Minamata เป็นภาพยนตร์ที่เล่าถึงเรื่องราวในช่วงทศวรรษที่ 19 เป็นช่วงที่โลกนั้นต้องเผชิญกับการต่อสู้อย่างยาวนานในสงครามโลกครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 สงครามทำให้มนุษยชาตินั้นต้องสูญเสียทรัพยากรไปมากมาย ธรรมชาติเต็มไปด้วยสารเจือปนที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนต่อมาในระยะยาวนับ 10 ปี หรือในบางสถานที่นั้นก็อาจจะส่งผลกระทบยาวนานนับพันปีจากผลของนิวเคลียร์

 

หลังจากสงครามโลกจบลงก็ต่อด้วยสงครามเย็นเข้าไปอีกที่ทำให้ในแต่ละประเทศนั้นต่างต้องพยายามพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของตนเองให้มีความก้าวหน้ามากกว่าประเทศอื่น มนุษย์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสารต่างๆ มากมายทั้งสารเคมีที่ให้ประโยชน์และให้โทษ แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าการใช้สารเคมีนั้นหากไม่ระมัดระวังก็อาจจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและผู้คนได้อย่างมหาศาล

 

เมืองมินามาตะ เป็นเมืองในประเทศญี่ปุ่นที่อยู่บริเวณชายฝั่งทะเล พวกเขานั้นต้องพบเจอการรับมือกับสารพิษที่เต็มไปด้วยความอันตรายอย่างปรอทที่ทำลายสุขภาพพวกเขาไปทีละเล็กทีละน้อยจนทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยมากมายและกลายเป็นชื่อเรียกของโรคมินามาตะไปเลย

 

สาเหตุที่สารพิษอย่างสารปรอทนั้นเจือปนในน้ำก็เกิดจากความประมาทของอุตสาหกรรมผลิตสารเคมีที่มีชื่อว่าบริษัท ชิสโซะ การปนเปื้อนของสารปรอทในครั้งนี้สร้างความสนใจให้กับผู้คนไปทั่วทั้งโลกทำให้ช่างภาพที่ได้รับการยกย่องและมีชื่อเสียงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่าง Smith ถูกส่งมายังเมืองดังกล่าวเพื่อเก็บภาพไปรายงานข่าวและเป็นข้อมูลสำหรับการรายงานให้กับสื่อ

 

Smith นั้นใช้ชีวิตกับผู้คนในเมืองอย่างใกล้ชิดทำให้เขานั้นได้รับรู้เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังมากมาย และเขาเองก็มีความคิดว่าความประมาทเลินเล่อของบริษัทนั้นส่งผลกระทบต่อการอยู่อาศัยและสุขภาพของผู้คนเป็นอย่างมาก ดังนั้นผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองดังกล่าวนี้จึงควรได้รับความเป็นธรรม จากช่างภาพธรรมดาเขาจึงได้กลายเป็นผู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ป่วยโรคมินามาตะในที่สุด

 

เขาใช้ภาพของเขาให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเพื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับหมู่บ้านเล็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสารปรอทและไม่ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม ให้ทั่วโลกได้เห็นว่ายังคงมีความเดือดร้อนของผู้คนกลุ่มเล็กๆ จากความประมาทเลินเล่อของนายทุนที่ถูกรังแกอีกครั้งโดยรัฐบาลที่ไม่ได้ใส่ใจหรือใหการเยียวยา