รีวิว ฮาวทูทิ้ง

 

 

รีวิว หนังไทยใหม่ สำหรับแฟน ๆ ประจำของ GDH ที่คาดหวังหนังอารมณ์ฟีลกู๊ดจากค่ายนี้ หรือคนที่เคยประทับใจผลงานของเต๋อ นวพล จาก “ฟรีแลนซ์…ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” แล้วคาดหวังความฮาในระดับนั้น ก็ต้องเตือนกันก่อนเลยว่า ห้ามคาดหวังความฟีลกู๊ด หรือความฮาใด ๆ จากเรื่องนี้ ซึ่งถ้าใครได้ชมตัวอย่างหนังกันมาแล้ว ก็พอจะคาดเดาอารมณ์ของ “ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” กันได้อยู่บ้างนะ ตลอดเวลา 1 ชั่วโมง 53 นาที ของหนัง แทบไม่มีเสียงหัวเราะให้ได้ยินเลย หรือถ้ามีสอง-สามมุก ก็เป็นหัวเราะแบบหึ ๆ เท่านั้น แต่ถ้าเทียบกับฉากที่ตัวละครน้ำตาไหลพราก นี่อัดแน่นกันมาหลายฉากเลย ดราม่า สาระ มาเต็ม เว็บดูหนังฟรี

 

รีวิว ฮาวทูทิ้ง

 

จีน เป็นนักเรียนนอกจากสวีเดนที่กลับมาอยู่กับครอบครัว ที่มี “เจ” พี่ชาย และแม่ที่ยังอยู่บ้านเดิมที่เคยเป็นโรงเรียนสอนดนตรีและรับซ่อมเครื่องดนตรี ที่พ่อเป็นผู้ริเริ่มกิจการแล้วก็จากไปมีครอบครัวใหม่นานมากแล้ว จีนจึงตั้งใจจะรีโนเวตชั้นล่างของบ้านเป็นออฟฟิศ ซึ่งสเต็ปแรกก็คือการโละข้าวของต่าง ๆ ทิ้ง ข้าวของแต่ละอย่างที่จีนและเจ พบในกองของเก่าเก็บก็ล้วนแต่มีอดีต และหนึ่งในนั้นก็คือกล้องและฟิล์มของเอ็ม อดีตแฟนของจีน ที่เธอเลิกกับเขาตอนที่ไปเรียนต่อสวีเดน จีนตัดสินใจเอากล้องไปคืนแต่ที่จริงนั้นเธอต้องการไปขอโทษเอ็ม เพื่อลบล้างความรู้สึกผิดในใจที่เคยทิ้งเอ็มไปอย่างไม่มีเยื่อใย และนี่คือจุดเริ่มต้นที่จีนกลับไปมีบทบาทในความคิดตัดสินใจครั้งใหญ่ของเอ็ม

ถ้ามองตามชื่อหนังและตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมา ก็จะสื่อให้เข้าใจว่านี่คือ “หนังรัก” ที่พูดถึงเยื่อใยต่อคนรักเก่า แต่เอาเข้าจริงแล้วเรื่องราวของเอ็มเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะ “ฮาวทูทิ้ง” ยังพูดถึงสิ่งต่าง ๆ รอบตัวจีนอีกมากผ่าน “ของเก่า” ที่ทำหน้าที่ตัวแทนเรื่องราวในอดีตมากมาย ทั้งเรื่องของพ่อที่ทิ้งไป ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเพื่อนอีกหลาย ๆ คน แต่ละเรื่องก็ทำหน้าที่ประหนึ่งจิ๊กซอว์ที่ต่อกันเป็นภาพที่เด่นชัดของจีน ดูหนัง

 

รีวิว ฮาวทูทิ้ง

 

ให้เรารู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น ซึ่งจีนเองก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเช่นกัน จากคำตอบโต้ของเอ็มและเพื่อนหลาย ๆ คน ที่ตำหนิเธอกลับมา ทำให้ “จีน” เป็นนางเอกหนังที่มีความเป็นปุถุชนมากสุดคนหนึ่งบนจอหนังไทย ที่ไม่ได้มีความสมบูรณ์พร้อม มีจุดที่แข็งขณะเดียวกันก็มีจุดที่อ่อนไหวอีกมาก ที่ทำให้เธอไม่สามารถตัดขาดความทรงจำเก่า ๆ ไปได้อย่างที่ตัวเองพูด แล้วทำให้การจัดบ้านของเธอต้องพัวพันไปกับอีกหลาย ๆ ชีวิต

