รีวิว Anna สวยสะบัดสังหาร

 

 

หนังใหม่ netflix ถือเป็นผลงานแอคชั่นมาแรงสำหรับ “Anna สวยสะบัดสังหาร” ซึ่งหลังจากได้เข้าฉายที่อเมริกาไปแล้วก็ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ สร้างความฮือฮาให้แก่คอหนังแอคชั่นเป็นอย่างมาก ทั้งในส่วนของพล็อตเรื่องที่เล่าได้สนุกตามสไตล์ของผู้กำกับ “ลุก แบส์ซง” ไปจนถึงการพลิกบทบาทของนางแบบสาว “ซาชา ลุสส์” สู่งานแอคชั่นถ่ายทอดบทนักฆ่าได้อย่างเลือดเย็น และฉากเดือดต่างๆ ของหนังที่ทั้งดุและมันส์ ขึ้นแท่นฉากต่อสู้ที่ดีที่สุดในหนังของปี 2019 เลยก็ว่าได้

เรื่องย่อหนัง ‘Anna’

อันนา หรือ แอนนา โพเลียโทว่า (Sasha Luss) เธอคือเพชฌฆาตสาวคนใหม่แห่งโลกนักฆ่า เธอเป็นทั้งสายลับและนักฆ่าของหน่วยสืบราชการลับรัสเซีย ได้รับมอบหมายภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ท้าทายสองขั้วอำนาจจากสองฝั่งโลก เคจีบี และ ซีไอเอ

เธอเป็นสาวสวยที่ได้เป็นนางแบบชั้นแนวหน้าของมอสโก ได้กระทบไหล่คนดังมากมาย แต่วันหนึ่งเธอกลับต้องมาพัวพันกับคนในหน่วยสืบราชการลับรัสเซีย เธอกลายเป็นมือสังหารที่มีฝีมือในการฆ่าที่น่าทึ่ง

 

รีวิว Anna สวยสะบัดสังหาร

 

งานนี้ เธอต้องปะทะกับ อเล็กซ์ เชคอฟ (Luke Evans) สายลับเคจีบีมือฉมังผู้ส่งเธอสู่วงการนักฆ่า, โอลก้า (Helen Mirren) เมนเทอร์ตัวแม่ผู้ชี้เป้าสังหารให้กับเธอและเลนนี่ มิลเลอร์ (Cillian Murphy) ซึไอเอหนุ่มผู้ที่ติดตามทุกฝีก้าวของแอนนา

รีวิวหนัง ‘Anna’

เป็นปกติของ ลุค เบซง ที่มักจะทำหนังแต่ละเรื่องมักจะให้ตัวละครที่เด่นที่สุดเป็นเพศหญิง เรื่องนี้ก็เช่นกัน นางเอกหมดหนทางดีดีในชีวิตจนต้องรับงานที่พลิกทุกสิ่งของเธอไปตลอดกาล ด้วยหุ่นและหน้าตาสะสวย เธอกลายเป็นซูเปอร์โมเดล เข้าสู่วงการนางแบบ มีชีวิตเซ็กซ์กับเพศเดียวกันไม่พอ เธอกลายเป็นเพชฌฆาตสาวสายลับเคจีบี

หนังส่งตัวอย่างออกมาให้คนดูรอลุ้นว่าจะได้ชมฉากบู๊สุดสันของแอนนาที่เขาว่าเป็นจอห์น วิค คนใหม่ เมื่อได้ดูจริงๆ ก็กลับพบว่ามีฉากบู๊มันๆ ผ่านมาไม่มากนัก ส่วนใหญ่ของหนังจะไปใช้ไปกับเดินเรื่องเสียมากกว่า

 

รีวิว Anna สวยสะบัดสังหาร

 

หนังเน้นไปเรื่องความสัมพันธ์กับตัวละครตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเคจีบี ซีไอเอ หรือแม้แต่ใจวงการนางแบบเอง

