รีวิว ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้

 

 

ในวันหยุดที่เป็นวันพุธอย่างนี้ อาจจะดูเป็นเรื่องดีก็ได้ที่มีหนังใหม่รอบสื่อให้ดู ไม่ต้องรีบต้องร้อนตะเกียกตะกายไปดู แต่ที่ไหนได้ กลับพบตัวเองติดแหง็กอยู่บนถนนท่ามกลางจราจรที่ติดขัด เหมือนตัวเองคิดผิดที่เลือกเดินทางในแบบนี้ แม้ว่าสุดท้ายจะมาถึงโรงหนังทันเวลา และได้พบกับหนังเรื่องใหม่จากค่ายหนัง GTH หนังคอมิดี้ที่ผสมเอาความโรแมนติกพ่วงเอาสิ่งที่เป็นเหมือนเครื่องหมายการค้าของค่ายๆ นี้เสมอมาอยู่ในนี้ด้วย

หนังเรื่องนี้มีทั้ง ไอซ์ ประกบ ซันนี่ “ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้” จากผู้กำกับจากหนัง “ATM เออรัก..เออเร่อ” ที่กลับมาพร้อมกับนางเอกคนเดิม แต่เรื่องราวเปลี่ยนไป จากเรื่องเพี้ยนๆ ฮาๆ กลายเป็นเรื่องที่รับกับการเข้ามาของ AEC

 

รีวิว ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้

 

เรื่องราวของวิศวกรช่างซ่อมบำรุงอย่าง “ยิม” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) ที่กำลังถูกแฟนสาวชาวญี่ปุ่นอย่าง “คายะ” (โซระ อาโออิ) ขอบอกเลิกและบอกลาไปอยู่อเมริกาด้วยเหตุผลที่พวกเขาคุยกันไม่รู้เรื่อง และเพราะเขาไม่รู้ภาษาอังกฤษจึงเลือกที่จะเรียนรู้ภาษาเพื่อสอบสัมภาษณ์ให้ผ่านไปทำงานที่เดียวกับเธอให้ได้ และนั่นทำให้เขาเลือกมาเรียนกับ “เพลง” (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) ซึ่งดันเป็นติวเตอร์คนเดียวกันที่สอนภาษาอังกฤษให้กับคายะอีก ทำให้เพลงต้องตัดสินใจอย่างยากลำบาก

แต่มันก็ไม่ใช่แค่นั้นหรอก เมื่อเพลงเองก็รู้สึกดีอยู่กับศิษย์หนุ่มหล่อรวยที่ดูจะเก่งภาษาซะจนไม่รู้มาเรียนทำไม อย่าง “คุณพฤกษ์” (ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ) เรื่องชุลมุนวุ่นรักเกิดขึ้น ก็เมื่อความรักของเธอกับศิษย์หล่อรวยกำลังถูกป่วนจากศิษย์ผู้หยาบคายที่พูดอังกฤษไม่ได้เอาเสียเลยน่ะสิ

สิ่งที่คิดหลังดูหนังเรื่องนี้จบก็คือ จากที่คิดว่าหนังเรื่องนี้จะมีแต่ฉากตลก ขำ ฮากลิ้ง กลับกลายเป็นว่าหนังมีมากกว่านั้น มันคือหนังที่รวมทั้ง Comedy และ Romance เข้าด้วยกัน ครึ่งแรกเราอาจจะชวนหัวไปกับมุกโน่นนี่นั่นที่บ้างก็ทำได้อยู่หมัด แม้บ้างก็ฟังแล้วฝืดๆ บ้างก็ดูน่าเกลียดเกินก็มี แต่กับครึ่งหลัง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ทิ้งเทไปที่แง่มุมความรักมากขึ้นและก็ทำได้ค่อนข้างดี เมื่อหยิบจับเอาภาษาอังกฤษ(ที่คนไทยส่วนใหญ่ยังมีปัญหากับมัน)มาเป็นแกนในการสร้างพล็อตและใช้ได้อย่างลงตัว

 

รีวิว ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้

 

