รีวิว เธอกับฉันกับฉัน You & Me & Me

รีวิว เธอกับฉันกับฉัน You & Me & Me

ถึงคิวของหนังไทยเรื่องแรกจากค่ายหนังอารมณ์ดี จีดีเอช ที่เปิดปีกับหนังโรแมนซ์ย้อนสมัย อันเป็นหนังแนวถนัดของบริษัทนี้ กับ “เธอกับฉันกับฉัน You & Me & Me”

 

หนังประเด็นความสัมพันธ์และความรักของพี่น้องฝาแฝด ที่มีกิมมิกตรงที่ไทม์ไลน์เกิดขึ้นในช่วงยุค Y2K ที่กำลังกลับมาเป็นกระแสนิยมอยู่ในปัจจุบันนี้ แค่ได้ซึบซัมและหวนคิดถึงไปถึงวันวานกับหนังเรื่องนี้ก็อิ่มใจ และยังมาพร้อมกับประเด็นและการแสดงที่เกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้อีก…

 

 

เธอกับฉันกับฉัน You & Me & Me เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปี 1999 ขณะที่ทั่วโลกกำลังพูดถึงปัญหา Y2K และข่าวลือว่าโลกอาจจะแตกในวันสิ้นปี ยู กับ มี ฝาแฝดวัย ม.ต้น ก็เป็นอีกคู่ที่กังวลกับอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น ทั้งคู่สนิทและรักกันมาก แชร์ทุกอย่างร่วมกัน จนต่างเป็นเหมือนโลกทั้งใบของกันและกัน

 

 

แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อเด็กผู้ชายที่ชื่อ หมาก ได้เข้ามาในชีวิต พวกเธอจึงได้สัมผัสกับ “รักครั้งแรก..ที่ไม่อาจแชร์ให้กันได้” ทั้งคู่จะจัดการกับความสัมพันธ์นี้ และก้าวผ่านช่วงเวลาที่สับสนบนโลกที่เหมือนว่ากำลังจะแตกลงไปได้อย่างไร

 

นี่คือผลงานสร้างหนังใหญ่เรื่องแรกอย่างเต็มตัวของผู้กำกับพี่น้องฝาแฝด วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ที่สั่งสมประสบการณ์จากหนังสั้น หนังสารคดี และซีรีส์ดัง ๆ มาตลอดสิบปีที่ผ่านมา หากได้ติดตามชิ้นงานของพวกเขาก็น่าจะสัมผัสได้อยู่ว่าแนวทางน่าจะเข้ากันได้ดีกับความเป็นหนังจีดีเอช หนังใหม่netflix

 

 

และผลลัพธ์ก็ออกมาได้ค่อนข้างน่าพึงพอใจไม่น้อยเลย งานสร้างและการดีไซน์หลายองค์ประกอบที่ถูกจับนำมาใส่นั้น มีจังหวะที่เหมาะและลงตัวใช้ได้ทีเดียว

เมื่อได้ผู้กำกับฝาแฝดมาทำหนังเกี่ยวกับฝาแฝดด้วยแล้วนั้น จึงทำให้หนังได้เปรียบในจุดนี้ ที่สามารถกลั่นบทหนังออกมาด้วยมุมมองและประสบการณ์ชีวิตของคนเป็นแฝดจริง ๆ

 

 

ทำให้เรื่องราวในหนังเรื่องนี้ค่อนข้างแทรกซึมไปด้วยประเด็นความรู้สึกความเป็นไปของพี่น้องฝาแฝดอย่างมีมิติ แบบที่คนไม่ได้แฝดอาจจะนึกไม่ถึง กิมมิกจุดนี้นี่เองที่ทำให้กลายเป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้ และทำให้ตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงของหนัง เป็นการดื่มด่ำพาย้อนกลับไปสู่วันวานที่คิดถึงได้ ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์

รีวิว เธอกับฉันกับฉัน You & Me & Me พล็อตเรื่อง

แม้ว่าในส่วนของโครงเรื่องและบทหนังของ เธอกับฉันกับฉัน แทบจะไม่มีอะไรแปลกใหม่และไม่ได้สร้างอารมณ์ความรู้สึกเซอร์ไพรส์ให้เลยแม้แต่น้อย เพราะบทก็ยังคงวนเวียนอยู่ในเซฟโซนฉบับจีดีเอช มีกลิ่นอายของหนังเรื่องก่อน ๆ จากค่ายนี้มาปะปนและสร้างบรรยากาศให้อิ่มเอมแบบคุ้นเคย

