รีวิว เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์

 

 

รีวิว หนังใหม่ ทิ้งห่าง ‘The Matrix’ ภาคแรกมาร่วม 22 ปีสำหรับภาคต่อของหนังที่มาปฏิวัติวงการภาพยนตร์ช่วงเข้ายุค 2000 แต่การกลับมาครั้งนี้ของ ‘The Matrix Resurrections’ หลังผ่านไป 2 ทศวรรษที่องค์ความรู้เรื่องเมตาเวิร์สที่เคยเป็นแค่จินตนาการกำลังเกิดขึ้นจริงและการใช้ชีวิตในโลกออนไลน์แบบในหนังภาคแรกก็ดูไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปดังนั้นมันจึงน่าสนใจว่าคราวนี้ ลานา วาชอว์สกี (Lana Wachowski) จะยังคิดค้นอะไรใหม่ ๆ ให้เราได้ว้าวอีกหรือเปล่า เว็บดูหนังฟรี

หนังใช้เวลาช่วงแรกไปกับการแนะนำตัวละครใหม่อย่างบั๊กส์(แสดงโดย เจสสิกา เฮนวิค Jessica Henwick)ที่ลักลอบแฮ็กเข้าสู่เดอะแมทริกซ์เพื่อดูเหตุการณ์ที่ทรินีตีหลบหนีเหล่าเอเจนต์และเธอก็ได้พบความจริงว่านีโอ(แสดงโดย คีอานู รีฟส์ Keanu Reeves) ยังมีชีวิตอยู่โดยเขาใช้ชื่อโธมัส แอนเดอร์สัน นักออกแบบเกมเดอะแมทริกซ์ที่กำลังต้องเริ่มโปรเจกต์เกมภาค 4 จนกระทั่งเขาได้พบกับมอร์เฟียส(รับบทโดย ยายาห์ อับดุล-มาทีนที่ 2 Yahya Abdul-Mateen II)และบั๊กส์ที่พาเขากลับสู่โลกความจริงอีกครั้งแต่ในเมื่อทรีนิตี (รับบทโดย แครี-แอนน์ มอสส์ Carrie-Anne Moss)ยังติดอยู่ในแมทริกซ์นีโอจำต้องออกรบอีกครั้งเพื่อปลดปล่อยคนรักของเขา

 

รีวิว เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์

 

ก่อนอื่นเราคงต้องบอกกันตรงๆ ล่ะนะครับว่าบทหนังของ ‘The Matrix Resurrections’ ไม่ได้เอาใจคนที่ไม่เคยดูหรือรู้จักกับโลกของ ‘The Matrix’ มาเลย เพราะมันเล่าเรื่องต่อจากหนังภาค 3 อย่าง ‘The Matrix Revolutions’ ที่ฉายไปตั้งแต่ปี 2003 ข้อมูลหลายอย่างทั้งเดอะแมทริกซ์คืออะไรหรือชุมชนไซออนคืออะไรเซนตินัลคืออะไรอันนี้คนดูต้องรู้อยู่แล้ว ดูหนัง

แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่ไม่คิดว่าลานา วาชอว์สกีจะทำก็คือการเอาภาพฟุตเทจของหนังทั้ง 3 ภาคมาแทรกไปตลอดการดำเนินเรื่องเพื่อให้คนดูต่อติดว่าหนังกำลังจะเดินเรื่องเชื่อมโยงกับหนังภาคเก่าๆ เพราะบทหนังที่ลานาไปลากเดวิด มิตเชลล์ (David Mitchell) คนแต่งนิยาย ‘Cloud Atlas’ ที่เคยดัดแปลงบทหนังให้เธอ และยังมาร่วมงานกับอเล็กซานเดอร์ เฮมอน (Aleksandar Hemon) เขียนบท ‘Sense8’ ซีรีส์ดรามาเชื่อมจิตทาง Netflix มาเขียนบท ‘The Matrix Resurrections’ ภาคนี้ ซึ่งต้องบอกว่ามีแนวคิดหลายอย่างที่หนังกล้าหาญที่จะ “เล่น” ตัวเองและวิพากษ์ว่า ‘The Matrix’ คืออะไรกันแน่

 

รีวิว เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์

 

