รีวิว Eternals
หนังใหม่ จักรวาลหนังมาร์เวลหรือ MCU เหลือหนังฟอร์มยักษ์รอฉายในปีนี้ 2 เรื่อง ซึ่งต่างก็น่าดูเรื่องละแบบ Spider-Man: No Way Home ที่รอฉายเดือน ธ.ค. เป็นการสานต่อเนื้อเรื่องของหนึ่งในตัวละครหลักของ MCU ส่วน Eternals แนะนำให้ผู้ชมรู้จักประวัติศาสตร์และขอบเขตของ MCU กว้างขึ้น
โปสเตอร์ EternalsEternals เป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวอีเทอร์นัล ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ ทว่ามีความสามารถพิเศษและอายุขัยไม่จำกัด (แต่ก็ไม่ได้เป็นอมตะ) ได้รับมอบหมายหน้าที่จากเผ่าพันธุ์เก่าแก่ผู้ดูแลจักรวาลที่เรียกว่า เซเลสเชียล (Celestials) ให้นั่งยานไปยังดาวเคราะห์ที่มีสิ่งมีชีวิตทรงสติปัญญาทั่วจักรวาล เพื่อปกป้องพวกเขาเหล่านั้นจากอสุรกายที่เรียกว่า เดเวียนต์ (Deviants) ซึ่งแฝงตัวมาในดาวแต่ละดวงตั้งแต่แรกเริ่ม
อีเทอร์นัล (อิคาริส) เข้าต่อสู้กับเดเวียนต์อีเทอร์นัลกลุ่มที่ถูกส่งมายังดาวเคราะห์โลกมีทั้งหมด 10 คน (ตน?) นอกจากมีสกิลพิเศษแตกต่างหลากหลาย มีทั้งคนที่เหาะได้แถมยิงแสงเลเซอร์จากตาได้ (เหมือนซูเปอร์แมนของ DC) พลังรักษาบาดแผล พลังสร้างภาพมายา พลังควบคุมจิตใจ ฯลฯ ยังมีรูปลักษณ์ภายนอก รสนิยม และบุคลิกลักษณะแตกต่างหลากหลายด้วย มีคนที่คล้ายคนจีน คนที่คล้ายคนอินเดีย คนที่คล้ายเด็ก และยังมีคนพิการทางการได้ยินที่สื่อสารด้วยภาษามือตลอด และคนดำที่เป็นชายรักชาย เรียกว่าครอบคลุมกลุ่มคนที่แตกต่างหลากหลาย (Diversity) ตามกระแสนิยมในสื่อบันเทิงปัจจุบัน
อีเทอร์นัลทั้ง 10 คนนับตั้งแต่เดินทางมาถึงโลกในยุคหิน อีเทอร์นัลทั้ง 10 คนก็ตามไล่ล่าพวกเดเวียนต์เรื่อยมาตลอดประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ พร้อมกันนั้นก็รู้สึกผูกพันและสั่งสอนศิลปวิทยาการต่าง ๆ ให้แก่มนุษย์ในอารยธรรมหลายแห่งทั่วโลก ทั้งยังกลายเป็นต้นแบบเทพเจ้าในหลายเทพปกรณัมทั่วโลก (โดยเฉพาะฝั่งกรีก – โรมัน จะเยอะเป็นพิเศษ) พวกนี้ยึดถือคติว่าจะไม่เข้าไปก้าวก่ายในความขัดแย้งหรือสงครามระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง ทว่ามีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับคติดังกล่าว และทำให้กลุ่มอีเทอร์นัลขัดแย้งกันจนแยกย้ายไปคนละทิศละทางในที่สุด