 

 

โดยที่จับใส่ความเป็นฝาแฝดเข้ามาเป็นไฮไลต์หลักแค่นั้น ประเด็นรักสามเส้าก็ไม่ต่างจากที่คิดถึง ปมความสัมพันธ์น้องพี่ในเรื่องก็เดาทางไม่ยาก ส่วนการแทรกเรื่องประเด็นทางครอบครัวเข้ามาก็หยิบใส่เข้ามาแบบไม่ได้เน้นหนักอะไรเท่าไหร่ ซีรีย์ฮิตnetflix

 

และคงจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เธอกับฉันกับฉัน จะถูกนำไปเทียบเคียงกับหนังคลาสสิกจากค่ายนี้ อย่าง แฟนฉัน ที่เป็นตำนานของหนังย้อนวันวานที่ยังไม่เสื่อมคลายลงไปถึงจะผ่านไป 2 ทศวรรษแล้วก็ตาม

 

ใช่แล้วหนังเรื่องนี้มีกลิ่นอายที่คล้าย ๆ กัน บรรยากาศแบบเดียวกัน แต่โทนและจังหวะของหนังยังค่อนข้างห่างชั้นกันอยู่พอประมาณ หนังอาจจะใส่ความเป็น retro กับ coming-of-age เข้ามาเด่น ๆ แต่กลับยังไม่ได้โดดเด่นชัดเจนได้ถึงระดับนั้น

 

โดยทั่วไปแล้วนั้น เธอกับฉันกับฉัน มาพร้อมกับการปล่อยของเด็ดในช่วงยุค Y2K เข้ามาเป็นกิมมิกและอีสเตอร์เอ้กให้ผู้ชมได้หยิบตาม ก็ถือว่าพวกเขาทำการบ้านและเก็บรายละเอียดในช่วงยุคออกมาได้ค่อนข้างพอใจเลยทีเดียว ทั้งวัตถุ ทั้งวัฒนธรรม และกระแสนิยมในยุคนั้น ถูกใส่เข้ามาประกอบได้กำลัง

 

เพียงแต่หนังอาจจะยังสร้าง environment ในหนังได้ไม่คมคายถึงที่สุด เพราะยังมีแวดล้อมต่าง ๆ และบางจุดบางมุมที่น่าเสียดายที่ยังพลาดไปอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ประเด็นใหญ่อะไร เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของหนังเลย

 

เมื่อมาว่าถึงการแสดง…ต้องบอกเลยว่าเราได้เจอเพชรเข้าแล้วจริง ๆ ขอชื่นชมการค้นหานักแสดงของทีมผู้สร้างและค่ายนี้จริง ๆ เพราะไม่รู้ว่าไปหามาจากไหน “ใบปอ ธิติยา” คือนักแสดงหน้าใหม่ ที่เพิ่งจะได้เล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก แต่การแสดงของเธอเทียบชั้นมืออาชีพได้อย่างน่าทึ่ง

น้องใบปอที่ต้องเจอศึกหนัก กับการต้องมารับบทเป็นฝาแฝด หรือเป็นถึง 2 ตัวละครในหนังเรื่องแรก แต่เธอก็แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และกลายเป็นว่าเป็นคนเดียวที่แบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้ด้วยร่างเล็ก ๆ ของเธอเอง

 

ใบปอ ธิติยา สามารถถ่ายทอดบท ยู กับ มี ออกมาได้เป็นเอกลักษณ์และมีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน ด้วยการแสดงที่เป็นธรรมชาติของเธอ ผู้ชมน่าจะหลงใหลไปกับเสน่ห์ของน้องได้ไม่ยาก

 

นับตั้งแต่ซีนแรกที่เปิดตัวเลย ซีนอารมณ์ต่าง ๆ เธอก็ทำออกมาได้ดีเช่นเดียวกัน นี่ขนาดเป็นแค่หนังเรื่องแรกยังทำได้ระดับนั่งเข้าชิงรางวัลได้สบาย ๆ ขนาดนี้ ต้องจับตามองดูให้ดี ๆ สาวน้อยคนนี้น่าจะมีอนาคตที่ยาวไกลกับวงการหนังและละครของไทยต่อไป

