รีวิว Stranger Things

 

 

เรื่องย่อ

รัฐอินเดียน่าในช่วงยุคปี 1980 เมื่อแม่คนหนึ่งที่ที่ชื่อว่า จอยส์ บีเยอร์ (Joyce Byers) ได้ออกตามหา วิล บีเยอร์ (Will Byers) ลูกชายของเธอที่จู่ๆ ก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับแบบไร้ร่องรอย เธอได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานท้องถิ่นให้ออกมาช่วยตามหาลูกของเธออีกแรง แต่แล้วเธอก็ได้ค้นพบว่า การหายตัวไปของลูกชายเธอนี้ ดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทดลองลับๆ บางอย่างของรัฐบาล ไปจนถึงเรื่องราวเหนือธรรมชาติสุดระทึกของเด็กคนหนึ่งที่มีพลังจิตที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาลอีกด้วย!!!

 

รีวิว Stranger Things

 

มันสนุกเยี่ยงแท้เลยออเจ้า ไม่นึกว่าพล็อตโบราณหงำเหงือกขนาดนี้ สองพี่น้อง Duffer จะนำเสนอออกมาได้น่าสนใจขนาดนี้ กะอีแค่พล็อตเด็กคนนึงหายไป มันจะยืดยาวมาถึง 8 ตอนได้ แต่ผมไม่ได้หมายความว่ามันดูเนือยนะครับ มันดูไม่ได้รีบร้อนในการเล่า เพราะมันต้องใช้เวลาในการคลายปมค่อนข้างเยอะ แค่คลายปมก็ล่อไป 2 ตอนละคุณเธอ แต่มันก็ไม่ได้ดูยืดยาด อืดอาดจนผิดสังเกตุ และในแต่ละตอนความน่าติดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ ช่วง Episode แรกๆ จะไม่ได้ลุ้นมากเพราะต้องใช้เวลาในการวางปมปริศนาต่างๆ และพอถึงตอนปลายๆ ซีซั่นก็ถึงเวลาคลายปม ซึ่งก็คลายได้ดีนะครับ มีหยอดๆ ไปซีซั่นสองด้วย

ที่ผมทึ่งคือทั้งซีซั่นมันไม่ได้มีแค่เรื่องเด็กหายตัวไปแค่นั้นครับ หนังยังมีซับพล็อตตามมาด้วย ทั้งเรื่องการทดลองลับรัฐบาล, มิติกลับด้าน, สัตว์ประหลาด, เด็กสาวพลังจิต, เรื่องราวของโจนาธาน แนนซี่ กับสตีฟ, การตามหาประตูมิติของเหล่าเด็กๆ โอ้โห! พล็อตเยอะขนาดนี้คุมให้อยู่ด้วยกันและไปถึงยากนะครับ เพราะมีหลายเรื่องพยายามทำแล้วเหลวไม่เป็นท่า แต่….. พี่น้อง Duffer คุมพล็อตอยู่ครับ เล่าทุกพล็อตได้ครบทุกประเด็นครบถ้วน

 

รีวิว Stranger Things

 

ไม่มีตกค้าง ผมขอชื่นชมฝีมือพี่น้อง Duffer นะครับ ที่คุมพล็อตๆ พวกนี้ได้อยู่ภายในระยะเวลาแค่ 8 ตอน แต่ละตอนก็ไม่ถึงชั่วโมง โห! มันยากนะครับที่จะคุมพล็อตให้อยู่ด้วยกันได้ แต่พี่น้อง Duffer ทำได้ ผมว่าเก่งครับ เก่งมากๆ เพราะถ้าคุมไม่อยู่มันเละเลยนะ เก่งครับ ปรบมือด้านดารานี่ยอดเยี่ยมเลยครับ Ryder นี่สุดยอดมากๆ อ่ะ ตีบทแตกกระจุย, Harbour นี่ก็เข้มขรึมแต่ข่มอารมณ์ในใจได้ดีครับ, Wolfhard, McLaughlin, Matorazzo

 

รีวิว Stranger Things

นี่ก็ซี้กันได้ดีครับ เล่นได้โดดเด่นทุกคน, Brown ก็ไปได้ดีกับบทนิ่งๆ ครับ ทุกวันนี้ผมยังจำเธอในบทอีเลเว่นอย่างตราตรึงเลย(ขนาดตอนดูตัวอย่าง King of Monsters ยังเห็นเป็นอีหนูแอลมานั่งกรี๊ดอยู่เลย555), Dyer, Heaton, Keery นี่ก็ไปได้ดีครับ การแสดงถือว่าเด่นพอตัว และสองรายสุดท้ายที่ออกน้อยแต่ว่าน่าจดจำ Purser ในบทบาร์บ บทน้อยแต่มีส่วนกับเรื่องราวมากครับ และก็ Schnapp ในบทวิล เด็กชายผู้หายตัวไป แหม… มา Episode แรกเล่นไปไม่ถึง 10 นาทีก็ Gone Boy (ไปซะแล้วไอ้หนู) เป็นที่เรียบร้อย(ฮา)

