รีวิว Dark World

 

 

Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด เป็นภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญที่นำเสมอเรื่องและกิมมิกออกมาได้อย่างสนใจภาย กฎที่มีหวังและได้ฉีกแนวภาพยนตร์ไทยเป็นชิ้น ๆ …ตัวภาพยนตร์มีเนื้อหาภายในเกี่ยวข้องภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นและจบลงด้วยความล่มสลายของระบบเศรษฐกิจที่ล้มเหลวเพราะรัฐบาลในหนังเฮงซวย ผู้คนอยู่อย่างไร้กฎเกณฑ์ คนรวยคือพระเจ้า คนจนเป็นเพียงทาสรับใช้ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่มีชีวิตรอด ความตายมีอยู่ทุกที่ ซึ่งพอมาถึงตอนนี้ก็คงจะเป็นภาพยนตร์ที่คิดว่ามันต้องเป็น แบบ The Purge คืนล้างบาป ไม่ก็ภาพยนตร์อะไรที่เล่นความรู้สึกของคนจนและคนรวย

 

รีวิว Dark World

 

ภาพยนตร์ดูน่าสนใจมากยกเว้นเสียแต่ผู้กำกับนั้นก็คือ โน้ตจูเนียร์ ลูกชายของโน้ตเชิญยิ้ม ซึ่งผลงานเก่า ๆของเขาก็มีดังนี้ดังนี้ ลูกตลกตกไม่ไกลต้น’ (2006) คู่กวนป่วนเมษา’ (2008) อีส้มสมหวัง ชะชะช่า (2009) ไม่เป็นไร ๆ คนเราต้องเปลี่ยนได้บางทีการกำกับหนังไทยแบบแหวกแนวก็จำเป็นต้องใช้ผู้กำกับแหวกแนว

Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด การวางฉากและ CGI ถือว่าดีกว่าหนังไทยบางเรื่องตอนนี้มากโปรดักแน่นจริง ๆ แต่สิ่งพลาดแบบสุดคือ ๆ ตัวละครที่ค่อนข้างจะเยอะ  พอ ๆ เกม RPG และไม่รู้พวกนั้นจะโผล่มาทำไมบทเยอะเกินและบางตัวบทไม่ส่งปมไม่ให้เลย เป็นภาพยนตร์ที่ตรงข้ามภารพยนตร์ไทยในอดตสิ้นเชิงต้องถามทำความเข้าใจก่อนนะภาพยนตร์ไทยสมัยก่อนแบบ ซุ้มมือปืน หรือ หนังแนวเมืองไทยสไตล์เซอร์ไวเวอร์ (เอาชีวิตรอด) มีเยอะมาก ถึง CGI ยุคนั้นดูค่อนข้างจะไม่ค่อยสมจริงไปสักเท่าไรแต่เรื่องบทคอส่งมาก โดยรวม Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด ถือว่าดีเพราะแต่บทค่อนข้างส่งตัวละครแบบวิ่งผลัดและใช้ตัวละครเยอะไปหน่อย ในขณะที่เมล์นรกหมวยยกล้อ ทั้ง ๆ ฉากมีแค่บทรถเมล์แต่กลับดูได้อย่าลื่นไหล

 

รีวิว Dark World

 

ตัวภาพยนตร์เหมือนจะมีการนำเป็นรูปแบบ  squid game ที่เน้นเป็นการบู๊แบบบ้าระห่ำภายใต้กฎที่ถูกทำลายแต่บางกฎบางที…ต้องทำความใจนะว่า บทเขียน squid game ปาไป 10 ปีก่อนออกฉากในขณะที่ Dark World เกม ล่า ฆ่า รอดเหมือนนึกอะไรได้ก็ใส่ ๆ ไม่มีวาง ความประติสัมผัสตัวละครมาได้ก็ยิงทิ้งหมดแต่ก็ต้องขอชมเฉย ว่า Dark World เกม ล่า ฆ่า รอด เป็นหนังปลุกชีพ ภาพยนตร์ Action  ไทยที่เงียบมานานให้กลบมาเป็นกระแสอีกครั้ง เหมือนพยายามปูบทแบบ Hunger Game แต่ไปไม่รอดทั้ง ๆ โปรดักดีถ้าหากคนเขียนบทมีความรู้เกี่ยวกับบทอีกหน่อยจะเป็นหนังไทยที่ไปได้ไกลเลยไม่ใช่จบแบบ มือปืนโลกพระจันทร์ ดูหนัง