 

ในขณะที่อีกหนึ่งหนุ่มหน้าใหม่ของเรื่องนี้เช่นกัน “โทนี อันโทนี” ถึงบทบาทและคาแรกเตอร์ในหนังเรื่องนี้จะยังไม่ค่อยมีมุมมากมายให้เขาได้ฉายแสง แต่การเดบิวต์เป็นพระเอกหนังเรื่องแรกของเขา ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีกว่าที่คิดเอาไว้ โดยเฉพาะเสน่ห์และความเป็นธรรมชาติในการแสดงของเขา

 

ที่ทำให้กล้องหลงรักเข้าเต็มเปา อีกทั้งยังท่วงท่าการแสดงและภาษากายต่าง ๆ ที่บ่งชี้ในความเป็นตัวของเขาเองในหนังได้อย่างน่าหลงใหลทีเดียว

 

ดังนั้นสรุปโดยรวมแล้ว เธอกับฉันกับฉัน อาจจะยังเป็นหนังที่วนอยู่ในขีดจำกัดเต็ม ๆ ของค่ายจีดีเอช แต่ก็ยังสามารถต่อยอดและสร้างศักยภาพออกมาได้น่าดูและน่าสนใจอีกเช่นเคย แม้ว่าเรื่องราวและบทหนังจะไม่มีอะไรแปลกใหม่มากนัก แต่ผู้ชมก็น่าจะอิ่มไปกับการเก็บตกเสน่ห์ของยุค Y2K

 

ที่แทรกเข้ามาตลอดทั้งเรื่องนี้ อาจจะยังไม่ถึงคมคายแบบยอดเยี่ยม แต่หนังก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่เพลิดเพลินดี ยิ่งได้นักแสดงหน้าใหม่มาพ่นไฟเต็มที่ในผลงานแรกของพวกเขา จัดได้ว่าเป็นหนังรักที่อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะทำให้ทุกคนได้ยิ้มและน้ำตาคลอกับวันวานที่แสนคะนึงหาไปด้วยกัน…

รีวิว เธอกับฉันกับฉัน You & Me & Me หลังดู

สำหรับเรื่องนี้จะเป็นหนังแนวโรแมนติกของวัยรุ่นในยุค Y2K หนังจะพาเราย้อนไปในปี ค.ศ.1999 โดยจะติดตามเรื่องราวของเด็กสาวฝาแฝด 2 คน อย่าง ยูและมี (รับบทโดย ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์) แม้ว่าจะเป็นฝาแฝดกันแต่ทั้งคู่นั้นมีนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง ยูจะเป็นเด็กสาวที่ดูเรียบร้อยและมีความรู้สึกที่อ่อนไหว

 

ทำให้ดูเป็นเด็กสาวที่แสนธรรมดาและไม่ค่อยเป็นที่สนใจ ส่วนในด้านของ มี ที่หน้าตาเหมือนกันแต่กลับไปที่หมายตาของหนุ่มๆ เพราะด้วยนิสัยของเธอที่จะออกแมนๆ เหมือนเด็กผู้ชาย อย่างไรก็ถาม แม้ว่าจะนิสัยต่างกันแต่ทั้งคู่ก็รักและสนิทกันมากๆ จนกระทั่งวันหนึ่งพวกเธอได้รู้จักกับ หมาก (รับบทโดย โทนี่ อันโทนี บุยเซอเรท์) เด็กผู้ชายหน้าตาดีนิสัยน่ารักที่จะมาขโมยหัวใจของทั้งคู่ไปพร้อมๆ กัน งานนี้แฝดที่เคยสนิทกันจึงอาจต้องเจอกับบททดสอบครั้งใหม่ ซึ่งสุดท้ายแล้วจะลงเอยอย่างไรนั้นทุกคนต้องไปรับชมกันเอง เธอกับฉันกับฉัน (You and Me and Me) ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

 

สำหรับหนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่รอคอยเลย ตอนแรกที่เห็นโปสเตอร์คือรู้สึกเฉยๆ มากนะ จนพอได้เห็นตัวอย่าง ได้ดูคลิปเบื้องหลังต่างๆ นาๆ ก็เริ่มโดนน้องใบปอตกเข้าแบบเต็มๆ จนกลายเป็นว่าจากที่ไม่ได้ใส่ใจตอนแรก ตอนหลังนี่คือนั่งนับวันรอเลย และในที่สุดหนังก็เข้าฉายเสียทีผมเลยถือโอกาสไปดูตั้งแต่วันแรก ความรู้สึกแรกที่ออกมาจากโรงคือ “เป็นไปตามคาด” เพราะด้วยพล็อตที่ไม่ได้มีอะไรมากผมจึงไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย และหนังมันก็ทำออกมาได้ตามที่ผมหวังไว้ คือมันไม่ถึงกับสนุกมากๆ

 

จนอยากแนะนำทุกคนให้ไปดู แต่มันก็ไม่ได้แย่เลย เป็นหนังที่อยู่ในเกณฑ์ปานกลางทั่วไปที่สามารถดูได้สนุกเพลินๆ เพราะการเดินเรื่องรวมถึงบทสรุปมันไม่ได้ผิดแปลกไปจากหนังทั่วไปเท่าไหร่ แต่มันก็ออกมากลมกล่อมและย่อยง่ายเอามากๆ เนื่องด้วยมันเป็นเรื่องราวความรักของเด็กม.ต้น ดังนั้น ในเรื่องประเด็นความรักมันจึงไม่ได้หนักหน่วงอะไรมากมาย มันคือความรักใสๆ ของเด็กๆ แต่สิ่งที่ทำออกมาได้ดีคือประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ของฝาแฝด และความสัมพันธ์ในครอบครัว

 

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่าด้วยความที่มันเป็นความรักแบบใสๆ ของเด็กมัธยม ดังนั้น ประเด็นดราม่าเรื่องความรักมันจึงดูเบาและไม่ได้หนักหนาอะไรมากมาย แต่ประเด็นเรื่องความสัมพันธ์พี่น้องฝาแฝดนี่ทำออกมาได้ดีเลย ทำให้เราได้เข้าใจคนที่เป็นฝาแฝดมากขึ้น ซึ่งผมเองที่เป็นพวกมีโลกส่วนตัวและไม่ค่อยแลกเปลี่ยนเรื่องส่วนตัวกับใคร พอผมได้เห็นความสัมพันธ์ฝาแฝดในเรื่องผมก็แอบคิดในใจว่าเป็นผมคงอยู่ไม่ค่อยได้แน่ๆ

 

 

หากทั้งชีวิตต้องผูกไว้กับฝาแฝดของเราอีกคน และหนังก็ดันมาโฟกัสที่ประเด็นนี้ด้วยคำถามที่ว่า “ทำไมเกิดมาพร้อมกัน แต่ต้องตายคนเดียว” ซึ่งมันโคตรจริง แถมตอนจบก็ทำให้ประเด็นนี้ชัดด้วยการให้ทั้งคู่แยกจากกัน เพราะต่อให้เป็นแฝดกัน แต่ทุกคนต้องมีชีวิตเป็นของตัวเอง รวมถึงประเด็นเรื่องความเป็นตัวตนที่สะท้อนได้ดีมากด้วยการให้แฝดคนหนึ่งเป็นคนที่ทุกคนรัก ส่วนอีกคนคือคนที่คนส่วนใหญ่ก็รักนะ เพียงแต่รักน้อยกว่าเท่านั้นเอง ประเด็นนี้ค่อนข้างกินใจและน่าจดจำเอามากๆ

 

 

ในส่วนของบทและการดำเนินเรื่องส่วนตัวผมว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลย ดูได้สนุกเพลินๆ รู้ตัวอีกทีคือหนังจบแล้ว เดินเรื่องสนุกมาก ส่วนในด้านการแสดงอันนี้ต้องขอชมน้องใบปอมากๆ น้องแสดงดีมาก แสดงจนดูเป็นฝาแฝดจริงๆ ทั้งวิธีการพูด น้ำเสียง มันมีความแตกต่างกันเล็กน้อย รวมถึงลักษณะท่าทาง แววตา มันดูเป็นคนละคนกันจริงๆ อันนี้ยอมรับเลย ส่วนพระเอกอย่างโทนี่ ส่วนตัวผมมองว่าก็เล่นดีใช้ได้

 

