่ยอดิสรณ์จ้าง สุทิน นักสืบเพื่อแบล็กเมล์น้ำปั่นอีกต่อหนึ่ง จ๊อกตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
นี่คือผลงานการกำกับและเขียนบทโดย “เอส-คมกฤษ ตรีวิมล” ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งชิ้นงานขึ้นหิ้งของเขา เขาได้ร่วมเขียนบทกับ “ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม” กลั่นกรองออกมาเป็นหนังตลกแทรกความรักที่ไม่อาจจะเป็นไปได้ หนังเข้าฉายครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2550 หรือ 14 ปีที่แล้ว และแน่นอนว่าหนังได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการหนังไทยได้อีกเช่นเคย
หนังมาพร้อมกับทีมนักแสดงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์”, “พีค ภัทรศยา”, “โอปอล์ ปาณิสรา”, “แจ็ค เฉลิมพล” และยังมีนักแสดงทั่วฟ้าเมืองไทยโผล่มารับเชิญเล็กๆ น้อยๆ ให้กับหนังเรื่องนี้จนเป็นสีสันที่โดดเด่น แม้ว่าหนังจะไม่ได้ขึ้นทำเนียบร้อยล้านได้ กับรายได้ตลอดโปรแกรมฉายที่ 70 ล้านบาท แต่ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ถูกนำไปต่อยอดได้อีกหลายทาง ไม่ว่าจะเป็นซิตคอมและหนังสั้น
ไม่เพียงเท่านั้น สายลับจับบ้านเล็ก ยังมาพร้อมกับเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ดังระเบิด อย่างเพลง “ไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ” ที่ได้ ดา เอ็นโดฟิน กับ ป๊อบ ปองกูล จับคู่ร้องเพลงด้วยกัน กลายเป็นหนึ่งในเพลงดูเอ็ตยอดนิยมตลอดกาล อีกทั้งยังมีเพลง “คนของเธอ” ที่พระเอกของเรื่องนำมาคัฟเวอร์ร้องใหม่ ที่เข้ากับเนื้อหาของหนังและกัดกินใจมากๆ
ภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติก คอมเมดี้ ผลงานการกำกับของ คมกฤษ ตรีวิมล ภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ จ๊อก นักสืบหนุ่มมือใหม่คนหนึ่งที่รับสืบเรื่องราวต่าง ๆ โดยเขา เปิดกิจการซ่อมโทรทัศน์ไว้บังหน้า ซึ่งเรื่องที่เขาต้องทำการสืบเรื่องล่าสุดก็เป็นเรื่องที่ทำให้เขาหนักใจและเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นักแสดงมากความสามารถมากมายมาร่วมแสดงไม่ว่าจะเป็นซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ที่มารับบทเป็น จ๊อก นักสืบหนุ่มมือใหม่ ที่ยังอ่อนต่อประสบการณ์ แต่ก็มีจุดขายไม่เหมือนใครเพราะเขารับสืบบ้านเล็กนั้นเอง คนต่อมาคือเฉลิมพล ทิฆัมพรธีรวงศ์ มารับบทเป็น แจ็ค เด็กในร้านซ่อมมอเตอร์ไซด์ที่เข้าใจมาโดยตลอดว่าจ๊อกเป็นนักสืบชื่อดังและทำเงินได้จากสืบมากมาย
คนต่อมาคือปณิสรา พิมพ์ปรุ มารับบทเป็น ฤทัย เจ๊เจ้าของร้านคาราโอเกะที่ชอบมาแทะโลมจ๊อก เธอทำหน้าที่เป็นคนที่คอยช่วยเฝ้ายามเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน คนต่อมาคือจารุภัส ปัทมศิริ มารับบทเป็น คุณนายเสาวภา ผู้ว่าจ้างรายใหม่ที่เสนอเงินก้อนโตให้จ๊อก เพื่อตามจับพฤติกรรมการซุกเด็กของสามี
คนต่อมาคือปะกาศิต โบสุวรรณ มารับบทเป็น สารวัตรวศิน สามีของคุณนายเสาวภา ที่ไปติดพันพริตตี้ชื่อว่า น้องน้ำปั่น และคนสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ มารับบทเป็น น้ำปั่น พริตตี้สาวสวยที่ดันแอบไปมีความสัมพันกับสามีชาวบ้าน โดยภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก เป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2558
