รีวิว The Equalizer 2

 

 

หนังใหม่ วันนี้เพึ่งมีโอกาสได้ดูหนังอย่าง The Equalizer มัจจุราชไร้เงา หนังแอ็คชั่นที่เคยฉายไปแล้วในปี 2014 ครับ โดยเอาซีรี่ส์ชื่อเดียวกันในยุค 80 มาทำใหม่ครับ ของผู้กำกับ อองตวน ฟูคัว และได้นักแสดงอย่าง เดนเซล วอชิงตัน  ,โคลอี มอเรตซ์, มาร์ตัน โชแคส มาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ครับ

The Equalizer มัจจุราชไร้เงา เป็นเรื่องราวของชายวัยกลางคนอย่าง โรเบิร์ด (รับบทโดย เดนเซล วอชิงตัน) เขาทำงานในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และมีนิสัยแปลกๆก็คือชอบรักษาความเป็นระเบียบทุกอย่าง จนเขาได้มาพบกับ โสเภณีสาว (รับบทโดย โคลอี มอเรตซ์) ที่พยายามจะหยุดเรื่องราวเหล่านี้และไปเป็นนักร้อง จนเธอนั้นถูกทำร้ายร่างกายจาก เจ้าพ่อมาเฟีย และด้วยความที่โรเบิร์ดนั้นชอบช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้ว เขาจึงตั้งตัวเองเป็นศาลเตี้ยไล่ล่าพวกแก๊งมาเฟียสุดโหด

 

รีวิว The Equalizer 2

 

The Equalizer มัจจุราชไร้เงา แอ็คชั่นคือดีมาก ที่แบบมาคนเดียวเสียวทั้งแก๊งคล้ายกับ จอห์น วิค การเล่าเรื่องค่อนข้างเรียบง่าย แต่น่าติดตาม บวกกับฉากแอ็คชั่นมันส์ๆ คือดูเพลินเอาเรื่องเลยล่ะ ถึงการเล่าเรื่องจะเรียบง่าย แต่ไม่เสียอารมณ์แน่นอนเพราะหนังใส่ความแอ็คชั่นมาแบบจัดเต็ม และก็ไม่ได้ยัดเยียดคนดูจนเกินไป แถมได้ฉายแบบเรท R เราจึงจะได้เห็นฉากยิงกันเลือดกระเซ็นแน่นอนครับในหนังเรื่องนี้ และสิ่งที่จะไม่ชมไม่ได้ก็คือด้านนักแสดงครับ ทั้ง เดนเซล วอชิงตัน  ,โคลอี มอเรตซ์ และ มาร์ตัน โชแคส แสดงได้เยี่ยมครับ ส่วนน้องโคลอี ก็น่ารักไม่เปลี่ยนแปลงเลย แนะนำเลยครับสำหรับคอหนังแอ็คชั่น เรื่องนี้ไม่ควรพลาด

 

รีวิว The Equalizer 2

 

เรื่องย่อขอเล่า

ในภาคนี้ “โรเบิร์ต แม็คคอล” อดีตทหารที่เก่งกาจคนหนึ่ง ก็ยังคงทำหน้าที่ในการดูแลบ้านเมืองในแบบฉบับของตัวเอง ซึ่งนั่นก็คือ “ศาลเตี้ย” ซึ่งแม็คคอล ก็คอยช่วยเหลือเหยื่อหรือผู้ที่โดนกระทำไม่ดีมาอยู่ตลอด แต่คราวนี้เคราะห์กรรมดันไปตกที่เพื่อนรักของเขา นั้นก็คือ “ซูซาน” หน่วย CIA ที่กำลังจะเกษียณจากตำแหน่งหน้าที่ แต่ก็ได้รับภารกิจสุดท้ายก่อนที่จะเกษียณ ซึ่งก็ต้องมาตาย เพราะซูซานกำลังจะไขคดีได้! และผู้ที่ฆ่าซูซานก็คือเพื่อนเก่าแม็คคอล ซึ่งทำงานทีมเดียวกันกับซูซาน

12เมื่อแม็คคอลรู้เรื่องแล้วว่าเพื่อนสนิทที่เขารักมากที่สุด โดนฆ่าตายอย่างทารุณ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่า จึงทำให้เขานั้นต้องออกตามล่าหาผู้ร้ายที่ได้ทำกับเพื่อนของเขา เพื่อแก้แค้นให้อย่างสาสม!