ทว่ายังมีบางฉากบางซีนที่ดูแข็งๆ ไปบ้าง แต่ภาพรวมถือว่าดูดี สิ่งสุดท้ายที่อยากชมเลยคืองานภาพและเทคนิคการสร้าง ภาพภาพถ่ายทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน GDH โทนสีมุมกล้องสวยงาม แต่สิ่งที่ยอดเยี่ยมคืองานสร้างเนี่ยแหละ เพราะตัวหนังเก็บรายละเอียดความเป็นยุคนั้นได้ดีมากๆ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รถที่ขับกันในเรื่อง ของเล่นของเด็กยุคนั้น รวมถึงวัฒนธรรมป๊อปต่างๆ ในช่วงนั้นนี่เก็บมาดีมาก

โดยเฉพาะเรื่อง Y2K ที่เก็บยันเรื่องสติ๊กเกอร์ที่ติดเพื่อรับประกันว่าโทรศัพท์จะใช้ได้หลังปี ค.ศ.2000 อันนี้ผมว้าวเลยว่าทีมงานทำการบ้านมาดีจริงๆ สรุปโดยรวมเลยคือเรื่องนี้เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่สนุกดูเพลินและอยากให้ทุกคนลองเปิดใจไปดูกัน รับรองว่าไม่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์อย่างแน่นอน

 

คมชัดลึกบันเทิง จูงมือมารีแคปบันเทิง พร้อมรีวิวภาพยนตร์ GDH “เธอกับฉันกับฉัน” ถ่ายทอดเรื่องราวโลกแตก Y2K ยุค 2000 ที่ถ่ายทอดโดยนักแสดงน้องใหม่ แห่งบ้าน GDH “ใบปอ ธิติยา” , “โทนี่ อันโทนี่” และอีกมากมาย

ภาพยนตร์ใหม่แกะกล่องจาก GDH “เธอกับฉันกับฉัน” (you and me and me) กำกับและเขียนบทโดย “วรรณแวว – แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์”  และโปรดิวเซอร์โดย “โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล” เรื่องนี้พามา “หมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปใน

 

ปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ยุคที่คนทั่วโลกต่างพูดถึงปัญหา Y2K และข่าวลือว่าโลกอาจจะแตกในวันสิ้นปี 1999 ผ่านตัวเอกของเรื่อง “ยู และ มี” (แสดงโดย ใบปอ ธิติยา) ฝาแฝดสาววัย ม.ต้น ที่สนิทกันมาก แชร์ทุกอย่างร่วมกัน

 

ทั้งคู่กังวลอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อ “หมาก” (โทนี่ อันโทนี่) เด็กหนุ่มลูกครึ่งอีกสานที่เข้ามาในชีวิตของพวกเธอ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการสัมผัสกับ “รักครั้งแรก ที่ไม่อาจแชร์ให้กันได้”

 

 

หนังเรื่องแรกๆที่เล่าชีวิตจริงๆของฝาแฝด : ปูทางตั้งแต่ตั้วอย่างยังต้นเรื่องของภาพยนตร์ การเล่าเรื่องราวชีวิต 2 สาวสวยฝาแฝดจริงๆผ่านตัวละคร “ยู และ มี” ที่แสดงโดย ใบปอ ต้องยอมรับว่า เหมือนกับแฝดจริงๆ จนนึกว่า เล่นโดยฝาแฝด ด้วยการถ่ายทอดตัวละครของ ใบปอ ธิติยา ทำให้คนดูแยกออกจริงๆว่า ตอนนี้กำลังเป็นใคร แต่บางครั้งก็แอบเหมือนกัน จนรู้สึกแสดงนิสัยสลับกันบ้าง

 

บทภาพยนตร์ – เนื้อเรื่องสมจริงมาก : แอบนึกตลอดว่า นี่คือการเล่าชีวิคของ 2 สาวฝาแฝดผู้กำกับหรือเปล่านะ เชื่อว่า หลายคนๆที่ดูคงสัมผัสได้ถึงความรัก การแชร์กันและกันของฝาแฝด จนต้องแอบมีน้ำตาร่วงบ้าง และที่สำคัญคือความแตกต่างทางด้านนิสัยของคนสองคน สะท้อนออกมาได้สมจริงสุดๆ ที่สำคัญคือ ฉากที่มีประจำเดือนครั้งแรก สะท้อนรีแอคชั่นของการเติบโตของเด็กสาวได้อย่างชัดเจน