รีวิว เดอะฟอลคอนและเดอะวินเทอร์โซลเจอร์

 

 

รีวิว หนังใหม่ The Falcon and the Winter Soldier (2021 Mini TV Series Disney+) จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อคนที่หายไปหลัง 5 ปีจากธานอสดีดนิ้วกลับคือมา และ แซม วิลสัน ผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากกัปตันอเมริกาเป็นผู้ลับโล่ต่อ เขาจะสามารถแบกภาระการเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ขวัญใจประชาชนอันหนักอึ้งไว้ได้หรือไม่ ในThe Falcon and the Winter Soldier มีคำตอบครับ

The Falcon and the Winter Soldier เล่าเรื่องราวในปี 2024 หนึ่งปีหลังจากเหตุการณ์ศึกสุดท้าย Avengers: Endgame และกัปตันอเมริกาปลดเกษียณ

แซม วิลสัน หรือฟอลคอน ผู้ที่รับโลดต่อมาจากกัปตันอเมริกา ก็ใช้ชีวิตนายแบบบุคคลธรรมดา ไม่ได้ประจำการเป็นทหารอีกต่อไป ก็มีบ้างบางครั้งที่รับงานจากรัฐบาล แต่ชีวิตส่วนใหญ่แล้ว เขากลับไปหาครอบครัว ไปช่วยดูแลกิจการเรือหาปลาของพี่สาว ซึ่งเป็นกิจการที่สืบทอดมาจากครอบครัวของเขาเอง

 

รีวิว เดอะฟอลคอนและเดอะวินเทอร์โซลเจอร์

 

ภายในใจของแซมยังคิดถึงเพื่อนรัก สตีฟ โรเจอร์สอยู่อย่างไม่คลาย และที่หนักใจที่สุดคือ เขาจะสามารถเป็นกัปตันอเมริกาต่อจากสตีฟ โรเจอร์สไปได้อย่างไร จนท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจมอบโล่ของกัปตันอเมริกาให้กับรัฐบาล

ส่วนและ บักกี้ บาร์นส หรือ วินเทอร์โซลเจอร์ แม้จะปลีกตัว ตัวออกมาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอยู่ในเมืองหลวง และต้องเข้ารับการบำบัดจากเจ้าหน้าที่รัฐบาลโดยไม่ให้ขาด ซึ่งอยู่ในข้อตกลงที่จะต้องแลกกับการที่เขาไม่ต้องติดคุก

ทุกค่ำคืนบัคกี้นอนไม่หลับ ฝันร้ายอยู่ตลอดเวลาในสิ่งที่เขาเคยทำผิดกับผู้คนในอดีต เหตุการณ์ในสมัยที่เป็นวินเทอร์โซลเจอร์ยังตามมาหลอกหลอน แล้วเขาก็ยังคิดถึงเพื่อนรัก สตีฟ โรเจอร์สอยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกัน

 

รีวิว เดอะฟอลคอนและเดอะวินเทอร์โซลเจอร์

 

และสิ่งที่ทำให้ แซม วิลสัน กับ บักกี้ บาร์นส ตกใจมากที่สุดคือ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้มีการเปิดตัว Captain America คนใหม่ พร้อมกับถือโล่ไวเบรเนี่ยมออกมาประกาศต่อหน้าสื่อมวลชน แซม วิลสัน กับ บักกี้ บาร์นส รู้ทันทีว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง เพราะไม่มีใครเหมาะสมกับโล่ใบนี้

แต่แล้วเหตุการณ์ความไม่สงบก็เกิดขึ้น เมื่อกลุ่มแฟล็ก สแมชเชอร์ ออกปฏิบัติการสร้างความไม่สงบไปทั่วสหรัฐอเมริกา รวมถึงก่อความไม่สงบไปทั่วยุโรป อันเป็นผลพวงมาจากกลุ่มนี้ไม่พอใจที่รัฐบาลในอเมริกาและยุโรป ประกาศคืนบ้านพักที่อยู่อาศัยให้กับบุคคลที่หายตัวไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว กลับคืนมากลับเข้าไปอาศัยอยู่ในที่พักของตนเอง ทำให้บุคคลที่ไม่ได้หายไปตอนที่ธานอสดีดนิ้วต้องถูกขับไล่ออก กลายเป็นคนไร้บ้าน อดอยาก และไม่ได้รับความเป็นธรรม

แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือกลุ่มแฟล็ก สแมชเชอร์ มีผู้นำและสมาชิกหลายคนมีร่างกายที่แข็งแรงผิดปกติ เพราะได้รับเซรุ่ม super soldier ซึ่งเป็นเซรุ่มของกลุ่มไฮดร้าที่ทุกคนเข้าใจว่าสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว และกลุ่มนี้ก็มีแผนการณ์อันเลวร้ายที่จะนำไปสู่หายนะอันยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกาและผู้คนทั้งโลก

 

รีวิว เดอะฟอลคอนและเดอะวินเทอร์โซลเจอร์

ดังนั้น แซม วิลสัน กับ บักกี้ บาร์นส จึงกลับมาร่วมมือกันสืบหาให้ได้ว่า กลุ่มแฟล็ก สแมชเชอร์ คือใคร จะก่อนเหตุอะไรบ้าง และได้เซรุ่มของไฮดร้ามาจากไหน ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนั้นสามารถติดตามรับชมได้ในซีรีส์ The Falcon and the Winter Soldier จาก Disney+  Hotstar เลยครับ

The Falcon and the Winter Soldier เป็นซีรีส์จาก Marvel และ Disney ที่จับเอาตัวละครสำคัญ 2 ตัวมาพบกันคือแซม วิลสัน ฟอลคอน กับ บักกี้ บาร์นส วินเทอร์โซลเยอร์ แล้วก็เล่าเรื่องราวหลังจากที่จบศึก Avengers End Game บรรยากาศของซีรีส์ก็เป็นแนวคู่หู

 

รีวิว เดอะฟอลคอนและเดอะวินเทอร์โซลเจอร์

 

และเมื่อเป็นซีรีส์แนวคู่หู ก็ต้องมีเอกลักษณ์ที่สำคัญคือ ความไม่เข้าใจหรือความผิดใจกันในช่วงต้น การจำใจร่วมมือกันทำงาน จุดแตกหัก จุดลบล้างความเข้าใจผิด และการร่วมมือกันครั้งใหม่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จ สิ่งเหล่านี้ซีรีส์ก็ใส่มาครบเลยครับ ถ้าใครนึกไม่ออกให้คิดถึงหนังเรื่อง Bad boy, Men in Black, หรืออีกหลาย ๆ เรื่อง ใครชอบอะไรแบบนี้ The Falcon and the Winter Soldier ก็น่าจะเข้าทาง

โดยรวมแล้วซีรีส์เขาเล่าเรื่องดีและค่อนข้างสนุก ไม่ช้า ไม่อืดอาด อาจจะไม่ลื่นไหล กระโดกกระเดก แบบว่าเดี๋ยวข้ามไปฉากแอคชั่นบ้างแล้วก็ข้ามไปสู่การเล่าเรื่องบ้าง ก็ให้อภัยได้

 

รีวิว เดอะฟอลคอนและเดอะวินเทอร์โซลเจอร์

 

ใครที่ชอบดูความเป็นแอคชั่นเขาก็มีมาไม่แพ้ฉบับภาพยนตร์แลยเรียกได้ว่าทุกตอนนั้นมีฉากแอคชั่นให้เราไม่เบื่อ ซึ่งแต่ละฉากนั้นก็ทำมาได้ค่อนข้างดี ยิ่งฉากเปิดเรื่องที่ฟอลคอนปฏิบัติการช่วยตัวประกันบนฟากฟ้าทำได้สนุกเลยครับ