ถ้ามองว่า “ฟรีแลนซ์” เป็นหนังที่เต๋อ ปรับเปลี่ยนตัวเองเข้าหาความเป็น GDH มากขึ้น แล้วก็ได้ผลตอบรับอย่างดี พอมาถึง “ฮาวทูทิ้ง” เต๋อ ก็ขอหันกลับไปเป็นตัวเองมากขึ้น เอาใจตลาดน้อยลง รอบนี้ไม่มีมุกฮา ไม่มีฉากกุ๊กกิ๊กระหว่างคู่พระนางให้คอยจิ้นเอาใจช่วย แม้กระทั่งรอยยิ้มของตัวละครยังแทบไม่เห็นเลย ก็เชื่อว่า GDH ก็คงไม่คาดหวังรายได้ระดับร้อยล้านหรอกนะ เพราะการที่ GDH ปล่อยหนังสองเรื่องติดกันแบบนี้ ก็มองเกมการตลาดมาเรียบร้อยแล้วล่ะ ไปหวังกำไรเอาจาก “ตุ๊ดซี่ส์” ส่วน “ฮาวทูทิ้ง” ก็ไปแนวหนังรางวัล ซึ่งตัวหนังเองใช้นักแสดงไม่กี่คน ส่วนใหญ่ก็เป็นนักแสดงโนเนม ก็ไม่น่าจะใช้ทุนสร้างมากมายนัก อย่างน้อยก็ไม่ขาดทุนแน่นอนล่ะ

 

รีวิว ฮาวทูทิ้ง

ซึ่งรอบนี้เต๋อก็ขอตามใจตัวเองอย่างเห็นได้ชัด ในทุกแง่มุมการนำเสนอ ทั้งการนำเสนอภาพในฟอร์แมต 2:3 ที่มีภาพกระจุกอยู่ตรงกลางจอ พื้นที่ซ้ายขวาของจอปล่อยดำมืดไปเลย สีสันทั้งเรื่องจืดซีด ไม่มีสีฉูดฉาด แดง เหลือง เขียวให้เห็น เน้นหนักแต่ขาว เทา ดำ โดยเฉพาะตัวจีนนั้นเธอจะใส่เสื้อขาวกางเกงดำตลอดทั้งเรื่อง เรียกได้ว่าเต๋อต้องการปูอารมณ์หม่นซึมให้คนดูตั้งแต่นาทีแรกของหนังเลย ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย

ดนตรีประกอบของหนังก็แทบไม่ได้ยิน หลาย ๆ ฉากใช้เสียงเชลโลต่ำ ๆ “ตึ่ม ตึ่ม” เข้ามาประกอบฉากสนทนาแค่นั้น ทำให้ “ฮาวทูทิ้ง” เป็นหนังที่เดินหน้าไปแต่ละนาทีด้วยความรู้สึกที่ “หนัก” แล้วเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ บนประเด็นที่ค่อนข้างเบา เพราะว่าด้วยปฏิบัติการทิ้งของเก่าของจีน ซึ่งผ่านไปเกือบชั่วโมงกว่า “เอ็ม” จะโผล่เข้ามาในเรื่อง ก็เพิ่มประเด็นหนักหน่วงเข้ามาอีก เพราะจีนเข้าไปในฐานะคนเก่าของเอ็ม ในวันที่เอ็มใช้ชีวิตคู่กับมี่แล้ว

 

รีวิว ฮาวทูทิ้ง

 

ด้วยความที่หนังเล่าเรื่องผ่าน “จีน” ที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง แล้วแทรกประเด็นยิบย่อยรอบตัวจีนเข้ามา ทำให้หนังไม่สามารถลงลึกในแต่ละประเด็นได้ครบถ้วน บางประเด็นก็ถูกทิ้งค้างให้เป็นข้อสงสัย อย่างเรื่องการจากไปของพ่อ ความบาดหมางของจีนกับเพื่อนสาวที่เธอเอาดับเบิ้ลเบสไปคืน แต่เท่าที่เห็นนี่ก็นับว่าหนักพอดูแล้ว ที่เหลือก็เลยถูกทิ้งไว้เป็นที่ว่างในจินตนาการของคนดูให้เลือกเติมเต็มกันเอาเอง