รีวิว สายลับจับบ้านเล็ก ความรู้สึกหลังดู
ภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก เปิดเรื่องราวมาที่จ๊อก ชายหนุ่มที่กำลังร้อนเงินเพราะก่อนหน้าได้ไปกู้เงินเพื่อเปิดร้านหมูกระทะพลังแสงอาทิตย์ แต่กิจการดันเจ๊ง เป็นเหตุให้โดนแก๊งทวงหนี้มาตามทวง เขาจึงจำเป็นที่จะต้องผันตัวเองมาเป็นนักสืบบ้านเล็กหรือนักสืบชู้ โดยมี แจ๊ค เด็กร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ที่เข้าใจว่าจ๊อกเป็นนักสืบชื่อดัง กับ ฤทัย เจ๊ร้านคาราโอเกะ มาคอยมาช่วยเหลือและเป็นยามจำเป็นให้
วันหนึ่งมีคดีใหม่เข้ามาจาก คุณนายอรัญญา โดยเธอเสนอเงินก้อนโตให้จ๊อก เพื่อให้เขาช่วยตามจับพฤติกรรมของ สารวัตรวศิน สามีที่ไปติดพันพริตตี้สาวที่ชื่อ น้องน้ำปั่น
น้องน้ำปั่น ก็ดันแอบมีกิ๊กเป็น เสี่ยอดิสรณ์ เสี่ยเต็นท์รถรายใหญ่อยู่อีกคน เมื่อ คุณหญิงสุวิมล ภรรยาของเสี่ยอดิสรณ์จ้าง สุทิน นักสืบอีกคนเพื่อแบล็กเมล์น้ำปั่นอีกต่อหนึ่ง จ๊อกตัดสินใจยื่นมือเข้าช่วยเหลือน้องน้ำปั่น แล้วเรื่องราววุ่นๆจะเป็นอย่างไรต่อไปติดตามชมในภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก
– ความประทับใจหลังดูภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก
ภาพยนตร์เรื่องนี้ทั้งสนุกทั้งฮากันเลย จากเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนชวนติดตาม และเหล่านักแสดงมืออาชีพที่ถ่ายทอดความเป็นตัวละครนั้นๆออกมาได้เป็นอย่างดี ต้องดูนะคะกับภาพยนตร์เรื่อง สายลับจับบ้านเล็ก รับรองไม่ผิดหวังค่ะ
สายลับจับบ้านเล็ก (ไทย, คมกฤษ ตรีวิมล, 2550, C เกือบบวก)
ขอป้องกันตัวไว้ก่อนก็แล้วกัน ว่าผมเป็นแฟนหนังของจีทีเอช ดูหนังของจีทีเอชมาแม้จะไม่ทุกเรื่องแต่ก็ไม่เคยเกลียดหนังเรื่องไหนเลย (มีเข้าขั้น “ไม่ชอบ” ก็คือ หมากเตะรีเทิร์นส์ เท่านั้น) เพราะฉะนั้นการโพสครั้งนี้ไม่ใช่การดิสเครดิตจีทีเอช หรือมาจากกลุ่มคนที่พยายามต่อต้านจีทีเอชแต่อย่างใด
นอกจากเป็นหนังจีทีเอชที่ผมเกลียดที่สุด (ไม่นับ “โกยเถอะโยม” เพราะว่ายังไม่เคยดู และไม่คิดจะดู) นี่คือหนังของเหล่าผู้กำกับแฟนฉันที่ผมเกลียดที่สุดเช่นกัน (หนูหิ่นเดอะมูฟวี่ ผมยังชอบมากกว่าเรื่องนี้) แต่ถึงจะบอกว่าเกลียดหนังเรื่องนี้ อย่างน้อยหนังเรื่องนี้ก็มีข้อดีอยู่บ้าง ขอชี้แจงเป็นข้อๆไปก็แล้วกัน
- การแสดงที่สอบผ่าน ซันนี่+พีค+โอปอล์+เหล่าสามีตัณหากลับ+เหล่าเมียหลวงเหลาเหย่ ไม่ได้ให้การแสดงที่แย่อะไรมากนัก คนที่การแสดงมาตรฐาน drop ลงไปมากที่สุดคือ แจ๊ค ผมรู้สึกว่าเขาตื่นกล้องมากกว่าตอนเล่น “แฟนฉัน” เสียอีก…
- ประเด็นทางสังคมเรื่อง “บ้าน” ชอบตัวละครน้ำปั่นที่ฝันจะมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง เลยเลือกเส้นทางพริตตี้เพื่อทำงานเก็บเงิน และเป็นเมียเก็บเศรษฐีเพื่อเก็บเงินให้มากขึ้น เพื่อที่จะซื้อบ้านในฝันสักหลัง โดยที่เธอไม่รู้ความหมายของ “บ้าน” ที่แท้จริง
- เพลงที่เข้ามาถูกจังหวะ ทั้ง “ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ” ที่แทรกเข้ามาสองหน และ “คนของเธอ” ในตอนจบ สอดรับกับอารมณ์หนังตอนนั้นได้ดี หากแต่บริบทอื่นไม่ได้ช่วยให้เราอินกับสามฉากนั้นมากมายนัก