นั่นเลยทำให้หนังครึ่งแรกเต็มไปด้วยบทสนทนาที่จะต้องปูทั้งอาชีพของนีโอที่เป็นคนออกแบบเกมและชีวิตใหม่ของทรินิตีรวมไปถึงที่มาของเหล่ากลุ่มกบฏใหม่ที่มีนีโอเป็นไอดอลรวมไปถึงที่มาของมอร์เฟียสคนใหม่ที่หนังให้ ยายาห์ อับดุล-มาทีนที่ 2 ล้อเลียนแอ็กติงของ ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น(Laurence Fishburne) อย่างคึกคะนองเลย ต้องเดินหน้าด้วยความเร็วเหมือนรถติดบนทางด่วนที่เห็นจุดหมายข้างหน้าไปไหนไม่ได้ แถมยังมีฟุตเทจหนังไตรภาคแรกมาตอกย้ำอีกว่าบทหนังที่พยายามคงไว้ทั้งปรัชญาความเป็นแอ็กชันไซไฟ หรือฉากโชว์กังฟูยังไม่อาจเทียบเคียงกับหนัง 3 ภาคแรกได้เลย ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022

และเช่นเดียวกันสิ่งที่หนังเพิ่มเข้ามาอย่างฉากการถกเถียงกันของทีมพัฒนาเกมที่มุ่งหาความหมายของเดอะแมทริกซ์ ก็ยิ่งทำให้คนที่ไม่เคยดูหนังสับสนเสียเปล่า ๆ และผม “กล้าสปอยล์” เลยว่าฉากหลังเอนด์เครดิตลานายังเลือกให้เราเสียเวลารอดูเครดิตยาว ๆ เพื่อฉากที่ไม่ได้มีประโยชน์ในการเล่าเรื่องนี้อีก ส่วนตัวเลยคิดว่าหากบทหนังสามารถแทรกแนวคิดใหม่ ๆ เข้าไปในเนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกันกว่านี้น่าจะดูฉลาดกว่า เสียดายฝีมือทีมเขียนบทเปล่าๆ

 

รีวิว เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์

สิ่งที่พอจะมาชดเชยความผิดบาปในหนังครึ่งแรกได้คงหนีไม่พ้นตอนที่นีโอไปโผล่ในโลกความเป็นจริงแล้ว เพราะต่อจากนั้นหนังก็ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเล่าเรื่องจริง ๆ ทั้งการได้ไปสู้รบปรบมือกับวายร้ายรายใหม่อย่าง นักวิเคราะห์ (รับบทโดย นีล แพทริก แฮริส Neil Patrick Harris) และเอเจนต์สมิธ (รับบทโดยโจนาธาน โกรฟฟ์ Jonathan Groff) ที่ดูเหนือกว่าทุกทางจะเพิ่มความตื่นเต้นให้หนังได้บ้าง

หรือการได้รู้จักกับชุมชนไอโอ ชุมชนที่มนุษย์และเหล่าเซนเทียนต์หรือจักรกลฝ่ายดีร่วมงานกันสร้างสังคมยุคใหม่ แม้การได้เห็น จาดา พินเคตต์-สมิธ (Jada Pinkett Smith) เมกอัปเป็นไนโอบีตอนแก่จะดูเจ็บปวดไปหน่อย แถมบทของเธอก็แทบไม่เป็นชิ้นเป็นอันก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ยังส่งให้เรื่องเดินต่อไปถึงภารกิจช่วยเหลือทรีนิตีที่มีการดีไซน์ฉากแอ็กชันได้ใหญ่โตสมกับเป็นฉากฟินาเล่ ดีแต่ในภาพรวมก็ยังไม่มีฉากไหนที่น่าประทับใจหรือเป็นฉากจำเหมือนหนังต้นฉบับอยู่ดี

 

รีวิว เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์

 

ว่ากันถึงนักแสดงหากตัดคีอานู รีฟส์กับแครี-แอนน์ มอสส์ออกจากหนังเราจะพบว่าบทหนังแทบไม่ส่งให้ใครเป็นตัวดำเนินเรื่องได้เลยแม้แต่เจสสิกา เฮนวิค สาวสวยจากซีรีส์ ‘Iron Fist’ และหนัง ‘Love and Monsters’ ที่อุตส่าห์ได้บทบั๊กส์ สาวผมสีฟ้าสักลายกระต่ายที่แขนหนังก็ยังไม่ได้ให้บทบาทเธอชัดเจนเพราะหลังจากเจอนีโอแล้ว บทบั๊กก็ถูกผลักเป็นตัวประกอบทันทีรวมถึงการขนทัพนักแสดงหนุ่มสาวหน้าตาดีจากซีรีส์ ‘Sense8’ ที่วาชอว์สกีเป็นโชว์รันเนอร์ก็ยังไม่มีใครมีบทบาทโดดเด่นสักคนเลยทำให้ ‘The Matrix Resurrections’ ยังไม่มีศักยภาพพอจะเป็นหนังเปิดไตรภาคใหม่ได้เท่าไหร่นัก ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก

แต่กระนั้นหนังก็ยังมีความดีอยู่บ้างโดยเฉพาะงานคอสตูมดีไซน์ที่ได้ ลินด์เซย์ พิว (Lindsay Pugh) มาออกแบบเสื้อผ้าให้หนัง ซึ่งเธอก็กล้าใส่สีสันเข้าไปในชุดนักแสดงมากขึ้นที่โดดเด่นมากคือซีนที่ไปโผล่ในห้องพักที่ปารีสประเทศฝรั่งเศสที่เธอเลือกสูทแดงเขียวให้ ยายาห์ อับดุล-มาทีนที่ 2 และสูทดำแอบแซ่บให้ เออแรนดิรา อีบารา (Eréndira Ibarra) สาวสวยจากซีรีส์ ‘Sense 8’ ที่ถือว่าเป็นฉากที่น่าจดจำมากสำหรับงานคอสตูมดีไซน์รวมถึงแว่นตาที่คราวนี้ได้ ทอม เดวีส์ (Tom Davies) มาออกแบบแว่นตาเก๋ๆ ให้ตัวละครซึ่งก็ต้องยอมรับว่าออกจากโรงหนังแล้วเสิร์ชหาว่ามีขายที่ไหนแทบไม่ทันจริงๆ

 

 

สรุปแล้ว ‘The Matrix Resurrections’ ยังไม่อาจเป็นภาคต่อของ ‘The Matrix’ ที่น่าพอใจนัก ทั้งวัดจากการสานต่อตำนานจากไตรภาคแรก หรือการรีบูตเพื่อเริ่มเรื่องใหม่ ด้วยท่าทีการเล่าเรื่องที่ยังไม่เด็ดขาดว่าจะหักล้างตรรกะของหนังภาคเก่าหรือสานต่อโลกของหนังมาเล่าต่อแล้วแนะนำตัวละครใหม่ มีเพียงฉากแอ็กชันแปลกตา งานออกแบบเสื้อผ้าและเรื่องราวของนีโอกับทรินิตีที่ยังพอรั้งไม่ให้คนดูหลุดสู่เดอะแมทริกซ์แบบไทย ๆ ที่เรียกว่า “ไปเฝ้าพระอินทร์”

รีวิว The Matrix Resurrections (2021)เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์ใหม่ในอารมณ์เดิมที่ยังสนุกสมใจ

พูดไปใครจะเชื่อว่าหนังไตรภาคในตำนานอย่าง The Matrix จะกลายเป็นการปฏิวัติวงการหนังฮอลลีวู้ดอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะหลังจากนั้นมาฮอลลีวู้ดก็ได้รู้ว่าหนังกังฟูมันดูสนุกแค่ไหน และทำให้หนังไซไฟกังฟูกึ่งปรัชญาชุดนี้กลายเป็นที่กล่าวขานข้ามเวลาหนังที่ทำให้ Keanu Reeves กลับมาผงาด สร้างชื่อให้นักแสดงอย่าง Carrie-Anne Moss และแน่นอนผู้กำกับสองพี่น้องตระกูล Wachowski เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

 

 

หนังที่เมื่อดูภาคแรกรอบแรกแล้วออกจากโรงมีบทสนทนาจากผู้ชมกันเองว่า “ดูไม่รู้เรื่องแต่สนุกเป็นบ้า” จนนำพามาซึ่งการดูซ้ำ ทำให้หนังประสบความสำเร็จจนมีภาคต่อมาอีกสองภาค แล้งมหากาพย์ของการต่อสู้ของมนุษย์กับเครื่องจักรก็สิ้นสุดลงในปี 2003 ที่ทุกอย่างลงตัวสมบูรณ์แบบ แต่ใครจะคิดว่าสิบแปดปีต่อมาจะมีภาคต่อมาให้ชมกันอีก และแน่นอนว่าผู้เขียนคือแฟนหนังชุดนี้จึงมีหน้าที่ต้องดู

