รีวิว 4 Kings

 

 

รีวิว หนังไทยใหม่ 4Kings อาชีวะยุค 90 เป็นภาพยนตร์แนวดราม่า อาชญากรรม ที่ตีแผ่ปัญหาสังคม และความจริงอีกมุมของกลุ่มนักเรียนช่าง หรือสายอาชีพในยุคอดีตที่ผ่านมา รวมไปถึงบทเรียนชีวิตที่พวกเขาได้พบเจอหลังผ่านความผิดพลาดเหล่านั้นมาแล้ว เขียนบท และกำกับโดย พุฒิ พุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้กำกับสายเลือดอาชีวะตัวจริง ที่ร้อยเรียงเรื่องราวและประสบการณ์ที่มีมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์ โดยเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เขาเคยทำ 4Kings ในแบบหนังสั้น มีความยาว 15 นาที ก่อนที่ปัจจุบันจะได้รับการต่อยอดนำมาทำเป็นภาพยนตร์ฉายในโรง

เมื่อความคึกคะนองในช่วงวัย สร้างมิตรภาพ และศัตรูมาพร้อมกัน หนังจะเล่าจากเหตุการณ์จริงของเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างนักเรียนช่างต่างสถาบัน ได้แก่ อินทรอาชีวศึกษา (ก่อสร้างอินทร), เทคนิคบุรณพนธ์ (ช่างกลบุรณพนธ์), เทคโนโลยีประชาชล (เป็นชื่อที่ใช้ในภาพยนตร์ แปลงมาจาก เทคโนโลยีประชาชื่น) และ กนกเทคโนโลยี (กนกอาชีวะ) ในยุคนั้น ทั้ง 4 สถาบัน ถูกกล่าวขานว่าเป็นขาใหญ่ที่สุดในบรรดาสายอาชีวะ เว็บดูหนังฟรี

 

รีวิว 4 Kings

 

โดยศูนย์กลางของเรื่องราวอยู่ที่ตัวละคร บิลลี่ อินทร รับบทโดย จ๋าย อิชณน์กร (จ๋าย ไททศมิตร) และ ดา อินทร รับบทโดย เป้ อารักษ์ ที่จะพาคนดูไปรู้จักโลกของเด็กช่าง และสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคม วัยรุ่นตีกัน การตั้งท้องในวัยเรียน และยาเสพติด เป็นต้น

พูดได้เต็มปากบอกได้อย่างภูมิใจเลยว่า “นี่คือหนังที่จะมาปลุกกระแสหนังไทยให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง” จาก เนรมิตหนังฟิล์ม ค่ายหนังน้องใหม่ ที่เปิดตัวได้อย่างร้อนแรงตั้งแต่ตัวอย่างแรกปล่อยออกมา หนังมีกลิ่นอายของ 2499 อันธพาลครองเมือง ที่สมัยนี้คงจะหาชมได้ยากแล้วกับหนังแนวนักเลงไทย นับเป็นสิ่งที่โหยหาและรอคอยกันมานาน อาจเพราะด้วยเสน่ห์ความเป็นยุค 90 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บวกกับการหยิบยกเรื่องจริงมาต่อยอด ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า หนังแนวนี้เหมาะกับคนไทยจริงๆ ดูหนัง

 

รีวิว 4 Kings

 

สำหรับ 4Kings อาชีวะยุค 90 เป็นหนังที่เล่าเรื่องได้ดี มี จุดเด่น ที่การได้เด็กช่างตัวจริงมากำกับและเขียนบท รวมไปถึงการได้ที่ปรึกษาจากตำนานอาชีวะอย่าง รูแปง อินทร 39 และ เอ็กซ์ ประชาชื่น ก็ทำให้เราคนดูเข้าใจปัญหาและสัมผัสกับความเจ็บปวดของเด็กช่างในยุคนั้นได้อย่างดี โดยทางทีมผู้สร้างไม่ได้ทำเพื่อชื่นชอบความรุนแรงหรือยุยง แต่มุ่งหวังให้หนังเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์สะท้อนปัญหาสังคมเท่านั้น

 

