รีวิว แสงกระสือ 2 ภาพยนตร์โรแมนติกสยองขวัญ

หลังจากที่ แสงกระสือ 1 ประสบความสําเร็จอย่างมหาศาลในปี 2019 ที่สุดเรื่องเล่าของตำนานผีไทยก็ถูกนำมาสานต่ออีกครั้งในปี 2023 แสงกระสือ 2 โดยในครั้งนี้ ได้ผู้กำกับมือดีอย่าง ดี้ ปภังกร ปุญจันทรักษ์ ที่มีผลงานกำกับโฆษณาและหนังสั้นมากมาย เรียกได้ว่านี่ก็นับว่าเป็นการการันตีฝีมือการสร้างหนังของเขาไปในตัว เรื่องราวในหนังจะสนุกจะน่ากลัวขนาดไหน แล้วจะประสบความสำเร็จหรือไม่ สามารถไปติดตามรับชมหนังได้ที่นี่ ดูหนังออนไลน์

จําเป็นต้องนับว่า แสงกระสือ 2 มากับการยกเครื่องครั้งใหม่ เนื่องจาก ไม่ใช่แค่ กลุ่มดาราหนัง ชุด ใหม่แล้ว แสงกระสือ 2 เต็มเรื่อง ยังมาพร้อมทั้ง กลุ่ม ผู้สร้างชุดใหม่ด้วยเหมือนกัน นํามาโดย “ปภังกร ปุญจันทรักษ์” ที่พวกเราบางทีอาจจะไม่คุ้น ชื่อเขาสักเท่าไหร่ ในแวดวงภาพยนตร์

เนื่องจากว่าเขาเป็นผู้กํากับหนัง ประชาสัมพันธ์ที่เพิ่งจะก้าวขึ้นมาจับงาน สร้างภาพยนตร์ไทยเรื่องยาวเป็นครั้งแรก แล้วงานเดบิวต์ ของเขาก็จําต้องรับแรงกดดันจํานวนไม่ใช่น้อย เนื่องจากว่ามีอีกทั้ง ความคาดหมายจาก คนชอบดูหนังที่ถูกใจ ภาคแรก กับงาน สร้างสเกล ใหญ่ขึ้น จากงาน โปรโมท

ภายหลังเลื่อนกําหนดฉายไปนาน นับเป็นเวลาหลายเดือน สุดท้าย แสง กระสือ 2 ภาพยนตร์โรแมนติก สยองขวัญจากค่าย เนรมิตรหนัง ฟิล์ม ก็ได้กลับมาสืบต่อเรื่องราวความรัก ต่างสายพันธุ์กันอีกรอบ พร้อมได้ ดี้- ปภังกร ปุญจันทรักษ์ ที่เคยฝากผลงานโปรโมทและก็ภาพยนตร์สั้นมาแล้วล้นหลาม มานั่งแท่นผู้กํากับ

รวมทั้ง กองทัพ ดาราหนังมากความสามารถที่จะมาร่วมรับบทบาทน่า ประกอบด้วย เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, นิ้ง ชัญญา แม็คคลอรี่ย์, น้อย-กฤษดา สุโกศล แคลปป์, เอม – ภูมิภัทร ถาวรศิริ, ปีเตอร์-นพชัย ชัยนาม และก็ โจคัมมินส์

แสงกระสือ 2 เรื่องย่อ ภาพยนตร์ กล่าวถึงเรื่องราวต่อจากภาคแรกนาน 30 ปี เมื่อ น้อย (น้อย -กฤษดา สุโกศล แคลปป์) ที่ได้รับเชื้อ ผี กระสือมาจากเชื้อสาย ก็เลยทําให้ สาว (นิ้ง-ชัญญา แม็คคลอรี่ย์) บุตรสาวของเขาเปลี่ยนเป็นผีกระสือ ตั้งแต่ยังเด็ก น้อย ก็เลย จําเป็นต้องร่วมมือกับ นักบวชออกัสติน (โจ คัมมินส์)