เริ่มต้นที่ Bugs (Jessica Henwick) ที่ไปสังเกตการณ์เหตุการณ์ใน The Matrix ที่ผู้ชมคิดว่ามันจบลงแล้วเมื่อสิบแปดปีก่อนแล้วเหตุการณ์ก็บานปลายให้ Bugs ต้องหนีจากเหล่าชายในสูทดำ และเธอก็ได้เจอกับ Morpheus (Yahya Abdul-Mateen II) เพื่อที่จะพากันตามหาเอกบุรุษในตำนานคือ Neo (Keanu Reeves) ผู้ปลดปล่อยเมื่อครานั้น แต่ครานี้ Neo กลายเป็นผู้สร้างเกมที่ชื่อว่า The Matrix

 

 

ที่ใช้เหตุการณ์เมื่อคราโน้นมาเป็นเกมในครานี้ และ Neo เองในคราบของมนุษย์ที่อยู่ใน The Matrix ก็มีความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนเป็นความฝันกึ่งความทรงจำเมื่อเขาต้องตาหญิงหนึ่งที่เป็นสิงห์นักบิดและเป็นแม่บ้าน และปรากฎว่าเธอคนนั้นคือ Trinity (Carrie-Anne Moss) ซึ่งเธอคนนั้นก็รู้สึกคล้ายกันแต่เมื่อ Neo ไม่รู้ตัวเองว่าอยู่ในโลกเสมือนในสภาพแบตเตอรี่ Bugs กับ Morpheus จึงต้องปลดปล่อย Neo และ Trinity เพื่อปลดปล่อยมนุษย์จาก The Matrix อีกครั้ง

เมื่อนี่คือการกลับมาของตำนานที่มีแฟนที่เกิดทันและโตทันดูหรือกระทั่งดูครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างผู้เขียน  สิ่งที่ตามมาคือสายตาที่จับจ้องและพร้อมจะชำแหละเมื่อได้พิสูจน์เพราะไตรภาคนั้นได้สิ้นสุดสงโดยสมประสงค์ และเมื่อดูจบผู้เขียนต้องแยกความรู้สึกออกมาสองทาง  หนึ่งคือถ้านับเป็นงานภาคต่อภาคนี้ไม่ควรถูกสร้างออกมา  และอีกหนึ่งคือถ้ามองว่านี่คือหนังอีกเรื่องหนึ่งนี่ก็คือหนังที่ดูสนุกในอารมณ์บูชาครูและเคารพของเก่า

 

เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์

เหตุผลของความรู้สึกแรกคือเรื่องมันจบลงอย่างลงตัวแล้วและการหาเหตุให้เล่าต่อมันสัมผัสได้ถึงการดันทุรังจนดูยัดเยียด  และด้วยบทที่ดูพยายามอย่างหนักที่จะโยงแต่ดูจับยัดก็เลยทำให้ไม่รู้สึกว่าเป็นการต่อกันติดสนิท  แต่สำหรับเหตุผลของความรู้สึกหลังนี่ก็คืองานที่สนุกบนสีเสื้อของ The Matrix ที่เคารพของเดิมทั้งอารมณ์ปรัชญา และความงุนงง จึงไม่ต่างจากการดูงานมัดรวมอย่าง The Animatrx (2003) ที่ดูสนุกและเป็น The Matrix แต่มันคือเหตุการณ์อื่น

ซึ่งในความพยายามโยงนั้นมีมาหมดทั้งชิ้นส่วนเดิมที่มาเติมชิ้นส่วนใหม่ทำให้มีอารมณ์ถวิลหาอดีต  แต่ด้วยพล็อตที่เหมือนเอาของเก่าภาคแรกมายำใหม่เลยทำให้คนที่ดูมาหลายรอบรู้สึกไม่ตื่นใจแม้จะมีอะไรพลิกในตอนท้ายก็ตาม  แต่ที่ตื่นตาคือฉากแอ็คชั่นที่ทำมาดีดูสนุกหวือหวาเร้าใจในมุมกล้องที่สัมผัสได้ถึงของเดิม ทำให้แม้จะดูงงๆว่าอะไรทำไมแต่หนังก็ยังเดินหน้าไปได้อย่างสนุก  ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย

 

 