แต่เสียดายโดยรวมแล้วความสามารถของฟอลคอล รวมถึง ความสามารถของ วินเทอร์โซลเยอร์ จะลดลงไปจากจักรวาลหนังมาร์เวลในฉบับภาพยนตร์มาก ๆ ดูแล้วมันขัดใจ เพราะมันอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมหลายเหตุการณ์ 2 ตัวละครนี้สู้ไม่ได้ เช่นฉากที่สู้กับกัปตันอเมริกาคนใหม่ ขนาดตัวละคร 2 ตัวนี้รุม 2 ก็ยังแทบจะสู้ไม่ได้ มันผิดสามัญสำนึกไปเยอะทั้ง ๆ ที่ความสามารถของ 2 ตัวละครนี้มันแทบจะไม่แพ้ฮีโร่ที่มีพลังพิเศษเลยด้วยซ้ำ กลับกลายเป็นว่าตัวละคร 2 ตัวนี้เสน่ห์ด้านความสามารถหายไปอย่างน่าเสียดาย

ในช่วงแรกวิลสันมีความน่ารำคาญไม่น้อย แต่เข้าใจได้เพราะต้องแบกความหวังของกัปตันอเมริกาในฐานะเป็นผู้รับโล่ต่อ ที่ดีหน่อยคือบักกี้นี่แหละ มีอารมณ์ มีมิติ ภายในแววตาแสดงถึงการแบกรับอะไรหลายอย่างเอาไว้ แถมยังมีมุมที่เขาชดใช้ด้วย ในสิ่งที่เขาเคยทำไปในสมัยที่เป็น วินเทอร์โซลเยอร์ ถ้าจะเทคะแนนให้ในช่วงครึ่งแรกบักกี้ บาร์นส มาเต็ม ๆ เลยครับ

 

 

ส่วนกัปตันอเมริกาคนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบุคลิกท่าทาง ความคิดพฤติกรรมการตัดสินใจทำอะไรลงไป แม้ดูว่ามันจะน่าสมเพช แต่มันก็เป็นไปตามที่ทีมสร้างตั้งใจ คือตั้งใจทำให้เราคิดถึงความดีงานของกัปตันคนเดิม แต่อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายตัวละครตัวนี้มีมิติที่น่าสนใจ และมันสามารถสะท้อนกลับไปที่กัปตันอเมริกาคนเดิมในแง่ความคาดหวังจากผู้คน และนี่ก็ทำให้เราเห็นว่าไม่มีใครมาแทน สตีฟ โรเจอร์สได้นั่นเอง

ส่วนตัวละครของวิลสัน ฟอลคอน ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆจะไม่มีความโดดเด่นนัก แม้จะพยายามแล้วก็ตาม แต่โดยรวมถือว่าเป็นตัวละครสำคัญที่สุดซีรีส์ในเรื่องนี้ เพราะว่าเขาคือผู้รับโล่จากกัปตันอเมริกาโดยตรง แสดงว่าเขาคือความคาดหวังของกัปตันอเมริกาที่จะกลายเป็นฮีโร่คนสำคัญของอเมริกา ดังนั้นเขาจะต้องค้นหาตนเองให้ได้ว่าอะไรคือความเป็นฮีโร่ แล้วเมื่อเขาค้นหาความหมายของการเป็นฮีโร่ได้แล้ว เขาก็สามารถรับบทบาทของการเป็นกัปตันอเมริกาได้ดี

โดยเฉพาะตอนสุดท้ายที่เขาได้พูดกับสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกาต่อหน้าสื่อมวลชน เกี่ยวกับนโยบายการย้ายผู้คนพลัดถิ่น อำนาจในมือของผู้นำ และการตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทุกคำพูดของเขานั้นมันสะเทือนใจเป็นอย่างมาก และมันก็สามารถเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีอีกด้วย อาจจะพูดไปแล้วผมรู้สึกว่า คำพูดทั้งหมดของวิลสัน นี่แหละคือพระเอกตัวจริงของ The Falcon and the Winter Soldier เลยทีเดียว ช่วงท้ายคะแนนความเท่ต้องยกให้วิลสันมากกว่าบักกี้ไปขาดลอยเลยครับ

 

 

ซีรีส์สามารถสานต่อเรื่องราวจาก The Avenger End Game ได้ดี และนำเอาตะกอนหลายอย่างในจักรวาลหนังมาร์เวลมาใช้ได้ดีด้วย นำตัวละครในจักรวาลหนังบางตัวมาเล่าเรื่องสร้างมิติให้มีความน่าสนใจ อย่าง ชารอน คาร์เตอร์ สายลับสาวจากหน่วยซีลด์ (S.H.I.E.L.D.) ในซีรีส์เธอมีบทที่โดดเด่นมาก และที่ดียิ่งกว่าคือเธอยังมีความสวยมาก ๆ อีกด้วย