เพื่อสร้างสรรค์ ยารักษาที่สกัดจากว่านผีกระสือ ด้วยความมุ่งหวังว่าจะช่วยทําให้บุตรสาวกลับมาปกติ ขณะเดียวกัน สาวก็ได้มาเจอกับ คลาว (เจเจ-กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม) ลูกบุญธรรม ของ นักบวชออกัสติน ที่มีความผิดธรรมดา ทางร่างกาย โดยกําเนิด และนั่นก็เลยแปลง เป็น จุดกําเนิด ของ ความรักต่างสายพันธุ์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต ของ ทั้งสอง ไป ชั่วกับชั่วกัลป์

บางทีอาจกล่าวได้ว่า นี่เป็นส่วนที่ดีเยี่ยมที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ เนื่องจาก พวกเรามองเห็นได้ถึงความทะยาน อยาก ของ คณะทํางาน ที่ปลุกปั้นงานโปรดักชันระดับนี้ออกมา ทั้งยังงาน ภาพ และก็แนวทางการถ่ายทําต่างๆ ที่ เต็มไปด้วย ‘ความเยี่ยม”

ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ถูก คิดแผนมาอย่างดีเยี่ยม แล้วก็สิ่งที่พวกเรา “ว้าว’ ที่สุด เป็น CGI หรือ เคล็ดลับ พิเศษ ด้านภาพของ หนังไทยใหม่ เรื่องนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้น ฉากผีกระสือ ที่ทําออกมา ได้เหนือกว่า ภาคก่อนมาก ๆ กระทั่ง อาจจะกล่าวว่า งดงาม พอดีกว่า ภาพยนตร์ไทย รวมทั้งหนังเมืองนอก หลายๆ เรื่อง ในขณะนี้ ซึ่งทําให้พวก เราน่าจับตามอง ผลงานถัดไปในอนาคต ของ ทีม โปรดักชัน ชุดนี้

ในแสงกระสือ ทั้งสอง ภาค มีคาแรกเตอร์ที่เป็นผู้แทนของ Mentor ที่ช่วยบอกทางให้ตัวน่า หรือแก้ไขปัญหาบางสิ่ง ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง – ภาคแรกเป็น พระ (พุทธ) ส่วนภาคสองเป็น นักบวช (คริสต์) ซึ่ง น่าไตร่ตรองว่า เพราะเหตุไร หนังถึง ใช้นักบวชมาเป็น ‘ภาพแทน’ ของผู้ที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องอาการผีกระสือ

เนื่องจากที่ภาคนี้ ความเป็นผีกระสือ ถูกเห็นว่าเป็น “โรค” หรือ “ปรสิต” ตามกรอบแว่น ทางด้านวิทยาศาสตร์ กลุ่ม ผู้ผลิตก็เลยเลือก ผู้แสดง ‘ฝรั่ง’ มาเพื่อสะท้อนภาพเหมารวมบางสิ่ง ตามมุมมองของคนประเทศไทย ที่มักรู้สึกว่า “ฝรั่ง = ความเจริญรุ่งเรือง” ก็เป็นไปได้แต่ว่า

แต่โชคร้ายที่มวล ไอเดีย ของ นักแสดง ฝั่งวิทยาศาสตร์นี้มิได้ถูกเกลี่ย ให้เข้าที่เข้าทาง แถมยังตามมาด้วย การปูเรื่องอย่างยุ่บยั่บ โดยที่สุดท้ายก็มิได้นําพาไปสู่อะไร มีเพียงแค่บทสนทนา พิลึก บางสิ่งบางอย่าง ได้แก่ ในซีนอารมณ์ หนึ่ง ตัว นักบวช บอกว่า “พวกมึง (ลูก) ก็เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ ของ พ่อ” โดย ไม่มี ความเป็นมา หรือไม่มีการเล่าเรื่อง ต่อยอด เป็นต้น

แสงกระสือ 1 นับว่าเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ ของหนังไทย ในขวบปีนั้น กับการนําเสนอเรื่องราวของผี ประจําถิ่นในต้นแบบการแปลความ ใต้นิยามคําว่า ตัวประหลาด ตัวหนังได้รับคําชม ในหลายๆ พาร์ท โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง การแปลความ เรื่อง ผีๆ

พร้อมแจ้ง กําเนิด ผู้แสดงนําาฝ่ายข้าง หญิง น้อง มินนี่ อย่างสุดกําลัง ก็เลยไม่แปลก ที่แสงกระสือ 2 จะถูกคาดหวังมากยิ่งกว่าเดิม และก็หากแม้ในที่สุด แม้ว่าจะเอาชีวิตรอดจากคําว่า หนังห่วยไปได้