ซึ่งข้อดีก็คือคนที่ไม่ได้ดูงานไตรภาคแรกมาก็ยังดูรู้เรื่อเพราะยังมีอรรถาธิบายถึงที่มาในบางเรื่องเพื่อมีที่ไปในบางเรื่อง  และเหมือนจะรู้ตัวว่ายุคนี้ผู้ชมจะมีความอดทนน้อยกว่ายุคนั้นก็ไม่มัวมาปรัชญาลึกจนเต็มไปด้วยบทสนทนาแต่ว่าแค่พอมีให้สัมผัส จึงทำให้หนังมีพลังเดินหน้าไปสู่จุดที่ผู้ชมอยากรู้และเฉลยได้ถูกเวลาคือไม่นานเกินรอ  ประกอบกับนี่คืองานแอ็คชั่นไซไฟและด้วยเทคโนโลยีจึงทำให้ดูดีขึ้นสนุกขึ้นสำหรับคนรุ่นใหม่แน่นอน  แต่กับคนรุ่นผู้เขียนกลับรู้สึกอีกอย่าง

เพราะจุดขายของ The Matrix มันคือฉากพะบู๊ในลีลากังฟู แต่การที่ภาคนี้ออกมาเมื่อเวลาล่วงเลยมานานอะไรที่เคยได้ผลหรืออะไรที่เคยตื่นตามันเหมือนเย็นชืดไปแล้วเพราะหลังจากนั้นมาลีลากังฟูออกมาจนเรียกว่าตามดูไม่ทัน  ประกอบกับการเปลี่ยนตัวนักแสดง Morpheus ที่ไม่ใช่ Laurence Fishburne ก็ส่งผลกับความรู้สึกไม่น้อยเพราะแม้ว่า Yahya Abdul-Mateen II จะพยายามยังไงมันก็ยังไม่ใช่

และเห็นชัดว่าพยายามจะเป็นซึ่งถ้าไม่พยายามแล้วสร้าง Morpheus ในแบบของตนเองขึ้นมาน่าจะดีกว่า  เพราะเรื่องก็พัฒนาไปปานนี้แล้ว  ทำให้ในมุมของคนรุ่นเก่าอย่างผู้เขียนที่เคยรู้สึกวูบวาบเมื่อครานั้นกลายเป็นไม่สมใจกับการเป็นหนังภาคต่อ  แต่ถามว่าหนังมีอะไรให้ตำหนิมากหรือไม่ก็คงบอกได้ไม่เต็มปากเพราะความรู้สึกขัดตาขัดใจมันมาจากการสลัดของเดิมออกจาความรู้สึกในสมองไม่พ้นมากกว่าจะเป็นข้อบกพร่องของตัวหนัง  ซึ่งถ้าเอาความรู้สึกนี้มาตัดสินก็คงไม่ยุติธรรม

 

 

เพราะถ้านับว่านี่คือหนังเรื่องหนึ่งที่ดูเพื่อความบันเทิงหนังก็คือความบันเทิงเต็มที่  เป็นหนึ่งในจักรวาล The Matrix ที่มีชิ้นส่วนในความทรงจำให้สัมผัสที่มาพร้อมกับความบันเทิงเต็มที่ในแบบหนังยุคใหม่ ด้วยการที่หนังเดินหน้าไปได้โดยที่เวลาสองชั่วโมงกว่าทำอะไรไม่ได้ก็คือหนังมีดีในตัว ด้วยความที่หนังไม่ได้ซับซ้อนเดจาวูมากมายเหมือนของเดิมด้วยเหตุผลที่ว่ามาทำให้ผู้ชมไม่ได้เปลืองสมองปวดกบาลมากจนดูไม่รู้เรื่อง

เพียงแต่ไม่ทราบว่าคนรุ่นใหม่จะรู้สกเหมือนผู้เขียนหรือไม่ที่ศัพท์แสงอะไรเกี่ยวกับโค้ดหรือที่พูดๆกันผู้เขียนไม่รู้เรื่องเลย  อาจเป็นเพราะยุคปัจจุบันมันไม่ใช่ยุคของคนรุ่นผู้เขียนแล้วกระมังทำให้ผู้เขียนดูหนังเรื่องนี้โดยไม่สนบทสนทนามากนักเพราะความไม่รู้  และเมื่อหนังมอบความบันเทิงที่อยู่ตรงหน้าที่เริ่มต้นด้วยความสงสัยว่าทำไม Neo จึงกลับไปอยู่ใน The Matrix แล้วหนังก็พาไปยังจุดที่ต้องรู้ด้วยความสนุกตื่นเต้นตื่นตา นั่นก็คุ้มค่ากับเวลาและสิ่งที่ต้องจ่ายคือ True Point (499 Point) แล้ว ดูหนังออนไลน์2022