อาจเริ่มต้นด้วยการเล่าที่ไม่หวือหวามากนัก มีฉากบู๊แอ็กชันสลับบ้าง เป็นการปูเรื่องราวที่ไม่ถึงกับตื่นเต้นอะไรมากนัก หากเมื่อเรื่องราวเดินมาครึ่งทาง จากที่ซึมๆ อยู่ก็กลับตื่นตาขึ้นมาทันที

 

รีวิว Anna สวยสะบัดสังหาร

‘แอนนา สวยสะบัดสังหาร’ ใช้กลวิธีเล่าเรื่องที่พลิกกลับด้วยการเล่าแบบสลับสับหว่างเวลา ทำให้คนดูต้องใช้สมองนิดนึงในการปะติดปะต่อเรื่องราว เหมือนหนังต้องการสร้างเซอร์ไพรส์ให้คนดูไปตลอดทางขนาดคิดว่าน่าจะสรุปแล้ว ก็ยังจะมีให้พลิกได้ต่ออีกแน่ะ

จากครึ่งแรกที่ดูไม่อะไรเท่าไหร่ กลับเปลี่ยนผันมาเป็นว่าครึ่งหลังดันสนุกเฉยเลย สนุกเพราะการปะติดปะต่อเรื่องราวในหัวเราที่เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้นหลังจากผ่านครึ่งแรกไปได้แล้ว ฉากบู๊อะไรต่างๆ ไม่ได้เป็นที่จดจำสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่า Sasha Luss นั้นทำได้ดีพอประมาณ แม้ไม่ถึงกับอึ้งทึ่งอะไรมากนักแต่ความสวยสะบัดนี่เอาเรื่องจริงๆ

ไม่ว่าจะ Sasha Luss นางเอกที่เหมาะไปเสียกับผมทุกทรงที่เธอใช้ในการปลอมตัวหรือใช้ในชีวิตนางแบบของเธอ หรือ Lera Abova สาวสวยนางแบบ ไว้ผมสั้น ที่มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง เป็นสีสันที่ชวนตะลึงตามองอย่างยิ่ง

 

รีวิว Anna สวยสะบัดสังหาร

 

สำหรับผม หนังเรื่องนี้ไม่เชิงเป็นหนังบู๊เท่าไหร่ หากมองเป็นหนังสไตล์สายลับ/นักสืบ เดินเรื่องสลับเวลาไปมา เพื่อพลิกเรื่องราวที่ถูกปิดบังเอาไว้แล้วกลับมาเฉลยให้ได้อึ้งกันไป คงไม่ต้องคาดหวังด้านฉากบู๊ แต่สิ่งที่คาดหวังได้คือความสวยของนางเอกและคู่ขา กับเรื่องราวที่สลับไปมาให้ใช้สมองคิดตามนั่นล่ะครับ เว็บหนัง

หลังจากสร้างภาพยนตร์แอคชั่นพลังหญิงที่ทำเอาแฟนๆ ชื่นชอบสุดๆ ใน Lucy (2014) ผู้กำกับ ลุค เบซง (Luc Besson) ก็กลับมาปั้นเรื่องราวของสาวสวยอีกครั้งใน Anna สวยสะบัดสังหาร แต่คราวนี้มาในธีมของสายลับสาวในยุค 80 โดยได้นางแบบสาว ซาชา ลุสส์ (Sasha Luss) ที่เคยร่วมงานกันมาแล้วใน Valerian and the City of a Thousand Planets (2017) มาขึ้นแท่นเป็นนางเอกนักบู๊คนล่าสุด

 

 

Anna สวยสะบัดสังหาร ว่าด้วยเรื่องราวของ แอนนา โพเลียโทวา สาวสวยชาวรัสเซีย หลังจากถูกค้นพบโดยแมวมองนางแบบ เธอก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบแถวหน้าและเป็นแฟชั่นไอคอนระดับโลก แต่แอนนามีด้านที่ซ่อนไว้มากกว่าที่คนทั่วไปได้เห็น ภายใต้ความงามไร้ที่ติของเธอนั้นคือ การใช้ชีวิตอยู่ในโลกของโคตรนักฆ่าสุดอันตรายที่ก้าวพลาดแม้แต่ก้าวเดียวมันหมายถึงชีวิต