แม้กระนั้นเมื่อเทียบกับ บาร์ที่ภาคแรกเซ็ตไว้ ก็จะต้องเห็นด้วย ตรงๆว่า แสงกระสือ 2 ดรอปลง พอควร แม้กระนั้น เอาเข้าจริงจะเปรียบเทียบ ตรงๆ ก็อาจผิดนัก เนื่องจากว่าภาคแรก กับ ภาค 2 หนัง มาคนละอารมณ์เลย ภาคแรก จะมีกลิ่นของแอคชั่น

และก็เฮอเร่อที่เด่นกว่า มันก็เลยเรียกอดรีนาลีนจากผู้ชมให้ลุ้นได้เกือบจะตลอดเรื่อง ก่อนที่จะทิ้งท้ายด้วยจุดสําคัญ อันเป็นซีนแอคชั่นที่มีเรื่องมีราว ให้ไฮป์จํานวนมาก ผิดจากภาค 2 ที่ขอเดินคนละ เวย์ อย่างแจ่มแจ้ง

ตัวหนังยกเรื่องของ ความรักระหว่างผู้ที่ถูกหมายหน้า ว่า พิศดาร พร้อมแตก หลักสําคัญ ไปถึง ผลพวง ต่อ คนที่อยู่รอบข้าง ซึ่งมันยากเกินกว่าเพียงแค่คํากล่าวว่า ชุ่ยที่ว่า “ขอเพียงแค่ พวกเรามีกันและกัน ใครมันจะท่าไม”

บอกเลยว่า ในภาคนี้ ตัวหนัง แสงกระสือ 2 เนี้ย ค่อนจะไม่เหมือนกันกับภาคแรกเยอะมาก ทั้งยังเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ การดําเนินเรื่อง หรือ บทต่างๆ ของหนัง นะครับ ตัวหนัง อุตสาหะทําให้พวกเราอินกับเรื่องของ ความรัก แบบ สุดๆ กลับ ไม่ค่อย สําเร็จเท่าไรครับ

เป็นเพราะเหตุว่า การดําเนินเรื่องของหนังที่ค่อนจะเฉื่อยๆรวมทั้งมีฉากที่ไม่สําคัญ มากไปหน่อย ตรงเลยเลยทําให้คนดูรู้สึกเบื่อ และไม่อินไปบ้างครับผม และก็อีกอย่าง พวกเราก็อาจต้องการรู้ที่ ไปที่มาของ ผีกระสือ และก็ยังรวมทั้งนักแสดงของ เจเจ

แม้กระนั้นในหนังกลับ มิได้เปิดเผย สิ่งต่างๆ ให้พวกเรา รู้มากขึ้นเลย รู้เท่าเดิม คือ ผีกระหัง จะต้องกินหัวใจ ผีกระสือ เพื่อมีชีวิตต่อเท่านั้นเองครับ หากแม้เรื่องบทจะคือ ปัญหา แต่ว่า พวกเรา ยังชื่นชม ความทะยานอยาก ของค่าย

โดยยิ่งไปกว่านั้น เนรมิตรหนัง ฟิล์ม ที่เพียรพยายาม สร้างสีสันใหม่ๆ แก่วงการภาพยนตร์ไทยอยู่เป็นประจํา แม้กระนั้นการผลิตสรรค์ ของใหม่ๆ ให้ พอดีนั้น บางทีอาจจำต้องใช้เวลา แล้วก็มันก็ไม่เคยเป็นเรื่องง่าย

โดยสรุปแล้ว คงจะจําเป็นต้องพูดว่า แสงกระสือ 2 เป็นหนัง ภาคต่อ ที่ไม่มีความจําเป็น ต้องมีภาคต่อก็ได้ เนื่องจากต้นฉบับก็ท่าเอาไว้ค่อนข้างจะดีเลิศอยู่แล้วครับ สุดท้ายนี้ขอฝากหนังฝรั่งน่าดูอีกเรื่อง คุณสามารถไปติดตามรับชมได้ที่นี่ รีวิว Guardians of the Galaxy Vol.3