รีวิว 4 Kings

จุดที่น่าชื่นชมของหนัง มีหลายส่วนมากๆ ทั้งรายละเอียดความเป็นยุค 90 ที่ใส่เข้ามาได้สมจริงมาก รวมถึงคำพูดที่ไม่ได้ยินกันมานานแล้ว อย่าง “จ๊าบว่ะ” กับ “ไอ้กร๊วก” หรือแม้แต่ “จริงใจไม่จิงโจ้ ” ก็เรียกว่าทำการบ้านมาค่อนข้างดี และส่วนที่ต้องขอชื่นชมมากที่สุดเลยคือ การคัดเลือกนักแสดง ที่มี 100 ขอให้เต็ม 100 เลย ทีมนักแสดงฝีมือเหลือล้นกันทุกคน มีมาดนักเลงและความกวนโอ๊ยอยู่เต็มข้อ ทั้งยังมีตัวละครที่เป็นตัวป่วนและตัวแปรสำคัญอย่าง ยาท เด็กบ้าน กับอีโบ๊ะสีชมพู รับบทโดย บิ๊ก D Gerrard มาเพิ่มรสชาติให้กับหนัง ซึ่งโดยรวมหนังมีซีนที่น่าจดจำเยอะ ทั้งในพาร์ทความสนุกเฮฮา ความรุนแรง และความโศกเศร้า

อีกหนึ่งสิ่งที่ชอบมากๆ คือหนังมีการจั่วประเด็นด้วยบทสนทนาได้ดี ตั้งแต่คำพูด “ระหว่างเพื่อนกับสถาบัน กูว่ามันสำคัญเท่ากัน” หรือ “ถ้ากูไม่อยู่บู มึงไม่อยู่ชล เราจะตีกันมั้ยวะ” ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่สังคมก็เกิดคำถามเช่นกัน แต่ตัวหนังไม่ได้ให้คำตอบเหล่านี้อย่างชัดเจน สิ่งที่หนังพยายามจะส่งสารให้คนดูคือ บทเรียนชีวิตที่ได้จากความผิดพลาดในอดีต ดูหนังออนไลน์2022

 

รีวิว 4 Kings

 

ส่วนที่ น่าเสียดาย อย่างมากของ 4Kings อาชีวะยุค 90 คือความเล่นไม่สุด และบทดราม่าที่เสิร์ฟเข้ามาบ่อยจนกลายเป็นความยัดเยียด พยายามจะสอนคนดูมากเกินไป ทั้งฉากบู๊แบบลูกผู้ชายก็ยังไม่มากพออย่างที่คาดหวัง จนทำให้บางอย่างดูขาดมิติ และในช่วงท้ายหลังไคลแม็กซ์มีการดริฟต์ประเด็น หักอารมณ์พอสมควร แม้ว่าองค์ประกอบจะไม่ได้สมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง แต่ผู้กำกับและทีมนักแสดงก็สามารถทำให้หนังดูได้ลื่นไหลไปตลอด 2 ชั่วโมงกว่า

สรุปแล้ว 4Kings อาชีวะยุค 90 เป็นหนังไทยคุณภาพอัดแน่น ทั้งภาพ เสียง อารมณ์ และตัวละคร เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุด จนกล้าพูดได้เลยว่า 4Kings จะปลุกวิญญาณหนังไทยให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง เพราะนี่ไม่ใช่แค่หนังยกพวกตีกัน แต่คนทำต้องการจะสื่อสารว่า ทุกการกระทำย่อมมีผลตามมาเสมอ รวมถึงการตีแผ่มุมปัญหาครอบครัว สังคมของนักเรียนนักเลงที่มักจะเป็นผู้ร้ายในสายตาคนอื่น ถึงแม้ตัวบทจะมีจุดด้อยที่ทำให้ขาดอรรถรสไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าของหนังเรื่องนี้ลดลงไปเลย

 

 

เรื่องย่อ: จากเหตุการณ์จริงของเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างนักเรียนช่าง 4 สถาบัน สู่ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดบทเรียนชีวิตที่พวกเขาได้พบเจอ เมื่อความคึกคะนองในช่วงวัย สร้างมิตรภาพ และศัตรูมาพร้อมกัน

เป็นอีกโปรเจกต์หนังที่ใช้เวลาเดินทางมาอย่างยาวนานทีเดียวกว่าที่ พุฒิพงษ์ นาคทอง ผู้กำกับที่จบจากวิทยาลัยเทคนิคราชสิทธารามจะเริ่มไล่ล่าความฝันการเป็นนักสร้างหนัง โดยไต่เต้าจากเด็กกองจนมาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับให้กับ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค ได้ในที่สุด และเขาก็พกพาเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังมาในสมัยเรียนเขียนออกมาเป็นบทหนังออกเร่หาทุนเป็นเวลาหลายปีจนแทบนึกว่าโครงการจะล่มไปเสียแล้ว แต่ในที่สุดเขาก็ได้มาทำหนังยาวกับค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม จำกัด ค่ายหนังไทยหน้าใหม่ที่ดูมีวิสัยทัศน์น่าสนใจทีเดียว

 

 