แน่นอนว่า Anna ก็ยังคงตามสูตรหนังสายลับที่มีทั้งเรื่องของงานแอคชั่นอันเป็นจุดขาย รวมไปถึงการหักเหลี่ยมเฉือนคม ต่างฝ่ายก็ต่างกุมความลับของกันและกัน โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของหนังก็หนีไม่พ้นนางเอกของเรื่อง ซึ่งเธอสามารถถ่ายทอดบทบาทของสายลับสาวที่ใฝ่หาอิสรภาพออกมาได้ดีทีเดียว ในส่วนของงานบู๊แอคชั่นแม้จะดูไม่ค่อยกระฉับกระเฉงแต่ก็ยังคงมีความสวยงาม เฟียสสุดๆ สุดกับเป็นนางแบบ แถมเผยให้เห็นลีลาแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย เรียกว่าฟาดไม่ยั้งเลยทีเดียว

อีกหนึ่งส่วนที่ชอบมากๆ คือมีการหักมุมหลายชั้นทำเอาคนดูอย่างเราคาดไม่ถึง และเคลียร์ปมได้ทุกประเด็น ในส่วนนี้ถือเป็นจุดที่ทำออกมาได้สนุกมากๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าบางฉากบางตอนหรือบางมุกอาจจะติดเชยๆ ไปบ้าง นอกจากนั้นหนังยังได้นักแสดงเบอร์ใหญ่มามีส่วนช่วยให้หนังมีสีสันและมีส่วนสำคัญมาก ทั้งรุ่นใหญ่ เฮเลน มิร์เรน (Helen Mirren), ลุค อีแวนส์ (Luke Evans) และ คิลเลียน เมอร์ฟีย์ (Cillian Murphy)

 

 

อีกหนึ่งประเด็นที่หนังทุกเรื่องในยุคนี้พยายามสื่อให้เห็นคือ ความหลากหลายทางเพศ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครของ แอนนา และเพื่อนสาวนางแบบที่เธอมีความน่ารักมากๆ เมื่อเห็นจุดจบของทั้งคู่แทบใจสลายเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม แม้หนังจะทำให้ส่วนของงานบู๊แอคชั่นออกมาได้ดี แต่ดูๆ ไปแล้วยังไม่สามารถเทียบภาพยนตร์แอคชั่นพลังหญิงที่ผ่านๆ มาของผู้กำกับได้

ภาพยนตร์แอ็กชัน-เขย่าขวัญ ที่มีฉากหลังเป็นวงการแฟชั่นไฮโซสุดตระการตา หลังจากถูกค้นพบโดยแมวมองนางแบบ แอนนา โปเลียโทว่า (ซาช่า ลุสส์) สาวสวยชาวรัสเซีย ก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบแถวหน้าและเป็นแฟชั่นไอคอนระดับโลก แต่แอนนามีด้านที่ซ่อนไว้มากกว่าที่คนทั่วไปได้เห็น

ภายใต้ความงามไร้ที่ติของเธอนั้นคือการใช้ชีวิตอยู่ในโลกสายลับสุดอันตรายที่ก้าวพลาดแม้แต่ก้าวเดียวมันหมายถึงชีวิต ร่วมแสดงโดยทีมนักแสดงคุณภาพนำโดยเฮเลน เมียร์เรน คิลเลียน เมอร์ฟี และ ลุค อีแวนส์ รีวิว Anna – สวยสะบัดสังหาร

 

 

เรื่องย่อ

สำหรับเรื่อง แอนนา นั้นเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ อันนา เด็กสาวผู้ตกอับในชีวิต ถูกเลือกให้มาเป็นสายลับ KGB ให้กับทางรัสเซีย โดยภาระกิจล่าสุดที่เธอต้องแผงตัวไปทำนั้น หน้าฉากคือการเป็นซูเปอร์โมเดลในฝรั่งเศส และเมื่อเวลาผ่านไปเธออยากจะวางมือ เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองได้เป็นอิสระจากงานสายลับนี้ให้ได้