 

รีวิว The Equalizer 2

 

ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์

1.สถานะทางการเงินที่แตกต่างกันนั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะทำอะไรก็ได้! ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่มักจะมีความคิดที่ผิด ๆ เกี่ยวกับเงิน เพราะคิดว่าถ้าเรามีเงิน เราสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ แม้กระทั่งทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย ซึ่งความเป็นจริงไม่ได้ค่ะ! ต่อให้รวยหรือจนก็ไม่มีสิทธิ์!

2.จงแสดงความรักให้กับคนรอบข้างของเรา ไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว คนรัก หรือเพื่อนสนิท เพราะเราไม่รู้ว่าเขาจะอยู่กับเราไปได้อีกนานแค่ไหน หรือเราเองมากกว่าที่จะอยู่ได้นานแค่ไหน ดังนั้นการแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใย นั้นไม่ใช่เป็นสิ่งที่น่าอาย เพราะสิ่งที่น่าอายที่สุดก็คือการไม่ได้ทำแล้วมาร้องไห้ทีหลัง

 

 

3.”ถ้าคนที่เรารักตาย เราก็ควรที่จะอยู่ให้ได้” การตายเป็นเรื่องปกติของชีวิต หากเราจะต้องเสียใครไปในชีวิต สิ่งหนึ่งที่เราควรจะทำให้ได้และทำให้ดีที่สุดก็คือ การเรียนรู้ที่จะต้องอยู่คนเดียวและต้องเข้มแข็งให้ได้ เพราะถ้าเราอ่อนแอหรือชีวิตของเราพังลง แล้วคนที่ตายไปแล้วนั้นเขารับรู้ ก็ลองคิดว่าดูว่าเขาจะเป็นสุขไหม ดูหนังออนไลน์

4.อย่าไปยุ่งกับสิ่งที่ผิดกฎหมาย ในปัจจุบันมีวัยรุ่นมากมายที่หลงผิดกับสิ่งพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็น สุรา การพนันออนไลน์ หรือ ยาเสพติดทุกชนิด ซึ่งพวกเขามองว่าสิ่งที่เขาทำนั้นทำด้วยเงินตัวเอง ไม่ได้เดือดร้อนใคร แต่ในความเป็นจริงคนที่รับผลเสียที่ตามมาก็คือ พ่อและแม่ของพวกเขาเองทั้งนั้น ไม่ใช่เพราะพวกเขาที่บอกว่าสิ่งเหล่านี้นั้นดีและถูกต้อง

5.การมีความหวังในชีวิต สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ขาดกันมากที่สุดในการดำเนินชีวิตก็คือ ความหวังที่ถูกต้อง ถามว่าอะไรคือความหวังที่ถูกต้อง? ก็คนส่วนใหญ่จะนำความหวังไปทิ้งไว้กับหวย หรือ การพนันต่าง ๆ ซึ่งความหวังนั้นมันควรที่จะมีค่าและมีประโยชน์กับชีวิตมากกว่าหวยใบหนึ่งในราคา 80 บาท

 

 

ความรู้สึกของผู้เขียน : ในภาคนี้ยอมรับว่าการแสดงนั้นยังคงดีเหมือนเดิม ทำให้รู้สึกเหมือนดูหนังม้วนเดียวกันอยู่ ถึงแม้ว่าจะเว้นระยะการถ่ายทำมา 4 ปีแล้วก็ตาม ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นถือว่าดำเนินไปได้ดี มีการเฉลยตัวร้ายให้เห็นตั้งแต่ต้นเรื่อง ซึ่งเนื้อเรื่องกำลังจะชักจูงเราให้เข้าไปสู่ความรู้สึกเดียวกับตัวละคร นั่นก็คือ “การแก้แค้น” ในส่วนของฉากบู๊ก็ยังคงมันเหมือนเดิมด้วยเอกลักษณ์ที่ใช้ของแหลมคมมากกว่าปืน นั่นก็คือมีดนั่นเอง