และอาจด้วยการฝ่าฟันผลักดันความฝันนี้มาอย่างยาวนาน เหมือนว่าเรื่องที่เขาอยากเล่ามันได้ถูกเคี่ยวถูกบ่มจนได้ที่ เค้นเนื้อเน้น ๆ ดีกรีแรงออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ ถ้าถามว่าความรู้สึกมันคล้ายหนังเรื่องไหน ก็คงเป็น ‘2499 อันธพาลครองเมือง’ ในแบบฉบับที่จริงจังขึ้น และคมคายสมจริงขึ้นตามยุคสมัย ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุกภาคไทย

หนังยังอิงถึง ‘โลกทั้งใบให้นายคนเดียว’ หนังที่มีเด็กช่างเป็นพระเอกเรื่องแรก ๆ ของไทยด้วย

 

 

จุดเด่นของหนังคือการได้เด็กช่างตัวจริงที่ไปคลุกวงในเด็กช่างเด็กเทคนิคยุค 90s มาจริง ๆ จนได้วัตถุดิบที่สมจริงมาปรุงการเล่าเรื่อง แต่ละรายละเอียดในหนังเป็นการผสมผสานหลากหลายชีวิตและบทเรียนจากคนมากมายกว่าจะนำมาผูกสร้างเป็นตัวละครแต่ละตัว แม้จะยืนพื้นจากบุคคลที่มีตัวตนอยู่จริงและหลายคนก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ทว่าผู้กำกับก็ฉลาดพอที่จะทำให้มันเป็นเรื่องแต่งเพื่อไม่ให้กระทบคนจริง ๆ ที่ว่ามา และในแง่ดีคือมันใส่ลูกขยี้ลูกดราม่าชีวิตบัดซบให้ตัวละครได้มากขึ้นด้วย

ต้องชมอย่างแรกเลยคือ การคัดเลือกนักแสดงมาเล่น ถือว่าดีมาก ๆ ไม่เห็นการคัดแบบเข้าท่าเข้าทางยกทีมยกเรื่องขนาดนี้มานานแล้ว ด้วยจำนวนตัวละครที่ค่อนข้างมากในเรื่อง ทีมสร้างจึงเลือกให้ศูนย์กลางเรื่องราวอยู่ที่ตัวละคร บิลลี่ อินทร ของ จ๋าย ไทยทศมิตร หรือ อิชณน์กร พึ่งเกียรติรัศมี ที่เป็นเหมือนผู้นำพาผู้ชมไปรู้จักโลกของเขาที่มีเพื่อนสนิท 2 คนคือ ดา อินทร ที่รับบทโดยเป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ ที่เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นใหม่และเป็นหัวโจกของกลุ่มเพื่อน และอีกคนคือ รูแปง อินทร ที่รับบทโดย ภูมิ ภูมิ รังษีธนานนท์ ซึ่งเป็นตัวแสบในกลุ่มโรงเรียนอินทรอาชีวะ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

 

หนัง 4 Kings

จริงแล้วชื่อ 4Kings ก็บอกในตัวอยู่แล้วว่ามี 4 สถาบันที่เป็นคู่แค้นกัน แต่เรื่องราวจะเล่าผ่านสายตาฝั่ง อินทรอาชีวะ เป็นหลัก โดยเจาะไปที่คู่ปรับตัวฉกาจอย่าง เทคโนโลยีประชาชล (ซึ่งเพี้ยนชื่อมาจากของจริงคือ เทคโนโลยีประชาชื่น) ที่มีตัวละครนำอย่าง มด ชล หัวโจกของกลุ่ม รับบทโดย โจ๊ก อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ และ โอ๋ ชล ที่เป็นเหมือนมือขวารับบทโดย นัท ณัฏฐ์ กิจจริต

และจะยังมีอีก 2 สถาบันสุดแสบอย่าง กนกอาชีวะ และช่างกลบุรณพนธ์ เป็นตัวสอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ โดยเล่าผ่านตัวนำอย่าง บ่าง กนก ที่รับบทโดย แหลม สมพล รุ่งพาณิชย์ หรือ แหลม 25Hours และ เอก บู รับบทโดย ทู สิราษฎร์ อินทรโชติ ซึ่งหนังฉลาดในการค่อย ๆ พาจากกลุ่มอินทรไปรู้จักกลุ่มอื่น ผ่านตัวละครของบิลลี่ที่มีเหตุให้ต้องเข้าไปร่วมหัวจมท้ายกับ โอ๋ ชล และ เอก บู ในช่วงเวลาหนึ่ง

 

 