ผลงานชิ้นใหม่ของผู้กำกับหนังแอ็กชั่นตัวพ่อ ลุค เบสซง ที่พูดชื่อไปก็ไม่ต้องอ้างอิงแล้วว่าทำผลงานโบว์แดงอะไรมาบ้าง สำหรับในเรื่องนี้เขากลับมาทั้งกำกับ เขียนบท และโพรดิวซ์ อีกครั้ง โดยครั้งใดที่ป๋าแกมาเต็มสูบทุกตำแหน่งหลักขนาดนี้ ถึงจะไม่อาจรับประกันความสำเร็จสูงสุดได้ ดูหนัง

แต่ที่แน่นอนคือหนังเรื่องนั้นย่อมมีสิ่งไม่ธรรมดาแบบไม่ธรรมดาเอามาก ๆ อยู่แน่นอน ไม่ว่าจะ Léon: The Professional (1994) The Fifth Element  (1997) หรือยุคใกล้มาหน่อยอย่าง Lucy (2014) และ Valerian and the City of a Thousand Planets (2017) ก็จะเห็นว่าเป็นหนังมีของแรง ๆ ที่ผสมแนวแอ็กชันเข้ากับความแฟนตาซีในแง่ใดแง่หนึ่งทั้งนั้น ซึ่งใน ANNA อาจดูเหมือนไม่ค่อยแฟนตาซี แต่เอาจริงมันก็มีความเอนเตอร์เทนแบบที่เกินจริงอยู่เช่นกัน

 

Anna สวยสะบัดสังหาร

Luc Besson ถือเป็นผู้กำกับอีกคนที่มีสไตล์การทำหนังที่เฉพาะตัว เป็นของตัวเองมาก และมีผลงานหนังแอคชั่นสุดคลาสสิคมากมาย และหนึ่งในเรื่องที่ผมชอบมาตั้งแต่สมัยเด็ก คงหนีไม่พ้นเรื่อง The Fifth Element ภาพยนตร์แอคชั่น Si-Fi ที่เนื้อเรื่องในสมัยนั้นไม่ได้มีคนตอบรับดีๆ เท่าไหร่ แต่กลับกันมาในยุคปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกยกให้เป็นภาพยนตร์คลาสสิคของผู้กำกับคนนี้ไปแล้ว

ครั้งนี้ความน่าสนใจอีกอย่างคือ เบสซง กลับมาปั้นดารานำหญิงแอ็กชั่นแบบที่หน้าใหม่มาก ๆ คล้ายตอนปั้น นาตาลี พอร์ตแมน ในเรื่อง Léon ในขณะที่ ซาช่า ลุสส์ อาจได้เปรียบนิดตรงเคยผ่านบทรองในหนัง Valerian มาก่อนหน้า และมีโฆษณากับเล่นเอ็มวีมาบ้างนิดหน่อย แต่กระนั้นเรื่องนี้ก็ถือเป็นบทนำในหนังใหญ่ครั้งแรก และถึงนับทุกชิ้นงานเล็ก ๆ ที่ว่ามา หนังเรื่องนี้ก็แค่ผลงานบันเทิงชิ้นที่ 5 ของเธอเท่านั้นเอง และก็คล้าย Léon ที่มี ฌ็อง เรโน และ แกรี่ โอลด์แมน มาทำหน้าที่ครูสอนเด็กใหม่ ในเรื่องนี้เบสซงยังใช้ดารามากฝีมือรุ่นเก๋ามาประคองดาราใหม่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เฮเลน เมียร์เรน คิลเลียน เมอร์ฟี และ ลุค อีแวนส์ ซึ่งก็ช่วยรับประกันแกนของหนังว่าจะไม่ต้องโยนให้น้องหนูนางแบบหน้าสวยต้องแบกเพียงลำพังจนเกินไป

 

 