คนที่ควรได้รับเสียงชื่นชมมากที่สุดใน “ฮาวทูทิ้ง” ก็คือ ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง ในบท “จีน” ที่เห็นได้ชัดถึงการก้าวกระโดดของฝีมือการแสดง เป็นบทที่น่าเครียดมาก ไม่มีฉากไหนที่จะดูสบาย ๆ เลย เพราะเต๋อก็เลือกเล่นยาก เพราะหลาย ๆ ฉากเต๋อก็เลือกที่จะให้นักแสดงสื่ออารมณ์ความรู้สึกผ่านสายตาและสีหน้ามากกว่าคำพูด ฉากดราม่าเยอะมาก มีทั้งที่ต้องระเบิดอารมณ์ใส่กัน และแบบที่ยืนจ้องหน้ากันเงียบ ๆ แต่ต้องสื่ออารมณ์ให้ถึงคนดูให้ได้ ซึ่งออกแบบก็เอาอยู่ในทุกฉาก แล้วเล่นแบบไม่ห่วงสวยเลย ซันนี่ ในบท”เอ็ม” ออกมาไม่กี่นาทีเลย มาในมาดขรึม ๆ พูดน้อย แต่รู้สึกขัดตากับเคราของเอ็มมาก ดูหรอมแหรมไงไม่รู้

 

 

ชอบการแคสติ้งที่ใส่ใจในการเลือกคนมาเล่นเป็นพ่อแม่พี่น้องที่ดูมีความละม้ายเป็นไปได้ กับการเลือก อาภาศิริ นิติพน มาเป็นแม่ของจีน และ ถิรวัฒน์ โงสว่าง รับบท เจย์ มาเป็นพี่ชายของจีน ทั้งสามคนมีโครงหน้าเหลี่ยม กรามชัดเจนมาก ดูแล้วเชื่อว่าเนี่ย “แม่ลูก” กัน อาภาศิริ โผล่มาแค่สองฉาก แต่ทั้งสองฉากที่เธอโผล่มานี่ จัดหนัก จัดเต็ม ได้อย่างน่าชื่นชม โชว์ศักดิ์ศรีนักแสดงรุ่นเก่า แม้หนังจะไม่มีฉากกิมมิคอย่าง “ไปค่ะ พี่สุชาติ” ให้ถูกพูดถึงอย่าง “ฟรีแลนซ์” แต่ฉากโชว์ฝีมือของอาภาศิริก็สมควรได้รับการจดจำจากเรื่องนี้

ถิรวัฒน์ โงสว่าง และ ษริกา สารทศิลป์ศุภา ในบท “มี่” สองรายนี้ผมไม่คุ้นหน้ามาก่อน แต่ก็อยากชื่นชมว่าแสดงได้ดีมากดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็ต้องย้อนไปชื่นชมที่ตัวผู้กำกับ “เต๋อ” ที่รักษาลายเซ็นตรงนี้ไว้ได้ชัดเจน ผมมักจะทึ่งกับการถ่ายทอดการแสดงที่ดูเป็นธรรมชาติจากบรรดานักแสดงในหนังของเต๋อ บทสนทนา การแสดงออก ที่ไร้ซึ่งการประดิดประดอย ให้ความรู้สึกเหมือนได้ดูสารคดีชีวิตคนจริงๆ ไม่เหมือนว่ากำลังดูหนังที่สื่อผ่านการแสดงอยู่เลย อีกเรื่องที่อยากพูดถึง คือการรีโนเวตบ้านที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราว ไม่ใช่แค่หยิบเรื่องการทิ้งของเก่า แล้ว Move On มาเป็นประเด็นตั้งต้นเฉยๆ แต่รีโนเวตให้ดูจริง จากบ้านเก่าๆ โทรมๆ ทำออกมาแล้วสวย โล่ง สว่าง น่าอยู่จริง ดูหนังออนไลน์2022

 

 

สุดท้ายก็อยากจะชมเต๋ออีกในเรื่องการหยิบแง่มุมเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตมาขยายความได้น่าสนใจ อย่างเรื่องนี้ก็คือ “ของเก่า” ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวมนุษย์เราทุกคน ที่หลายคนมักจะผูกพันแล้วเก็บรักษามันไว้ จะด้วยเหตุผลมากมายทั้งความเสียดาย เป็นตัวแทนความทรงจำดีๆ แค่จุดเล็กๆ เนี่ย เต๋อสามารถหยิบแง่มุมต่างๆ ของ “ของเก่า” มาขยายได้มากมาย มันอาจจะเป็นของไร้ค่าสำหรับบางคน