และยังฉลาดในการใส่ตัวละครตัวป่วนที่เข้าไปปั่นสถานการณ์ให้วุ่นวายหนักข้อโดยไม่เลือกหน้าอย่างกลุ่มเด็กเจ้าถิ่นที่เรียกว่าเด็กบ้านที่นำแก๊งโดย ยาท เด็กบ้าน รับบทโดย บิ๊ก อุกฤษ วิลลีย์ บรอด ดอนกาเบรียล หรือ D Gerrard และเมื่อหนังแนะนำตัวละครสำคัญ ๆ ได้ครบ ทั้งยังให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่บ้างเป็นศัตรูอยู่ร่วมโลกไม่ได้ บ้างเป็นศัตรูที่ยอมรับให้เกียรติกัน บ้างก็เป็นมิตรที่อยู่คนละขั้วและต้องเลือกอยู่เสมอว่าระหว่างสถาบันกับเพื่อนน้ำหนักสิ่งไหนสูงกว่ากัน ซึ่งทำให้เนื้อหามันมีมิติความซับซ้อนที่ดีพอจะทำให้เกิดสถานการณ์ชวนเอาใจช่วยตัวละครมากมาย

และที่ชอบมากอีกประการคือการสร้างบทสนทนา หนังเรื่องนี้มีบทสนทนาที่ดีมาก ๆ เกิดขึ้นระหว่างความขัดแย้งของตัวละครที่คมคายมาก ๆ ไม่ใช่เพียงระหว่างศัตรู แต่ระหว่างลูกกับพ่อแม่ เพื่อนกับเพื่อน ครูกับศิษย์ คนรักกับคนรัก และแม้ตัวเรื่องมันจะเป็นอะไรที่ดราม่าเชย ๆ แบบที่เราเห็นในหนังสะท้อนสังคมแทบทุกเรื่อง ทว่าบทสนทนาในเรื่องกลับทำให้มันแตกต่างและน่าจดจำอย่างไม่น่าเชื่อ ดูหนังออนไลน์ฟรีไม่กระตุก

ที่สำคัญมันไม่ได้แค่ชวนคิดชวนถกเถียงเท่านั้น แต่มันยังเปี่ยมด้วยทัศนคติที่ดี และเป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากพอจริง ๆ และสำคัญอย่างยิ่งที่มันไม่ได้ตัดสินตัวละครจากสิ่งที่สังคมให้ค่าเลย ในเรื่องนี้ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ เด็กก็อาจมีเหตุผลที่ดีกว่าก็ได้ในมุมมองของเขา อะไรเช่นนี้เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากในการเป็นหนังสะท้อนสังคมเรื่องหนึ่งในยุคแห่งเหตุและผลเช่นนี้

 

 

และแม้จะมีสิ่งดีมากมาย แต่หนังก็มีจุดด้อยสำคัญอยู่ นั่นคือมันไม่ตอบรับความคาดหวังของผู้ชมที่อยากดูหนังบู๊มัน ๆ แรง ๆ แบบลูกผู้ชายตามที่หน้าหนังนำเสนอไว้ได้มากพอ หนังแทบจะตัดส่วนรุนแรงอย่างภาพการตีกันแบบกดข้ามไปเลยด้วยซ้ำ และฉากใหญ่ที่คนรอคาดหวังอย่าง คอนเสิร์ตช็อต ชาร์จ ช็อก ที่เป็นตำนาน ก็แทบไม่คุ้มแก่การรอคอยเท่าไรเลย พอประกอบกับความยาวของหนังที่มากถึง 2 ชั่วโมงครึ่งแบบที่เส้นเรื่องเยอะมาก ใครหวังมาดูหนังแอ็กชันก็น่าจะมีผิดหวังไปพอสมควร แต่ส่วนตัวมองว่าใครที่ดูแล้วเอาข้อด้อยนี้มาตัดสินหนังทั้งเรื่องก็ออกจะใจร้ายไปสักหน่อย เช่นเดียวกับที่ตัวละครในหนังพูดไว้ว่า “เห็นมันเป็นอย่างนั้น ใครทำลงก็เ_ี้ยเกินไปแล้วล่ะ”

และนี่คือสิ่งสำคัญมาก ใครที่กำลังตัดสินใจไปดู ต้องเข้าใจก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังแอ็กชันแบบเด็กเกเรตีกันแบบพวกหนังเด็กนักเรียนญี่ปุ่นที่วัยรุ่นกำลังนิยม แต่มันคือหนังดราม่าหนังชีวิตที่เข้มข้นมาก ๆ และความรุนแรงด้านภาพก็ไม่ได้เป็นส่วนสำคัญเลย เพราะความรุนแรงต่ออารมณ์และความรู้สึกผู้ชมนั้นมันสาหัสสากรรจ์กว่ามากๆ ต่อให้เป็นผู้ชายแมนๆ

ยังไงคุณก็มีโอกาสโดนสักฉากในหนังที่ทำเอาน้ำตาร่วงได้แน่นอน นี่จึงเป็นหนังอีกเรื่องที่ดูแล้วจะอยากบอกต่อใครสักคนเลยว่า ของมันดีจริงๆ ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022