อีกตัวละครหนึ่งคือ บารอน ซีโม ตัวละครมหาวายร้าย ใน Captain America civil War เขาปั่นให้ตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ สู้กันแทบตายมาแล้ว แถมยังสะกดจิต winter soldier เอสไปใช้งานร้าย ๆ หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งในซีรีส์เขาก็มีบทบาทที่สำคัญ ในแบบที่ไม่สามารถปฏิเสธตัวละครตัวนี้ได้เลย

 

 

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่อาจพูดข้ามได้ เช่น ชุดของ ฟอลคอนในช่วงท้ายเรื่องนั้นดูทรงพลังมาก ผนวกกับอาวุธบางอย่างแล้ว โอโหเท่สุด ๆ  แต่ในแง่การออกแบบส่วนตัวผมไม่ชอบมากเช่นกัน

ส่วนตัวร้ายของเรื่องคือผู้นำของแฟล็ก สแมชเชอร์ มีแรงจูงใจที่ดี และมันก็สมเหตุสมผลที่ทำให้ผู้นำและกลุ่มนี้ก่อเหตุความไม่สงบ แต่ด้วยความที่ได้รับ เซรุ่ม super soldier ทำให้ผู้นำและสมาชิกบางคนมีความเก่งมาก และรู้สึกว่าเก่งจนเกินไปซะด้วย เก่งในขณะที่ว่าแซม วิลสัน กับ บักกี้ บาร์นส ที่มีประสบการณ์การต่อสู้มานานยังสู้ไม่ได้ อันนี้ก็ค่อนข้างเกินไป ดูหนังใหม่

มีการดำเนินเรื่องแบบสืบสวนสอบสวนที่ดี ฉากต่อสู้ก็ดี มีการสะท้อนความขัดแย้งเรื่องสีผิว ความไม่เท่าเทียมได้ดี ชอบตรงที่เขาใส่ความเป็นชีวิตเข้าไปในซีรีส์ด้วย มันทำให้เห็นว่าในชีวิตประจำวันของอดีตฮีโร่นั้นต้องทำอะไรบ้าง ต้องแบกรับภาระอะไรบ้าง มีปมอะไรอยู่ในใจบ้าง จุดนี้เลยทำให้ผมรู้สึกว่าซีรีย์เรื่องนี้มีชีวิตชีวาดี แซมกับบักกี้เป็นคู่หูที่พอใช้ได้ โดยรวมสนุกกว่าหนังในจักรวาลมาร์เวลหลายเรื่องเลยครับ อย่างน้อยก็สนุกกว่า Thor 1 และ Thor 2: The Dark World ละครับ

 

เดอะฟอลคอนและเดอะวินเทอร์โซลเจอร์

ต่อเนื่องกันไปกับซีรีส์ซุปเปอร์ฮีโร่ Marvel ที่อยู่ใน Disney+ Hotstar กับเรื่อง The Falcon and the Winter Soldier หรือในชื่อไทยว่า เดอะฟอลคอนและเดอะวินเทอร์โซลเจอร์ ที่สรุปความน่าสนใจของเรื่องนี้อย่างสั้น ๆ ว่านี่คือซีรีส์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนตอนดู Captain America: The Winter Soldier กลับมาอีกครั้ง ที่นอกจากเรื่องราวแนวซุปเปอร์ฮีโร่แล้ว ยังมีส่วนผสมของบรรยากาศทางการเมืองและการสะท้อนภาพสังคมที่ได้รับผลกระทบหลังเหตุการณ์ Endgame

The Falcon and the Winter Soldier กำกับโดย คารี สก็อกแลนด์ ที่เคยผ่านการกำกับบางตอนของซีรีส์สายการเมืองมาก่อนอย่าง House of Cards และ Marvel’s The Punisher และใน The Falcon and the Winter Soldier ก็ได้รับหน้าที่กำกับทั้งซีรีส์ นำทีมนักแสดงโดย แอนโทนี แมกกี ในบท แซม วิลสัน หรือ ฟอลคอน และ เซบาสเตียน สแตน ในบท บัคกี้ บาร์นส์ หรือ วินเทอร์โซลเจอร์