ในส่วนของทางด้านภาพจัดว่างามเลยครับ ดูไปก็คิดถึงพวกบรรยากาศยุค 80’s (อย่าดักแก่ผมนะ!) ถ้าสังเกตุดีๆ จะมี Easter Egg ของหนังสยองขวัญยุคเก่าๆ อยู่เยอะเลยครับ เช่นโปสเตอร์ The Evil Dead, วิทยุสื่อสารจากเรื่อง The Thing ของลุง Carpenter ฯลฯ และเรื่องนี้ลุง Carpenter ก็ลงทุนมาทำให้เลยนะครับ ฉะนั้นไม่แปลกที่ดูไปจะได้กลิ่นอายของหนังสยองขวัญยุคเก่าๆ ของลุงแก

 

รีวิว Stranger Things

 

Stranger Things ซีรีส์ไซไฟสยองขวัญที่ปล่อยให้ทั่วโลกได้ชมกันในภาคแรกเมื่อปี 2016 ซึ่งในภาคแรกของ Stranger Things โดยเรื่องเริ่มต้นเล่นผ่านเรื่องราวของ อิเลฟเวน (Eleven) รับบทโดย Millie Bobby Brown เด็กผู้หญิงที่ถูกทดลองจากห้องแล็บฮอว์กินส์ ซึ่งด้วยวิธีทดลองที่ทรมานต่าง ๆ ทำให้เธอตัดสินใจหนีออกมาจากแล็บจนไปเจอกับ ไมค์ (Mike) รับบทโดย Finn Wolfhard ซึ่งการเจอกันของพวกเรานำไปสู่เรื่องราวสุดแปลกประหลาดที่เต็มไปด้วยปริศนามากมายของเมืองฮอว์กินส์ และด้วยความซับซ้อนของเนื้อเรื่องที่ยากจะคาดเดาทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างติดไปกับการไขปริศนาของตัวละคร และความคาดเดาได้ยากจึงทำให้ไรท์เตอร์เองรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้ดู Stranger Things

ซึ่งความมีเสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้ที่ทำให้ไรท์เตอร์หลงรักก็คือ เหล่าตัวละคร Stranger Things นั่นเอง เพราะนอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและยากที่จะคาดเดาแล้ว ส่วนตัวไรท์เตอร์เองชอบและประทับใจในความหลากหลายของตัวละครทั้ง 3 ภาคอย่างมาก อย่างเช่นในภาคแรก Eleven เป็นตัวครเด็กผู้หญิงที่มีความน่าสนใจอย่างมาก ทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ที่หลากหลายได้ในคน ๆ เดียว อีกทั้งยังมีคาแรคเตอร์โดดเด่นจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยิ่งตอนที่น้องโกรธจนเลือดกำเดาไหลถือเป็นอีกหนึ่งภาพจำของ Eleven ไปเลย

 

 

ส่วนในช่วงภาค 2-3 ส่วนตัวไรท์เตอร์ชอบคาแรคเตอร์ของน้อง Max หรือ Sadie Sink ที่สุด ด้วยความซนปนเท่ของน้องทำให้การปรากฎตัวของ Max ถือเป็นการเพิ่มสีสันของเรื่องที่ดีมากๆ และที่ประทับใจสุดคือแฟชันของน้องเขาเลยค่ะโดยเฉพาะลุคเสื้อลายทางกับผมหยิกสีแดงคือมีเสน่ห์มากจนคนพากันแต่งตามไม่น้อยเลย และนอกจากตัวละครที่ไรท์เตอร์ชอบเป็นพิเศษอย่าง Eleven และ Max แล้ว ตัวละครอื่นๆ ไรท์เตอร์ก็รู้สึกผูกพันอยู่ไม่น้องทั้ง Mike, Will, Dustin, Lucas, Nancy หรือ Jonathan ล้วนเป็นความหลากหลายที่ลงตัวกันอย่างดี

 

 