 

รีวิว Dark World

เรื่องย่อ ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 3 เกิดขึ้นและจบลงด้วยความล่มสลายของระบบเศรษฐกิจ ผู้คนอยู่อย่างไร้กฎเกณฑ์ คนรวยคือพระเจ้า คนจนเป็นเพียงทาสรับใช้ คนแข็งแกร่งเท่านั้นที่มีชีวิตรอด ‘เฟียร์’ (ดลลชา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) , ‘ไอรีน’ (อริสรา ทองบริสุทธิ์) และ ‘รัน’ (รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์) ในวัยเด็ก ต่างถูกจับให้ลงเล่นในเกมที่จัดขึ้นมาเพื่อสนองความสนุก ความบ้าคลั่งของคนรวย กติกามีเพียงใครแพ้ต้องตาย เฟียร์โดนเพื่อนรักหักหลังจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด 20 ปีผ่านไป โลกที่พวกเธอรู้จักยังโหดร้ายไม่เปลี่ยน 3 สาวต่างมีชีวิตและเส้นทางที่แตกต่างกัน แต่โชคชะตานำพาให้ทั้งหมดโคจรมาพบกันและต้องลงแข่งในเล่นเกมที่เดิมพันด้วยชีวิตอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ใครจะเป็นผู้ชนะ!

 

รีวิว Dark World

 

หลังจากเคี่ยวกรำประสบการณ์การกำกับหนังแนวตลก ตั้งแต่การร่วมกำกับเป็นครั้งแรกใน ‘ลูกตลกตกไม่ไกลต้น’ (2006) , ‘คู่ก๊วนป่วนเมษา’ (2008) และหนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง ‘อีส้มสมหวัง ชะชะช่า’ (2009) มาถึงปีนี้ ‘โน้ตจูเนียร์’ (จิตต์สินธ์ ผ่องอินทรกุล) บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของนักแสดงตลกในตำนาน ‘โน้ต เชิญยิ้ม’ ก็กลับมากำกับภาพยนตร์อีกครั้ง โดยคราวนี้เลือกที่จะแหวกแนวมากำกับหนังแนวไซไฟแอ็กชันกลิ่นอายดิสโทเปียใน ‘Dark World’ ‘เกม ล่า ฆ่า รอด’ เป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปี

แถมตัวหนังเองก็ยังมีดีกรีได้ไปเดินสายประกวดก่อนฉายจริงในเทศกาลหนังระดับโลก ทั้ง ‘เทศกาลภาพยนตร์แฟนตาสติกนานาชาติปูชอนครั้งที่ 25’ (Bucheon International Fantastic Flim Festival 2021) ที่จัดฉายให้คนเกาหลีใต้ได้ชมพร้อมกับ Q&A แถมยังได้เป็น 1 ใน 9 เรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัล ‘Méliès International Festivals Federation (MIFF) Award for Best Asian Film’ (รางวัลภาพยนตร์เอเชียยอดเยี่ยม สมาพันธ์เทศกาลภาพยนตร์แฟนตาสติกนานาชาติ) ก่อนจะได้กลับมาฉายให้คนไทยได้ชมกัน ดูหนังออนไลน์

 

 