จบแล้วครับ ข้อดีของ “สายลับจับบ้านเล็ก”
ผมรู้สึกว่า “สายลับจับบ้านเล็ก” เป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นมาด้วยเจตนารมณ์ประมาณว่า เราจะทำหนังตลกรวมดาราจีทีเอชทั้งหลายทั้งปวงโดยมีผู้กำกับแฟนฉัน และนางเอกน่ารักๆ อีกหนึ่งคน
ทั้งหลายทั้งปวงนั้นจึงเหมือนเป็นเพียงหนังที่ทำแบบ “เอามันส์เข้าว่า”
สายลับจับบ้านเล็ก เป็นหนังจีทีเอชที่เริ่มกระเถิบตัวเข้าใกล้ความเป็นหนังตลกคาเฟ่เข้าไปทุกที แม้ว่ามุขคำหยาบในเรื่องนี้จะไม่มากเท่ากับหนังตลกคาเฟ่กำกับเรื่องก่อนหน้า แต่ก็ถือว่ามากเกินความจำเป็นไปอักโข (โดยเฉพาะไดอะล็อกของโอปอล์กับแจ๊ค มันดูผิดธรรมชาติไปหน่อย)
ตัวละครจำนวนมหาศาลที่เหมือนใส่เข้ามาเพื่อหางานให้คนทำ เช่น แก๊งทวงหนี้ที่ไม่เคยทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนไปถึงนักสืบนิสัยเลวแต่รักหมา (เฮียทิชชู่ห้าบาทเล่นได้โรคจิตดี) เหมือนเป็นตัวละครที่ใส่เข้ามาเพื่อให้เอื้อกับมุขแบบคาเฟ่ มุขประเภทเจ็บตัว มุขควาย และเพื่อฉากสตึๆ ท้ายเรื่องอย่างฉาก “พี่เก็บตกโดดรับกระสุนแทนซันนี่”
ถ้าไม่ติดว่าผมอยู่ในโรงหนัง ผมคงตะโกนด่าไปแล้วว่า “อะไรของเมิงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”
ผมอยากจะร้องไห้… เสียดายเงินเจ็ดสิบบาท ทั้งที่หนังก็วางพล็อตโรแมนติกของจ๊อกกับน้ำปั่นออกมาได้ไม่แย่ วางบทตลกของโอปอล์ออกมาได้ไม่เลว การแสดงก็โอเค แต่ทำไมบทภาพยนตร์และโครงเรื่องมันถึงได้เละเทะเหลวเป๋วได้ขนาดนี้??
ผมถึงบอกว่ามันเหมือนหนังสนองตัณหาคนทำน่ะครับ อย่างบทคนทวงหนี้ก็เหมือนใส่มาให้เพื่อนก๊วนแฟนฉันมีหนังเล่น (ถ้าจำไม่ผิดคือคุณปิ๊ง หมากเตะ) บทแจ๊คก็เหมือนใส่มาให้แจ๊คมีหนังเล่น ไม่มีความจำเป็นแม้แต่น้อย บทนักสืบเลวนั้นจะว่าไม่จำเป็นก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่เหตุการณ์ไล่ยิงกันในช่วงท้ายมันออกทะเลไปไกลโขเสียยิ่งกว่ามุขตลกสถุลของ “คนหิ้วหัว” เสียอีก!!!
หลังจากปฏิบัติการแย่งชิงซีดีคลิปนางเอกนัวเนียกับเสี่ย เมื่อพวกพระเอกนางเอกมาจนมุมไอ้นักสืบ นางเอกตะโกนออกมาว่า “อยากได้ซีดีนี่นักใช่มะ!!” แล้วก็ขว้างออกไปสุดแรงเกิด แล้วซีดีแผ่นนั้นก็ลอยไปตกใส่หน้าผากของปิ๊ง หมากเตะได้ยังไงก็ไม่รู้ แล้วแผ่นซีดีนั้นก็ไปถึงมือของคุณนายเมียไอ้เสี่ยตัณหากลับ!!! (อะไรเนี่ย!!)
โดยเฉพาะตอนที่ไอ้นักสืบชุดดำนั่นยิงนางเอกพร้อมกับพูดว่า “อีเมียน้อย!! ตายซะเถอะ” อันนี้เรียกว่าโคตรแห่งความมักง่ายของการเขียนบทครับ มักง่ายยิ่งกว่าฉากพ่อบ้านบอกความจริงแฮร์รี่ในสไปเดอร์แมนสาม ทั้งๆที่ฉากก่อนหน้านั้นไอ้นักสืบตัวนี้มันยังทำตากรุ้มกริ่มโลมเลียนางเอกอยู่เลย
ผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีมันยิงนางเอกแบบไม่ต้องคิดอะไร (แล้วก็ไปสู่ฉากสตึๆ คือซันนี่เอาตัวมาบังนางเอก แล้วเจ้าเก็บตกก็กระโดดม ารับกระสุนแทนซันนี่ แล้วไอ้นักสืบเลวแต่รักหมาก็เกิดอาการสำนึกผิด…. อะไรของมืงงงงง!!!!!) แถมทั้งเรื่องก็ไม่ได้มีส่วนไหนที่หนังบอกว่านักสืบตัวนี้เกลียดเมียน้อย เป็นพวกคลั่งศีลธรรม เพราะมันก็ทำงานนี้เพื่อเงินเท่านั้น