แต่ขณะเดียวกันกลับเป็นของมีค่าที่ประเมินค่าไม่ได้กับอีกคน หรือมองในอีกมุมที่จีนตีความว่าของเก่าเปรียบเสมือนโซ่ตรวนที่เหนี่ยวรั้งชีวิต ถ้าปล่อยวางตัดทิ้งได้ ชีวิตก็จะ “Move On” ไปข้างหน้าได้ เช่นเดียวกับที่เธอทำกับเอ็ม ซึ่งการตัดทิ้ง หรือปล่อยวาง บางครั้งก็มีเส้นบางๆ คั่นไว้กับ “ความเห็นแก่ตัว” อย่างที่เพื่อนๆ และเอ็มต่างก็ใช้คำนี้มาตำหนิจีน

 

 

อีกจุดที่ชอบคือการตีความ “คำขอโทษ” ที่เต๋อนิยามมันผ่านมุมมองที่แตกต่างไว้ในเรื่องนี้ว่าบางครั้งการกล่าวคำขอโทษไม่ใช่เพื่อให้คนฟังรู้สึกดีแล้วยกโทษให้ แต่บางครั้งคำขอโทษก็ถูกใช้เพื่อประโยชน์ของผู้กล่าว ที่อยากจะใช้ “คำขอโทษ” เพื่อปลดปล่อยความรู้สึกผิดของตัวเองซะแล้วก้าวต่อไปเปรียบเหมือนกับการโยนความรู้สึก ความทรงจำ กลับไปที่คู่กรณีให้แบกรับมันเพียงลำพังต่อไป เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

สรุป “ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” หนังน้ำดีที่ไม่เอาใจตลาดวงกว้างไปแบบช้าๆ บนกราฟที่เป็นเส้นตรงไม่มีฉากไคลแมกซ์แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง “ฮาวทูทิ้ง” ก็เป็นหนังที่นำเสนอเรื่องราวในชีวิตที่ใกล้ตัวเราทุกคนผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ที่ดีชวนให้เราต้องมาย้อนคิดถึง “ของเก่า” ในบ้านเราเองได้เช่นกันแล้วการเลือกวันฉายในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2562 ก็เหมาะเจาะเสียยิ่งกับคอนเซ็ปต์ของหนัง ที่คนเราจะสามารถตัดเยื่อใยทิ้งของเก่า แล้ว move on ไปกับชีวิตในปี 2563 กันได้หรือไม่

ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ภาพยนตร์ไทยพลอตเก๋ ๆ ว่าด้วยการลืมคนรักในอดีต โดยผูกเรื่องราวกับการทิ้งสิ่งที่เป็นตัวแทนความทรงจำของคน(เคย)รักได้อย่างน่าเจ็บปวด

 

 ฮาวทูทิ้ง

ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยการพาคนดูเดินงง ๆ เข้าไปในในดงข้าวของรกเต็มบ้านของ “จีน” สถาปนิกสาวที่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาจะจัดบ้านใหม่ให้เป็นออฟฟิศแนวมินิมอลลิสม์ ด้วยการโละทิ้งของในบ้านให้เหลือแต่ข้าวของสิ่งจำเป็น ตามคำแนะนำของหนังสือที่เขียนโดย คอนโดะ มาริเอะที่เคยโด่งดังขายดีมากเมื่อหลายปีก่อน

แต่เมื่อเริ่มต้นทิ้งข้าวของ ก็พบว่ามีของหลายชิ้นที่เชื่อมโยงกับอดีตที่มีความหลังเจ็บปวดบางอย่าง เป็นต้นว่าเปียโนหลังใหญ่ของพ่อ หรือกล้องถ่ายรูปของแฟนเก่า ข้าวของแต่ละชิ้นที่ถูกทิ้ง ค่อย ๆ ทำให้คนดูรู้ว่าจีนมีความสัมพันธ์กับเจ้าของของพวกนั้นอย่างไร โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับพ่อและความสัมพันธ์กับเอ็มแฟนเก่า ที่ดูเหมือนส่งผลต่อชีวิตของเธอมากทีเดียว ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก

 

 

ช่วงครึ่งแรกค่อนข้างหงุดหงิดเล็กน้อยกับนิสัยของจีนที่ทำอะไรโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นเอาซะเลย เอะอะก็ทิ้งของทุกอย่างด้วยเหตุผลเดียวว่า “รก” เปียโนที่แม่หวงมากก็จะเอาไปขาย ซีดีที่เพื่อนรักให้เป็นของขวัญวันเกิดก็ถูกทิ้งเพราะเกะกะ จีนทิ้งทุกอย่างในชีวิตได้ง่าย ๆ แม้กระทั่งแฟนเก่า ก็สามารถทิ้งได้เมื่อการมีแฟนเป็นอุปสรรคต่อการเรียนต่อต่างประเทศ