ตัวหนังว่าด้วยเรื่องของโลกดิสโทเปียหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 3 จบลง ทำให้เมืองล่มสลาย ผู้คนอยู่อย่างไร้กฏเกณฑ์ คนรวยกลายเป็นพระเจ้า ส่วนคนจนกลายเป็นเพียงของเล่นของคนรวย ‘เฟียร์’ (ดลลชา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) , ‘ไอรีน’ (อริสรา ทองบริสุทธิ์) และ ‘รัน’ (รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์) จึงถูกจับให้ลงเล่นเกมที่มีชื่อว่า ‘การค้าประเพณี’ (ไม่ได้เขียนผิดนะครับ ในหนังใช้คำว่าประเพณี ไม่ใช่ประเวณี จริง ๆ นะ) คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ชนะ ส่วนคนที่แพ้ก็ต้องเดิมพันด้วยชีวิต

 

 

ในแง่คอนเซปต์โดยรวม ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างดีนะครับ สำหรับผู้เขียน หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มีความแหวกแนวมาก ๆ ทั้งในแง่ของแนวหนังที่ถือว่าแหวกแนว และไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนักในหนังไทย รวมถึงงานโปรดักชันและโทนหนัง ถือว่าทำได้ดีเลยสำหรับมาตรฐานหนังไทย

แต่ปัญหาที่ดูจะเป็นเรื่องหนักหนาที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่มีแรงก็คือตัวบทภาพยนตร์ครับ เพราะโดยรวม ๆ ทั้งเรื่อง ดูเหมือนว่าตัวหนังจะพยายามเอาหนังหลายแบบและหลายแนวมาผสมกัน จะเป็นแนว Survival ก็มี ดิสโทเปียก็เอา แอ็กชันทริลเลอร์ก็มา แนวจิตวิทยาก็มี แนวหนังเฟมินิสต์และเพศหลากหลายก็มาด้วย ก็เลยทำให้ปมหนังในองก์แรกมีหลายตัวละคร และมีปมหลายทิศทางมากเกินไป จนทำให้ปมประเด็นหลักไร้พลังและไปไม่สุดสักทาง

 

 

 Dark World

เอาเข้าจริง บางปมของบางตัวละครนี่แทบจะไม่จำเป็นด้วยซ้ำ หรือถ้าจะให้ผู้เขียนพูดแบบใจร้ายก็คือ ตัวละครบางตัวนี่แทบจะตัดออกไปได้เลยครับ เพราะนอกจากจะไม่มีผลต่อเส้นเรื่องแล้ว หลายครั้งปมเรื่องอันแสนยุ่บยั่บของตัวละครที่ไม่จำเป็นเหล่านั้นก็ดูจะทำให้เรื่องในองก์แรกดูสับสนปั่นป่วนไปหมด แล้วนั่นก็ส่งผลให้ตัวหนังขับเคลื่อนไปแบบสับสน และก็ไม่รู้ว่าจะเอาใจช่วยตัวละครตัวไหนได้บ้าง

ในแง่การแสดงมีให้พูดถึงเยอะมากครับ เพราะด้วยหนังเรื่องนี้มีตัวละครเยอะมากก แต่นักแสดงหลายคนกลับมีบทบาทที่ไม่เข้าที่เข้าทางเอาซะเลย ตัวละครหลายตัวมีปัญหาบ้างล้นบ้างขาด รวมทั้งไดอะล็อกที่ไม่ปะติดปะต่อ และใส่คำคมมากเกินไปจนดูฝืน ๆ ผิดที่ผิดทางไปหมด นอกจากนั้น การแสดงในพาร์ตรวม ๆ รวมถึงการแสดงในฉากแอ็กชันต่าง ๆ ทั้งเรื่องก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีพลังงานเอาซะเลย ยิ่งถ้าเป็นฉากต่อสู้ก็จะยิ่งเห็นว่าเนือยมาก ก็ยิ่งทำให้ตัวหนังดูจะขับเคลื่อนแบบไร้พลังงานซ้ำเติมเข้าไปอีก ดูหนังออนไลน์ 4k