ถ้าจะพูดนักแสดงเป็นคนๆ ไป อาโออิในเรื่องนี้ไม่ได้รับบทบาทแค่เป็นสาวสวยญี่ปุ่นหุ่นดีที่มารักกับพระเอก แต่กลับได้บทบาทที่มีสำคัญต่อการกระทำของพระเอก เธอมีบทพูดมากขึ้น แม้สำเนียงอังกฤษของเธอจะฟังยากอยู่สักหน่อย โจ๊ก โซคูล และตุ๊ยตุ่ย คือส่วนผสมที่สร้างความฮาให้กับหนัง อาจจะยังดูไม่ได้สำคัญกับเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ แต่ยอมรับว่าฮาตุ๊ยตุ่ยมาก อีกคนที่ฮาได้อย่างเซอร์ไพรส์ก็คือ ตู่ ภพธร บทหนุ่มหล่อรวยดูจะไปกันได้กับภาพลักษณ์ของเขา แถมยังได้บทพูดที่คมคายพอๆ กันกับไอซ์ ที่นอกจากจะสวยแล้ว ยังแสดงบทตลกได้ดีเช่นเคย ส่วนซันนี่ คงไม่ต้องสงสัยในความเป็นตลกหน้าตายของเขามากนัก เพราะเขาก็ทำมันได้มาตลอดอยู่แล้ว เว็บหนัง

ซึ่งก็แน่นอนว่า คงไม่ใช่ทุกมุกที่ผมจะชื่นชอบ แต่เมื่อดูโดยรวมของหนังแล้วพาร์ทโรแมนติกของหนังทำได้น่าประทับใจมาก จากที่จะมานั่งขำ กลับกลายว่าต้องมานั่งน้ำตาไหลในหนังตลก ดูๆ ไปก็ให้รู้สึกว่า คุณครูเพลงนี่จะแต่งตัวสวยเซ็กซี่ไปไหน แต่ครูก็น่ารักมากจนบางครั้งก็หลุดโฟกัสจากเรื่องไปเลย หนังมีกำแพงอยู่หน่อยๆ เรื่องภาษาและการอ่านซับไตเติล แต่นั่นกลับเป็นส่วนหลักๆ เลยที่ให้มันกลายเป็นหนังเรื่องนี้ขึ้นมา

 

รีวิว ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้

บทหนังร้อยเรียงไว้อย่างดี หยิบจับเอามาใช้ได้เหมาะเจาะ ทำให้ฉากโรแมนติกช่างแสนพีค ขณะมุกเลี่ยนๆ ก็ถูกวางเอาไว้อย่างถูกที่ การ tie-in สินค้าในหนังทำได้ค่อนข้างแนบเนียนไม่ดูโดด แถมยังสอนคนดูให้รู้จักภาษาอังกฤษอีกต่างหาก ไม่พอ ยังมีกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเป็น Easter Egg ให้แฟนตัวยงของค่ายนี้ได้ยิ้มย่องเมื่อยามได้เห็น ดูเหมือนว่า…หนัง GTH เริ่มจะกลับมาเข้าฟอร์มอีกครั้งแล้วนะ

วิจารณ์ ‘ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้’ ฮาถูกจริตคนเมือง

ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างไรที่หนังอย่าง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้จะกวาดเงินจากการเปิดตัวหนังวันแรกไปทั้งสิ้น 29.17 ล้านบาทและรวมกับรายรับวันที่ 2 เป็น 46.54 ล้านบาท (ข้อมูลจาก Facebook GTH) บ่งบอกให้เห็นถึงการทำการตลาดของค่ายหนังที่ผ่านการวางแผนมาอย่างดี และเมื่อจะ “เข้าถึง” ใจของผู้ชมที่รู้ว่ากลุ่มคนที่พร้อมจะมาจ่ายเงินเพื่อชมหนังนั้น “ชอบ” อะไร และอยากจะดูอะไรให้หนังเรื่องนี้ เว็บดูหนัง

 

รีวิว ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้

 