เรื่องย่อหนัง ‘The Equalizer 2’

จากคุณลุงร้านวัสดุก่อสร้าง ที่ถูกเรื่องราวอันธพาลและจิตใจที่ใฝ่ดีของตัวเอง พัดพาให้ต้องดึงอดีตกลับมา กลายเป็นมือสังหารระดับพระกาฬ จนต้องเลิกอาชีพเก่า หันไปทำอาชีพใหม่ในเมืองใหม่ กลายเป็นคนขับแท็กซี่ แต่ลุงโรเบิร์ต แมคคอลล์ (Denzel Washington) ก็ยังคงรับงานอยู่เรื่อยมาอีกทั้งยังคงเป็นคนเจ้าระเบียบ และยังคงหาหนังสือ 100 เล่มที่เมียผู้ล่วงลับชอบอ่านอยู่เช่นเคย แต่เหมือนว่า งานใหม่งานใหญ่กำลังก้าวเท้าเข้ามาหาลุงอีกครั้ง

 

 

เมื่อซูซาน (Melissa Leo) เพื่อนแท้คนเดียวของลุงที่เหลืออยู่ถูกฆ่าตาย จุดหมายของลุงก็กลับมาแจ่มชัดอีกครั้ง เขาต้องหาให้ได้ว่าใครกันที่ฆ่า และทำมันไปทำไม ล้างแค้นในคนที่ลุงรักให้สำเร็จ

รีวิวหนัง ‘มัจจุราชไร้เงา 2’ หนังภาคต่อเรื่องนี้ มีความพยายามในการเดินตามรอยภาคแรกอยู่พอสมควร ด้วยวิธีการผูกเรื่องที่ค่อนข้างใกล้เคียงกันอยู่ แม้ว่าลุงโรเบิร์ตของเราจะไม่ได้ทำงานที่ร้านขายอุปกรณ์ตกแต่งบ้านเหมือนเคยแล้ว ทำให้ฉากอันน่าจดจำของการฆ่าในร้านแบบสโลว์โมชั่นจะไม่มีให้เห็นอีกในภาคนี้แต่ก็มีฉากไคลแมกซ์อันใหม่ให้ได้จดจำกันทดแทนได้อยู่

ภาคนี้เหมือนผู้ชมจะได้ไปเที่ยวท่องหลายเมืองหลายมุมของโลก เพราะเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในหลายที มุมมองภาพดีๆ ยังพอดีมีอยู่ แต่อาจจะไม่ว้าวบ่อยนักเท่ากับภาคแรกวันนี้ ลุงกลายเป็นคนขับแท็กซี่รับส่งคนไปด้วย อ่านหนังสือไปด้วย ในที่สุด 100 เล่มก็สำเร็จแล้ว แต่ผลจากการที่ลุงไปช่วยคนก็ทำให้ลุงได้พบกับบางเรื่องที่ย้อนกลับมาให้ลุงต้องวุ่นอีกครั้ง

ยังคงมีตัวละครที่ทำตัวแบดๆ แต่ลุงยังเชื่อมั่นในความดีและพยายามจะช่วยพยุงจิตใจให้กลับมาใฝ่ดีอีกครั้ง กับตัวละครที่เป็นเหมือนเพื่อนตายของตัวที่กำลังถูกคุกคาม จนในที่สุดต้องกลับไปล้างแค้น

หนังยังเล่นความเป็นลุงเหมือนเดิม แต่ไม่ต้องทำให้สงสัยแล้วว่าลุงเป็นใครมาจากไหน เพราะคนที่ตามมาตั้งแต่ภาคแรกคงรู้ไปหมดแล้ว ลุงยังคงมีนิสัยจัดอย่างเข้าเป็นระเบียบ มองเห็นฉากการต่อสู้ทะลุปรุโปร่ง จับเวลาเหมือนเคย และใช้ทุกอย่างเป็นอาวุธได้หมด ที่สำคัญ คือ ลุงยังคงเป็นนักฆ่าที่แสนฉลาด และยังคงโหดดิบอยู่เช่นเคย หนังฟรี