 

 

ผู้เขียนอยากเล่าถึงนักแสดงคนหนึ่งในเรื่องมาก ๆ เลยครับ คือในองก์แรกเนี่ย บอกได้เลยว่าเป็นตัวละครที่ล้นโอเวอร์จนน่ารำคาญมาก ๆ ซึ่งพอตัวละครนี้ตายลง (ตายยังไงขอไม่สปอยล์นะครับ) ผู้เขียนกลับรู้สึกโล่งใจ และพูดกับตัวเองว่า อืม… ตายซะได้ก็ดี ขอบคุณมาก

โดยส่วนตัวผู้เขียนเองไม่ชอบ ‘วิลลี่ แมคอินทอช’ ที่เล่นเป็น ‘เสี่ยกวิน’ ในบทบาทและรูปลักษณ์นี้เลยครับ สำหรับผู้เขียนเอง ฝีมือและการแสดงของพี่วิลลี่คือความหวังหนึ่งเดียวที่ผู้เขียนแอบหวังลึก ๆ ว่าจะทำให้หนังดูดีและมีพลังขึ้นมา แต่กลายเป็นว่า ตัวบทกลับทำให้พี่วิลลี่กลายเป็นเสี่ยที่ดูงง ๆ ไม่เข้าที่เข้าทางซะอย่างนั้น แล้วการเซตให้เสี่ยกวินเป็นไบเซ็กชวล ผ่านการแต่งหน้าสไตล์ Metrosexual เครื่องสำอางหนาเตอะเลอะเต็มหน้าแบบนั้น

 

 

คือก็พอจะเข้าใจว่าอยากให้มีกลิ่นอายความหลากหลายทางเพศนั่นแหละนะครับ แต่แทนที่จะออกมาดูเท่ ก็ดันออกมาเป็นตัวร้ายเพี้ยน ๆ ที่ชวนให้นึกถึงตัวละคร ‘Dr. Frank-N-Furter’ ในหนังคัลต์คลาสสิก ‘The Rocky Horror Picture Show’ (1975) อะไรทำนองนั้นซะมากกว่า ส่วนเสี่ยหน้าฝรั่งอย่าง ‘เฮียหม่า’ (เดวิด อัศวนนท์) ก็ดูจะไม่ฉายแววเท่าที่พี่เดวิดควรจะเป็นซะอย่างนั้น

ส่วนคนที่ผู้เขียนยอมรับว่าไม่ได้หวัง แต่ก็ทำได้ค่อนข้างดี กลับเป็นแซมมี่ (ดลลชา ภูวิจารย์ เคาวเวลล์) ในบท ‘เฟียร์’ ที่ถือว่าทำได้ดีในแง่การรับบทบาทและการแสดงที่ดูขึ้นกล้อง แม้ว่าตัวพล็อตจะยุ่งเหยิงจนทำให้บทบาทของแซมมี่ดูจะมา ๆ หาย ๆ แถมยังมีความซ้ำซ้อนกับตัวละคร ‘รัน’ (รักษ์ณภัค วงศ์ธนทัศน์) ไปบ้าง แต่ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีในบทบาทที่ได้รับ ส่วนนักแสดงคนอื่น ๆ อย่างเช่น ดิว (อริสรา ทองบริสุทธิ์) ในบท ‘ไอรีน’ แม้ว่าบทบาทจะดูน่าสนใจ ดูขึ้นกล้องที่สุดในเรื่อง และเล่นบทเลิฟซีนได้ดี แต่พอบทส่งอารมณ์กลับดูล้น ๆ ขาด ๆ อย่างน่าใจหาย ส่วนบทเลิฟซีนของทั้งคู่ในแนวเลสเบียน ผู้เขียนดูแล้วคิดว่า ออกจะ “เฉย ๆ ” นะครับ ดูหนัง 4k