ผู้กำกับของเรื่องอย่างเมษ ธราธร ผู้สามารถกำกับภาพยนตร์เรื่อง ATM เออรัก เออเร่อ ให้โกยเงินไปกว่าร้อยล้านบาทนั้น เรียกได้ว่าสร้างความสำเร็จ อย่างล้นหลามให้กับสตูดิโอ GTH ซึ่งจะว่าไปแล้วผลงานเรื่องแรกของเขาเรียกได้ว่าตลกโปกฮา (แต่หนังก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ของเรื่องการเหยียดในเชิงชนชั้น จนสัมผัสได้ว่าสิ่งที่ผู้คนนั่งขำอย่างเป็นวรรคเป็นเวรนั้น เป็นผลผลิตมาจากความรู้สึกต่อกลุ่มคน “ชายขอบ” ในประเภทต่างๆนั่นเอง)

อย่างไรก็ตามพล็อตครั้งใหม่ใน ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ คือการหยิบเรื่องความบกพร่องทางการสื่อสารระหว่างภาษาเอามาเป็นข้อแม้ในการเชื่อมความสัมพันธ์รัก ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของ “เพลง” (ไอซ์-ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) ติวเตอร์ภาษาอังกฤษสาว ต้องพบกับเรื่องราวอันสุดแสนจะน่าปวดหัว เมื่อลูกศิษย์ชาวญี่ปุ่นของเธอตัดสินใจทิ้ง “ยิม” (ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) แฟนหนุ่มคนไทยไปอเมริกา

 

 

แต่ด้วยความที่ยิมฟังภาษาอังกฤษไม่ออก เธอจึงอัดวีดิโอบอกเลิกใส่ธัมป์ไดรว์พร้อมขอร้องให้เพลงช่วยไปเปิดแปลให้ยิมฟัง เมื่อยิมรู้ว่าถูกบอกเลิกก็โมโหมาก จึงตัดสินใจไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษกับเพลง(แกมขู่บังคับ) โดยหวังจะตามไปง้อแฟนที่อเมริกา

ในขณะเดียวกัน เพลงก็ไปตกหลุมรักกับ คุณพฤกษ์(ตู่-ภพธร สุนทรญาณกิจ) ลูกศิษย์ คอร์สภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ หนุ่มหล่อ ชาติตระกูลดี ผู้ซึ่งเป็นดั่งชายในฝันของผู้หญิงทุกคน จนในที่สุดทั้งสองก็ตกลงเป็นแฟนกัน ทว่าระหว่างที่การเรียนการสอนของเพลงและยิมค่อยๆ ผ่านไปในแต่ละวัน ทั้งคู่ซึ่งเคยดูเหมือนเกลียดกันในตอนแรก กลับเริ่มผูกพันและเริ่มมีใจให้กันทีละน้อยโดยที่ทั้งคู่ไม่ทันจะรู้ตัว

 

 

โทนหนังจะแบ่งออกได้เป็นสองพาร์ทอย่างชัดเจน เมื่อช่วงแรกของหนังจะมาในแนวทางตลกโปกฮา (เกือบจะเป็นสามช่า ตึ่งโป๊ะ เลยก็ว่าได้) เมื่อมันมักจะโจมตีคนดูด้วยพฤติกรรมพิเรนทร์ๆและไร้สติของตัวละคร พร้อมกับดนตรีประกอบที่โครมครามไม่แพ้หนังสยองขวัญที่ตัวละครจะต้องกรี๊ดแหกปากเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามจะพบว่ามุกโปกฮาไม่น้อยในเรื่องเต็มไปด้วยการวนเวียนกับ ของเสียในร่างกาย, สัตว์อันไม่พึงประสงค์ ลามเลยไปถึงมุกตลกเจ็บตัวแบบห่ามๆ หรือจำกัดความได้ว่ามันเป็น Dirty Joke หรือมุกตลกสกปรกนั่นเอง