หนังดำเนินเรื่องราวมาในโทนนิ่ง ๆ เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แต่ระหว่างทางก็แอบเติมรายละเอียดที่ทำให้เราเข้าใจทีละนิดว่าทำไมจีนถึงเป็นคนแบบนี้ และเมื่อหนังได้ใส่รายละเอียดเข้ามาในใจของคนดูจนล้นปริ่ม แค่เพียงโยนหินสักก้อนลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็กระเพื่อมท่วมท้นและพรั่งพรูออกมาจนล้นทะลัก ฉากที่จีนโทรศัพท์ไปหาพ่อว่าจะขายเปียโนที่เขาทิ้งไว้ เป็นฉากที่นิ่งแต่ทรงพลังไร้ซึ่งดนตรีประกอบหรือคำตอบโต้สนทนาจากปลายสาย แต่ด้วยอารมณ์ที่ถูกบิวด์มาตลอดตั้งแต่ต้น เมื่อถึงจุดที่มันอิ่มจนล้น แค่แตะต้องเพียงเบาๆ มันก็ล้นทะลักเป็นเขื่อนแตก

 

 

ในที่สุดเราก็เข้าใจได้ว่าต้นตอของความเป็นคนที่ชอบหนีปัญหาของจีนและเหมือนจะไม่รับผิดชอบต่อการ “ทิ้ง” สารพัดสิ่งอย่างในชีวิตแม้แต่คนที่ตัวเองรัก ก็มีที่มาจากการที่เธอถูก “ทิ้ง” จากพ่อนี่เอง

เรื่องราวสรุปในตอนท้ายว่า ทุกคนต่างก็ได้รับผลจากการถูกทิ้ง และรับมือกับการถูกทิ้งไม่เหมือนกัน ขณะที่จีนรับมือด้วยการ “ทิ้ง” ทุกอย่างให้พ้นจากชีวิต เอ็มแฟนเก่าของจีนก็รับมือกับด้วยการ “เก็บ”  เขาเก็บทุกอย่างที่เป็นความทรงจำของคนที่เขารัก เก็บกระทั่งความรู้สึกของตัวเอง และเดินหน้าต่อไปทั้งที่บาดแผลยังฝังลึก  ส่วนแม่ของจีนเลือกที่จะหลอกตัวเองอยู่กับอดีตที่เคยหวานชื่น และดันทุรังเก็บทุกอย่างไว้เป็นอย่างราวกับต้องการหยุดเวลาไว้ที่เดิม โดยที่ไม่สนใจว่าลูกสองคนต้องเติบโตในสภาพบ้านเก่า ๆ รก ๆ หลังเดิม โดยมีเปียโนของพ่อตั้งอยู่กลางบ้านให้ทิ่มแทงหัวใจทุกคนอยู่ทุกวี่ทุกวัน

ภาพยนตร์เรียบๆ แต่สอดใส่สัญลักษณ์เข้าไปเพียบเรื่องนี้กำกับโดยเต๋อ นวพล ทำออกมาได้สะเทือนอารมณ์แบบปวดร้าวลึกไม่ต้องบิ้วด์ด้วยภาพน้ำตาแตกหรือดราม่าท่วมจอแต่ก็ทำให้คนดูร้องไห้ปาดน้ำตาได้อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งไปกันได้ดีกับการแสดงของ“ออกแบบ” ชุติมณฑน์ที่แสดงสีหน้านิ่งไร้อารมณ์แต่แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ส่วนซันนี่ในบทของเอ็มแฟนเก่าของจีนเรื่องนี้มีมาดนิ่งขรึมที่อาจดูขัดๆ ตาบ้างเพราะชินแต่กับภาพตลกทะเล้นจนเคยแต่ก็จัดว่าพลิกบทบาทได้ดี  แต่คนที่ทรงพลังในการแสดงมากที่สุดก็คืออุ๋มอาภาสิริรับบทแม่ของจีนออกมาแต่ละครั้งเราก็สามารถสัมผัสได้ถึงความปวดร้าวจากการถูกทิ้งและรอวันที่ระเบิดทุกสิ่งทุกอย่างออกมา ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022