ดรูอิกมองอาณาจักรแอซเทกที่กำลังลุกเป็นไฟต่อมาในสมัยปัจจุบัน ซึ่งน่าจะหลังจากเหตุการณ์ใน Avengers: Endgame ไม่นาน อีเทอร์นัลชื่อ เซอร์ซี (รับบทโดย Gemma Chan) พบว่ามีพวกเดเวียนต์โผล่มาอีกครั้ง และดูเหมือนจะตั้งใจจู่โจมพวกอีเทอร์นัลโดยเฉพาะ นางเลยออกเดินทางเพื่อรวบรวมเพื่อน ๆ อีเทอร์นัลที่กระจัดกระจายไปทั่วโลกให้มาช่วยกันค้นหาความจริงเบื้องหลังเดเวียนต์ฝูงใหม่นี้
รีวิว Eternals
เซอร์ซีในโลกยุคปัจจุบันณ ขณะที่เขียนโพสต์นี้ Eternals ยังคงเป็นภาพยนตร์ใน MCU ที่ได้คะแนนรีวิวจากฝั่งนักวิจารณ์ในเว็บ Rotten Tomatoes ต่ำสุด ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา บางคนมองว่ามีเวลาเกลี่ยบทให้แต่ละตัวค่อนข้างน้อย บางคนไม่ชอบการเล่าเรื่องตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน บางคนบอกว่าบรรยากาศแตกต่างจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ MCU เรื่องอื่น ๆ โดยสิ้นเชิง ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นจุดที่ทำให้ผมค่อนข้างชอบเรื่องนี้
คะแนนรีวิว Eternals ในเว็บ Rotten Tomatoesผมไม่ได้ติดตามเรื่องราวในจักรวาลมาร์เวลฉบับการ์ตูนคอมิกอย่างละเอียด แต่ก็พอรู้ว่าเรื่องราวในหนังเรื่องนี้ จะเป็นพวกอีเทอร์นัลก็ดี เซเลสเชียลก็ดี เดเวียนต์ก็ดี ต่างมีกำเนิดและบทบาทแตกต่างจากในคอมิก ซึ่งก็เป็นอีกครั้งที่ MCU นำเนื้อเรื่องดั้งเดิมในฉบับคอมิกมาตีความใหม่ได้น่าสนใจและไม่ดูเฉิ่ม ในหมู่ตัวละครอีเทอร์นัลก็มีบางตัวที่ดัดแปลงจนกือบไม่เหลือเค้าเดิมจากในคอมิก แต่ก็เป็นความเปลี่ยนแปลงที่สร้างรสชาติแปลกใหม่
Eternals ฉบับ Marvel Comicหนังขึ้นชื่อว่า Eternals แน่นอนว่าสิ่งที่ควรโดดเด่นที่สุดควรเป็นพวกอีเทอร์นัล ซึ่งโชคดีที่ตัวหนังทำแบบนั้น เรื่องนี้เท่ากับว่ามีตัวละครเอก 10 ตัว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่บางตัวจะมีบทเด่นกว่าตัวอื่น แต่หนังก็เกลี่ยบทและแอร์ไทม์ให้ทุกตัวอย่างเหมาะสมในช่วงเวลา 2 ชม. ครึ่ง ผู้ชมได้เห็นทุกตัวปล่อยของ โชว์พลัง แสดงความรู้สึกนึกคิดและตัวตน มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งในยุคปัจจุบันและแฟลชแบ็กย้อนอดีต ในสัดส่วนที่นับว่าพอเหมาะพอควรกับเวลาดำเนินเรื่อง ทำให้รู้สึกผูกพันกับกลุ่มอีเทอร์นัลทั้ง 10 ตนได้ง่าย ไม่ดูยัดเยียดเกิน