สิ่งที่ยังคงมองข้ามไปเลยไม่ได้ก็คือการเอาเรื่อง “การเหยียด” ในทิศทางต่างๆก็ยังเอามาถูกยั่วล้อเพื่อทำให้ชีวิตอันแสนน่าเบื่อหน่ายของผู้คนตลกขบขำไปได้อีกไม่ว่าจะเป็น ผู้หญิงญี่ปุ่น = ภาพตัวแทนของดาราหนัง AV, ชนชั้นแรงงาน = ขาดความรู้ในเรื่องภาษาอังกฤษระดับที่ไม่สามารถท่อง A-Z ได้ มีพฤติกรรมแว๊น ทำตัวค่อนข้างไร้มารยาท , ชนชั้นคุณหญิงคุณนาย = ผมตีโป่งใส่ชุดผ้าไทย แก่โบราณ หรือแม้กระทั่งชายในฝันของผู้หญิง = คุณชายรูปงาม รวยหล่อ มีเงิน

 

 

อย่างไรก็ตามหนังก็ยังหยิบเรื่องชายในฝันเอามาทวิสต์บิดเอาเสียใหม่ ที่ว่าพล็อตซินเดอเรล่าพบเจ้าชายนั้น บางทีผู้หญิงคนหนึ่งอาจจะแค่ต้องการคนซ่อมรองเท้าดีๆ ให้เธอก็พอ และยิ่งประจวบเหมาะไปอีกว่าคนซ่อมรองเท้าพังๆ ก็คือยิมนั่นเอง และเราต้องบอกอีกเหมือนกันว่าโมเมนต์ในช่วงครึ่งหลังของหนังที่เมื่อไอซ์-ซันนี่เข้าคู่กันในช่วงดราม่า เคมีของทั้งสองคนลงตัวและรุนแรงมากจริงๆ ในการแสดงผ่านแววตาท่าทาง เว็บดูหนังฟรี

แม้จะไม่ได้เป็นหนังที่ถูกจริตคนทั้งหมด แต่ GTH ก็ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้ดีว่าบางครั้ง คนเมืองก็ต้องการหลบหลีกความจริงเข้าไปฝันกลางวันสัก 2 ชั่วโมง เพราะความเป็นจริงนั้นน่าเบื่อหน่ายและเต็มไปด้วยความผิดหวังนั่นเอง

 

ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้

สำหรับเนื้อเรืองก็ประมาณว่า คายะ(แสดงโดยโซระอาโออิ) ต้องการจะเลิกกับแฟนของเธอ ยิม(ซันนี่) ซึ่งไม่มีอะไรเหมือนกันเลย เข้ากันได้เรื่องเดียวคือเรื่องจุดจุดจุด….คือไม่ต้องการการสื่อสารอะไรใดๆทั้งสิ้นว่างั้น คายะก็เลยวานให้ติวเตอร์เพลง(ไอซ์ ปรีชญา)ไปแปลคำพูดเพื่อบอกเลิกเป็นภาษาไทยให้(จากภาษาอังกฤษ) ครูเพลงเป็นติวเตอร์ภาษาอังกฤษที่ท่าทางจะชื่อดังและร่ำรวยพอสมควรดูจากบ้านและไลฟ์สไตล์ของเธอ

คายะติดสินบนให้กับครูเพลงเป็นกระเป๋าหลุยส์ เธอจึงยอมตกลงรับงานนี้ โดยเมื่อเธอไปแปลให้ยิม บอกว่าคายะไปอเมริกาแล้วและเธอก็คงไม่กลับมาอีกขอให้ยิมโชคดี ส่วนยิมก็โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเนื่องจากแฟนหนี เขาจึงบังคับให้ติวเตอร์เพลงมาติวภาษาอังกฤษเพื่อไปตามคายะ โดยขู่ติวเตอร์เพลงจนติวเตอร์เพลงต้องยอมจำนนทำงานนี้ ในระหว่างนั้นทั้งสองคนก็ค่อยๆรักกันค่ะหลังจากนี้จะเป็นสปอยล์และความรู้สึกหลังดูนะคะ ใครไม่อยากดูอย่าเลื่อนลงไปนะ

 

 

เอาเรื่องความรู้สึกก่อนคือหนังก็ทำได้ไม่น่าเบื่อ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโอ้ว ว้าว วู้ว เฮ้ยยย สนุกโคตรๆๆๆๆหรืออลังการโคตร อะไรแบบนี้ค่ะ มันเป็นแบบมาตรฐานหนังไทยตลกฟีลกู้ดทั่วๆไป มุขแป้กไม่แป้กมั่ง หนังดำเนินเรื่องเร็วส่วนที่เป็นภาษาอังกฤษไม่มีแปลเลยสงสารแม่ที่ไปดูด้วยดูไม่เข้าใจตอนนั้นๆ เพราะบางตอนทำได้ดีมากเช่น ตอน 1 minute speech ที่ให้พูดถึงคำว่า mole