ข้อกล่าวหาสำคัญที่คงปฏิเสธยากคือ มันแค่หนังที่มีคนหน้าตาดีเล่นหรือเปล่า เพราะด้วยใบหน้าสวยแนวนางแบบของ ซาช่า ลุสส์ กับแนวหนังบู๊ที่ไม่ต้องอาศัยศักยภาพด้านการแสดงอะไรมากนัก แต่ตัวหนังก็มีการพัฒนาตัวละครในแบบที่ไม่กลวงเปล่าขนาดที่ใครจะดูถูก แม้จะมีความเอ๊ะ ๆ ชวนตะหงิดใจในเรื่องที่มาที่ไปในวัยเด็กมาเป็นสาวข้างถนน ก่อนตัวเอกจะเข้าสู่โลกนักฆ่านิดหน่อยก็ตาม แต่พอหนังเข้าเรื่องราวที่นางเอกต้องเข้าสู่โลกของนางแบบเพื่อปฏิบัติภารกิจลอบฆ่านั่นล่ะ ที่จะรู้สึกว่า เบสซง กำลังทดลองแนวทางใหม่ ๆ ในหนังสปายของตัวเอง

ไม่ว่าจะเรื่องสายลับหลายหน้าที่ผสมผสานกับเรื่องราวชีวิตนางแบบอย่างหนักหน่วงในครึ่งแรก ก่อนจะค่อย ๆ เพิ่มรายละเอียดแผนซ้อนกันไปมาระหว่างการชิงความได้เปรียบระหว่าง KGB ของโซเวียต กับ CIA ของอเมริกา โดยมีตัวเอกอย่างแอนนาเป็นหุ่นเชิดที่วิ่งเต้นไปมาบนสนามประลองอำนาจ อันทำให้ครึ่งหลังของหนังกลายเป็นหนังสายลับแบบเต็มสูบ โดยมีฉากแอ็กชันแซมอยู่เป็นระยะ ซึ่งส่วนตัวรับได้กับหนังหลากแนวจึงไม่ได้ซีเรียสหรือรู้สึกว่าความสนุกของหนังลดลง

 

 

หากแต่แปรเปลี่ยนความสนุกในแบบหนึ่งไปสู่อีกแบบหนึ่ง แต่ทั้งนี้ก็พอเข้าใจได้ว่าหากบางคนเข้ามากะดูหนังแอ็กชั่นแบบ Taken แบบ John Wick เต็มสูบ อาจรู้สึกว่าไม่อิ่มใจก็เป็นได้ ทั้งนี้สำหรับแฟนหนัง ลุค เบสซง มันคือหนังในแบบที่ลุคไม่ค่อยได้ทำให้เราดู ทั้งยังผสมผสานท้าทายตัวเองด้วยรูปแบบสารพัด อันจะพยายามปลีกตัวเองออกจากหนังเก่า ๆ ของตนเอง และที่สำคัญให้ออกจากหนังแนวสายลับเรื่องก่อน ๆ ที่มีมาแล้วบนโลก

มันไม่ใช่หนังสายลับแอ็คชั่นจ๋า หรือโลกนักฆ่าอย่าง John Wick ฉากแอ็คชั่นก็ไม่ได้เยอะ แต่มันก็มีฉากแอ็คชั่นที่น่าจดจำเหมือนกัน (เช่นฉากในร้านอาหารที่เราเห็นในตัวอย่าง) ในตัวหนังจริงมันส์มากและเท่กว่าเยอะ! แต่กลับกัน ฉากแอ็คชั่นตอนท้ายเรื่องทำออกมาไม่ค่อยดีเลย รู้สึกขัดๆ ยังไงก็ไม่รู้ เหมือนตัวเธอเหนื่อยยังไงยังงั้น ขนาดใช้มุมกล้องช่วยแล้วนะ แต่มันก็ดูคนละเรื่องกับฉากในร้านอาหารเลยจริงๆ แถมจุดที่โคตรขัดอีกอย่างคือ ไอ้พวกที่สู้กับนางเอกบางคนเป็นทหาร เป็นบอดี้การ์ด ยิงปืนไม่โดนนางเอกกันเลยสักนัดเนี่ยนะ เว็บดูหนัง