เซอร์ซีและอิคาริสในบ้านของฟาสทอสในด้านการดำเนินเรื่อง ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานภาพยนตร์ MCU มีการผูกปมที่เร้าอารมณ์คนดูขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดไคลแมกซ์ อารมณ์ขันที่จัดวางถูกที่ถูกเวลา (แต่ก็มีตอนที่ทำให้เกาหัวแกรก ๆ บ้าง เช่น การที่ตัวละครอ้างอิงถึงฮีโร่ในเครือ DC อย่างซูเปอร์แมนหรือแบทแมน) การหักมุมที่พอให้ตะลึงพรึงเพริดได้บ้าง แม้จะไม่เหนือความคาดหมายเท่าไร ตัวละครทุกตัวทุกฝ่ายล้วนแต่มีเหตุผลรองรับการกระทำที่ชอบธรรมและฟังขึ้น ตลอดจนฉาก End credits ทั้ง 2 ฉากที่แอบเกริ่นนำตัวละครใหม่ 2 ตัวที่รอคิวเข้าสู่ MCU อย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะตัวใน End credit แรก ซึ่งแฟน ๆ การ์ตูนมาร์เวลรอคอยให้ปรากฏตัวมานานแล้ว ดูหนังใหม่
เซอร์ซีใน???ส่วนในด้านบรรยากาศ จริงอยู่ที่เรื่องนี้ค่อนข้างต่างจากหนัง MCU เรื่องอื่น แต่ความแตกต่างตรงนี้ก็เป็นเรื่องยอมรับได้เมื่อคิดในแง่ที่ว่า พวกอีเทอร์นัลอยู่กันมาเนิ่นนานพอ ๆ กับประวัติศาสตร์มนุษย์ มองจากมนุษย์ในสมัยก่อน ๆ แล้วก็ใกล้เคียงกับเทพเจ้าในตำนาน มากกว่าฮีโร่ร่วมสมัยอย่างกลุ่มอเวนเจอร์ส ตัวหนังเรื่องนี้ก็เน้นเรื่องการเผยให้เห็นภาพของจักรวาลในสเกลที่กว้างใหญ่กว่าในเรื่องผ่าน ๆ มา ภาพรวมเลยดูอืด ๆ เอื่อย ๆ ทว่ายิ่งใหญ่อลังการ คนละแบบกับหนังกลุ่ม Avengers ที่เอะอะก็วูบวาบ ๆ รวดเร็วไปหมด
เซอร์ซีกับต้นไม้บนเนินทั้งนี้ ถ้าจะมีอะไรที่ผมไม่ชอบในเรื่อง Eternals ตรงนั้นก็น่าจะเป็นความเชื่อมโยงกับหนังเรื่องอื่น ๆ ใน MCU ตัวอย่างที่ชัดที่สุด และมีหลายคนตั้งข้อสงสัยไว้ตั้งแต่ก่อนหนังฉาย คือคำถามว่า ทำไมตอนที่ตัวร้ายใน Avengers แต่ละภาคมาบุกโลก ไม่ว่าจะโลกิ อัลตรอน หรือธานอส พวกอีเทอร์นัลถึงไม่เข้ามาช่วย หลายคนสันนิษฐานต่าง ๆ นานา คิดว่าทั้งกลุ่มโดนลบความทรงจำหมดจนเข้าใจว่าพวกตนเป็นมนุษย์ธรรมดามาตลอดบ้าง
คิดว่าสลายไปตอนที่ธานอสดีดนิ้วบ้าง และแล้วในหนังก็มาเฉลย… “อ๋อ ก็พวกเราปฏิญาณตนว่าจะไม่ยื่นมือเข้ามาก้าวก่ายเรื่องของมนุษย์น่ะ” …เอ่อ ฮัลโหล ธานอสมันกะล้างบางสิ่งมีชีวิตครึ่งจักรวาลเลยนะ ไม่ใช่แค่มนุษย์โลก พวกเอ็งไม่กลัวพวกเดียวกัน หรือแม้แต่พวกเซเลสเชียล จะโดนอำนาจของถุงมือโคตรโกงกำจัดไปด้วยเหรอ คือเป็นเหตุผลที่ฟังดูเหมือนแก้ตัวเอาดื้อ ๆ ฟังแล้วน่าจับตบบ้องหูเรียงตัวมาก
กลุ่มอีเทอร์นัลในป่าถึงกระนั้น ถ้าจะมองว่ามันเป็นหนัง Stand alone ไม่ต้องพึ่งพิงหนังเรื่องอื่นใน MCU เลย ก็มองได้ครับ ไม่จำเป็นต้องเคยดูเรื่องอื่นก็สนุกกับเรื่องนี้ได้ แต่ถ้าเคยดูหรือพอรู้จักหนังใน MCU มาก่อน พอมาดูเรื่องนี้แล้วก็จะได้รู้จักขอบเขตและความเป็นมาของจักรวาลอย่างครบถ้วนขึ้นเท่านั้น