แล้วพฤกษ์(ตัวละครในเรื่องที่นางเอกเคยชอบตอนแรก) บอกว่า mole หรือไฝนั้นเลือกที่ๆมันจะเกิดขึ้นมาไม่ได้ คนเรามักจะตามหาคนที่มีไฝที่เดียวกันเพราะคิดว่ามันอาจจะเป็นพรหมลิขิตแต่มันอาจจะไม่เจอเลยก็ได้ทั้งชีวิต น่าแปลกที่ว่าไฝนั้นเหมือนกันกับโชคชะตา โชคชะตาเลือกที่จะเกิดที่จะเป็นไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกที่จะลิขิตชีวิตตัวเองได้ หลังจากนั้นพฤกษ์ก็เอาปากกามาจุดเป็นไฝที่เดียวกันนางเอก เป็นคำพูดหรูหราโลกสวยที่น่าประทับใจค่ะ

อีกตรงหนึ่งก็คือตอนจบที่นางเอกบอกว่า เจ้าหญิงซิลเดอเรลล่าในโลกแห่งความเป็นจริง อาจจะไม่ได้ต้องการเจ้าชายรูปงาม แต่ต้องการช่างทำรองเท้าธรรมดา และช่างทำรองเท้า อาจจะไม่ต้องการซินเดอเรลล่าก็ได้ เรื่องราวเหล่านี้อาจจะไม่จบแบบสมบูรณ์หรือ happily ever after เสมอไป แสดงถึงเรื่องของความรัก คนไปดูหนังรักมักจะเจอฉากจบที่ตัวละครแต่งงาน แฮปปี้ แต่ดูๆไปพบว่านั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นของชีวิตคู่ นอกจากนี้หลายคู่ต้องจบด้วยการเลิกกัน

 

 

ส่วนมุขในเรื่องดูขาดๆเกินๆสนุกดีแต่มันดูล้น บางอันดูขาด แต่ตัดภาพได้ดีมากค่ะ ตัดต่อได้ดึงอารมณ์คนทั้งๆที่เป็นฉากธรรมดาๆแต่ทำให้ซึ้งหรือรู้สึกน่ารักกินใจได้ ชีวิตนางเอกดูสมบูรณ์เกินไป เรื่องดูเวอร์ๆ แต่อย่างว่ามันเป็นหนัง ต้องทำใจว่าความเว่อร์มันก็มีอยู่แล้ว ถ้าไปดูหนังชีวิตเรียลมันก็คงไม่สนุก

ความต่างระหว่างพระเอกกับนางเอกมีมาก พระเอกดูจน ดูซกมก นางเอกดูไฮโซ และกลับไม่เลือกคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน แสดงให้เห็นว่าบางครั้งความรักเราก็เลือกไม่ได้ว่าจะรักคนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน หรือคนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าหรือแม้จะฝืนหลักการของสังคมเช่น ติวเตอร์รักกับนักเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเสียจรรยาบรรณในสายตาคนส่วนใหญ่ เว็บหนังฟรี

นางเอกจึงมีปัญหาเรื่องภาพลักษณ์ตอนท้ายสุดและยินยอมที่จะคบกับพระเอกในที่สุด นางเอกน่ารักค่ะเรื่องนี้ เต้นตลกดีตอนจบ ด้วยความที่เป็นหนังรักสำหรับวัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นๆเราไปดูแล้วเลยไม่อินมาก แต่ก็ตลกมุขพี่โจ๊กฆ่าจิ้งจกด้วยง่ามตูดนี่แหละ ฮามาก แล้วก็มุขของพฤกษ์ที่บอกว่าผมมีชีวิตเพื่อเพลง ไม่ใช่เพลงเพื่อชีวิต มุขนี่อย่างฮา