และสุดท้ายนี้ที่เป็นความประทับของไรท์เตอร์ที่มีต่อ Stranger Things คือแสงสีของฉากต่างๆ ในซีรีส์นี้เรียกได้ว่ามีเสน่ห์สุดๆ ด้วยความที่ไรท์เตอร์ชอบความเก่าเป็นทุนเดิมการที่พื้นฐานของซีรีส์ Stranger Things อยู่ในช่วงยุค 1980 จึงทำให้ทั้งโทนสีข้าวของ เสื้อผ้าวิถีชีวิตของคนอเมริกันในยุคนั้นตรงกับความชอบของไรท์เตอร์แบบตรงเป้า ทำให้การดูซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยความชอบแบบไม่มีอะไรขัดหูขัดตาเลยแม้แต่นิดแถมยังช่วยกระตุ้นให้คนสนใจวิถีช่วงยุค 80 เพิ่มขึ้นด้วย อย่างทุกครั้งที่ Stranger Things ฉายภาคใหม่ข้าวของและแฟชั่นยุค 80 จะกลับมานิยมแบบสุดขีดในทุกครั้ง ดูหนังใหม่

 

Stranger Things

สำหรับตัวอย่างใหม่ของ Stranger Things SS4 มีหลายฉากมาก ๆ ที่ทำให้ตัวไรท์เตอร์เองรู้สึกตื่นเต้นและประหลาดใจอยู่ไม่น้อย อย่างแรกเลยคือสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นขึ้นกว่าภาคก่อน ๆ และแอบจะดูจริงจังขึ้นด้วย อีกทั้งยังมีความประหลาดที่ต่างไปจากภาคก่อนคือ Max ลอยได้ค่ะทุกคนหรือน้องจะมีพลังใหม่ อันนี้คือต้องไปลุ้นกันเองจริง ๆ แต่ก็เป็นปริศนาแรกที่ทำให้ไรท์เตอร์ตื่นเต้นจนอย่างมูฟไปวันที่ 27 พฤษภาคมตอนนี้เลย

 

 

แต่มากไปกว่านั้นคือน้อง Eleven บอกว่าไม่มีพลังแล้วแถมยังมีสัตว์ประหลาดตัวใหม่อีก อันนี้คือยิ่งกระตุ้นให้อยากดูเร็วขึ้นไปใหญ่เลย แต่ไม่ว่าทุกข้อที่เราสงสัยอยู่จะเป็นอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้นในฮอว์กินส์คงต้องตามไปดูกันต่อนะคะทุกคน ไรท์เตอร์มั่นใจมากว่าภาคนี้จะยิ่งใหญ่สมการรอคอยอย่างแน่นอน

เพิ่งปล่อยตัวอย่างล่าสุดของ ‘Stranger Things Season 2’ ออกมาก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเองครับ สำหรับซีรีส์เรือธงจากค่ายหนังมาแรงแซงโค้งอย่าง ‘Netflix (เน็ตฟลิกซ์)’  ที่แม้ว่าในบ้านเรานั้นซีรีส์เรื่องนี้อาจจะไม่ได้ดังตู้มต้ามติดหูติดตาคนทั่วไปซักเท่าไหร่นัก แต่ผมบอกได้เลยครับว่านี่คือซีรีส์ที่มีคนรอติดตามภาคต่อเยอะมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้

 

 

จริงๆ ผมเองก็เป็นคนนึงล่ะครับที่เคยเห็นโปสเตอร์จากหนังเรื่องนี้ผ่านหูผ่านมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้คิดจะหยิบมาดูเป็นจริงเป็นจังอะไร เพราะคิดว่าน่าจะเป็นหนังเด็กเจอเอเลี่ยนทั่วๆ ไปอย่างที่เราคุ้ยเคยกันอย่าง E.T (E.T. the Extra-Terrestrial , 1982) หรือ Super 8 (2011)  แต่อาการติดซีรีส์มันก็เหมือนติดโรคระบาดล่ะครับ ในเมื่อของเค้าดีขนาดนี้ ผมจึงทนแรงรบเร้าแกมขู่บังคับให้ไปดูจากเพื่อนที่เป็นคอซีรีส์เรื่องนี้ไม่ไหว จนสุดท้ายก็พากันติดงอมแงมไม่ได้หลับไม่ได้นอนจนได้ และถ้าเพื่อนๆอยากรู้จักซีรีส์เรื่องนี้เหมือนกันล่ะก็ ตามผมมาได้เลยครับ

 

 

โดยซีรีส์เรื่องนี้จะเล่าถึงยุค 1980 ที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในรัฐอินเดียน่าได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้น เมื่อเด็กชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ‘วิล บายเยอร์’ ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ จนทำให้แม่และพี่ชายของเขาต้องออกตามหากันให้วุ่น แต่ไม่ว่าจะตามหาอย่างไรก็ดูเหมือนว่าวิลจะไม่ทิ้งร่องรอยอะไว้เลย ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและทุกคนในเมืองต้องช่วยกันออกตามหา ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง แก๊งเพื่อนๆ ของวิลอีก3คน ก็ได้พบกับเด็กหญิงลึกลับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติที่จะมาช่วยพวกเค้าหาทั้งวิลและทั้งคำตอบว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเมืองนี้กันแน่ !! ดูหนังฟรี