ก่อนไปดูก็แอบทำใจไว้แล้ว มันจะไม่ดีเท่าที่คิด เพราะด้วยกระแสจากนักวิจารณ์ต่างประเทศค่อนข้างออกมาในแง่ลบ ชนิดที่เรียกว่าสับแหลก สับเละ และนี่อาจเป็นหนังที่แย่ที่สุดเท่าที่ Marvel เคยทำมา ซึ่ง #CheezeLooker แนะนำให้คุณไปลอง แล้วตัดสินใจด้วยตัวเองดีกว่าว่า การเปิดจักรวาลมาร์เวลครั้งใหม่นี้จะมีรสชาติถูกใจหรือไม่ถูกใจคุณมากน้อยแค่ไหน และอะไรกันแน่คือสิ่งที่ขาดหายไปในหนังเรื่องนี้
Eternals
เรื่องย่อ
เอาเป็นว่านี่คือเรื่องราวของกลุ่มฮีโร่พลังเทพเจ้า 10 คน ที่แต่ละคนนั้นก็จะมีพลังแตกต่างกันไป พวกเขาทั้งหมดถูกส่งมาที่โลก เพื่อพิทักษ์มนุษยชาติจากเหล่าสัตว์ประหลาด Deviants
ความรู้สึกหลังดูจบ
ตอบคำถามแรกว่านี่อาจเป็นหนังในจักรวาล Marvel ที่หลุดจากมาตรฐาน Marvel ที่คุณเคยดูไปเยอะมากๆ เรียกว่าหลุดขอบโลกในแบบที่มันไม่ดี ซึ่งต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามันคือการเปิดจักรวาลใหม่ และตัวละครเยอะมาก กว่าจะพาไปทำความรู้จัก กว่าจะรวมคนได้ มันใช้เวลาค่อนข้างนานและเสียเปล่า แถมพอใช้นักแสดงหลักเยอะ บทบาทความสำคัญต้องถูกแบ่ง แล้วตัวมุกตลกในช่วงแรกๆ ก็แอบฝืด แบบเล่นอะไรกันนะ! พยายามเกิ๊นนน จนแอบเกลียด!!!
สำหรับเรา คิดว่าเรื่องการตัดต่อลำดับเหตุการณ์น่าจะเป็นอีกเหตุผลหลักที่ทำให้ตัวหนังดูน่าเบื่อและไม่น่าสนใจ เพราะประเด็นบางเรื่องมันยืดยาวจนเกินไป แบบที่ไม่ใส่มายังดีกว่า หรือตัดให้กระชับๆ กว่านี้ แล้วไปใส่ใจในดีเทลอื่นแทน รวมถึงเรื่องการสลับไทม์ไลน์ย้อนให้ดูเรื่องราวเก่าแบบไปๆ มาๆ ที่เหมือนจะพยายามให้เรื่องราวมีดีเทล มีมิติ แต่กลับเจอแต่น้ำ ที่ไม่มีเนื้ออีกทีนึง
แล้วก็ที่แอบนอยด์ คือ 30% ของหนังเน้นเรื่องความรักที่ค่อนข้างหลากหลาย และเปิดกว้างที่สุดเท่าที่จักรวาลมาร์เวลเคยทำมา แต่มันเหมือนการพยายามยัดเยียดเข้าไปแบบที่ทำให้คนดูอย่างเราอินไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แถมมาแบบครึ่งๆ กลางๆ จนแค่รู้สึกว่าบทพูดแอบแย่! มีความแข็งทื่อ ไม่ทรงพลังจนกินใจให้รู้สึกจุกๆ หรืออมยิ้มตาม ดูหนังฟรี
แอบชมเรื่องงานดีไซน์ ทุกอย่างคือดีมาก CGI สวยทุกซีน รวมถึงพวกซีนแอ็คชั่นหนักๆ ในตอนท้าย ที่ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างสมูทดี