ซีรีส์เล่าเรื่องราวหลังจากที่ แซม วิลสัน ได้โล่มาจากกัปตันอเมริกา แต่แซมกลับรู้สึกว่าเขาไม่พร้อมที่จะสานต่อภาระที่ยิ่งใหญ่ของกัปตันอเมริกา จึงได้ส่งมอบโล่ให้กับทางการ นั่นทำให้ บัคกี้ ซึ่งกำลังหาทางหลุดพ้นจากอดีตที่ตัวเองได้ก่อไว้ในฐานะวินเทอร์โซลเยอร์ ไม่พอใจในการกระทำของแซม

 

 

ขณะที่ผลกระทบจาก End Game ทำให้เกิดกลุ่มก่อการร้ายใหม่ที่ชื่อ Flag Smashers ที่หวังจะสร้างโลกใหม่ขึ้นมาด้วยเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์ นั่นทำให้คนอเมริกันต้องการฮีโร่ที่มาปกป้องพวกเขา รัฐจึงได้เปิดตัว กัปตันอเมริกาคนใหม่! ด้วยปริศนาและความซับซ้อนของสถานการณ์ ทำให้ Falcon และ Winter Soldier ต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับเหล่าผู้ก่อการร้ายนำสันติสุขกลับมาให้อเมริกาอีกครั้ง

ตลอด 10 ปี การเดินทางของหนังและซีรีส์ของ Marvel นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่นำเสนอเรื่องราวแนวคู่หูผจญภัย โดดเด่นด้วยบทสนทนาเผ็ดร้อน โต้ตอบกันของทั้งสอง ที่เต็มไปด้วยมุกกัดจิกร้ายๆ แบบมีสไตล์ กลายเป็นคู่หูคู่กัดที่เมื่อเข้าฉากร่วมกันมันดึงดูดให้อยากติดตามเหลือเกิน ว่าจะมีอะไรมาแก้เผ็ดใส่กัน

แม้จะดูตามขนบไปหน่อยที่ความสัมพันธ์ระหว่าง แซม วิลสัน และ บัคกี้ เริ่มต้นด้วยความขัดแย้ง เผชิญบททดสอบ ปรับความเข้าใจ และใช้พลังมิตรภาพปราบปรามเหล่าร้าย แต่ในรายละเอียดนั้นถือว่า Marvel ใช้ประโยชน์จากการสร้างเป็นซีรีส์ในการสร้างความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ได้อย่างน่าสนใจ ดูหนังฟรี

 

 

แต่ละตอนจะค่อยๆ เพิ่มความขัดแย้งทางจิตใจ เมื่อคนหนึ่งไม่พร้อมเผชิญหน้ากับอนาคต กับอีกคนที่ไม่อาจก้าวพ้นจากอดีต โดยมีสถานการณ์ที่คอยบีบคั้นพวกเขาให้ต้องคิดและตัดสินใจ ทั้งหมดเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมมิติให้กับตัวละครทั้งสอง ทำให้อยากเอาใจช่วยให้พวกเขาผ่านอุปสรรคไปให้ได้ในแต่ละตอน

จะว่าไปแล้วตั้งแต่เส้นทางของ MCU (Marvel Cinematic Universe) มุ่งไปสู่การรวบรวมอัญมณีพลังเพื่อไปสู่ปลายทางในสงครามใหญ่ Avengers: Infinity War และ End Game สเกลของเรื่องราวก็ใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ และนั่นทำให้เราได้เห็นประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งบนโลกภาพยนตร์ แต่อีกด้านหนึ่งก็ทำให้การเล่าเรื่องในมุมที่ใกล้ชิดกับมนุษย์นั้นค่อยๆ ลดลง ซึ่งใน The Falcon and the Winter Soldier คือการกลับมาสู่เส้นทางที่เล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ “คน” แบบเต็ม ๆ อีกครั้ง