 

The Equalizer 2

การเดินทางตามรอยเดิมๆ อาจทำให้หนังดูมีภาพจำที่ชัดเจน แต่อาจจะทำให้หนังไม่มีความใหม่ โดด หรือชัดแจ่มได้เพียงพอ

ฉากที่นับว่าสนใจในภาคนี้ก็คงจะเป็นฉากไคลแมกซ์ที่ไม่สู้ในที่สุด แต่หันมาใช้โลเกชั่นนอกบ้าน แต่อยู่ท่ามกลางพายุฝนกระหน่ำแรงมาเป็นฉาก ซึ่งนับว่าลุ้นได้สนุกอยู่ ไม่เลวเลย ปิดท้าย เหมือนจะได้เห็นการเดินที่สิ้นสุดลงของลุง เหมือนคำตอบที่ลุงตามหามาตลอดนั้น ลุงได้ค้นพบแล้ว แต่ใครจะรู้ มันอาจจะมีภาคต่ออีกก็เป็นได้

หนังภาคต่อ ที่เว้นช่วงห่างจากภาคแรกถึง 4 ปี และเป็นหนังภาคต่อเรื่องแรกของเดนเซล วอชิงตัน และเรื่องแรกของผู้กำกับอังตวน ฟุควา เช่นกัน , น่าแปลกที่ว่าหนังภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำรายได้ไป 192 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 55 ล้านเหรียญ มีการพูดคุยถึงโปรเจ็คต์ภาคต่อหลังหนังภาคแรกออกฉายได้ 7 เดือน แต่ก็เงียบหายไปจนกระทั่ง 4 ปีต่อมานี่

 

 

ผู้กำกับอังตวน ฟุควา และ เดนเซล วอชิงตัน

รอบนี้โรเบิร์ต แม็คคอล ยังคงใช้ความสามารถของอดีตมือสังหารCIA มาทำหน้าที่ศาลเตี้ย ช่วยผู้คนเคราะห์ร้ายภายใต้ฉากหน้าคนขับอูเบอร์แท็กซี่ หนังปูวีรกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่โรเบิร์ตได้ช่วยผู้คน ก่อนที่จะเข้าหัวใจหลักของเรื่องเมื่อ ซูซาน เพื่อนเก่ากลับมาเยี่ยมโรเบิร์ต เธอเป็นเพื่อนหญิงคนสนิทของโรเบิร์ตที่เคยร่วมงานกันตอนอยู่ CIA แล้วไม่นานจากนั้นซูซานก็โดนสังหารโหดในที่พักหลังตามสืบคดีสายลับCIAโดนฆ่าปิดปากในเบลเยี่ยม ทำให้โรเบิร์ต แม็คคอล ต้องตามหามือสังหารเพื่อแก้แค้นให้เพื่อนสนิท

บทภาพยนตร์เป็นฝีมือของริชาร์ด เวงค์ มือเก่าที่เขียน The Equalizer ภาคแรก และ Magnificent 7 เวอร์ชั่นเดนเซล วอชิงตันนี่ล่ะ บทของริชาร์ด ปูความมาได้ดี ไม่อัดแอ็คชั่นมากเกิน แต่มาทุกครั้งก็รุนแรง โหด ดุ หนังปู 2 เหตุการณ์เดินหน้าขนานกันไป เรื่องคดีของซูซาน ที่โรเบิร์ต ตามสืบหาตัวคนร้าย และเรื่องไมลส์ วิทเธอเกอร์ เด็กวัยรุ่นผิวสีที่พักอยู่อพาร์ตเมนต์เดียวกับโรเบิร์ต และเขาคอยดูแลไม่ให้ไมลส์ไปพัวพันกับแก๊งค้ายา และทั้ง 2 ทางก็มาบรรจบกันในตอนท้าย ตัวร้ายในภาคนี้เดากันได้ไม่ยาก เพราะหน้าตาก็ส่อแววตัวร้ายมาตั้งแต่ต้นเรื่องล่ะ แต่หนังก็เจตนาเฉลยเสียตั้งแต่ค่อนเรื่อง เพื่อจะปูเข้าสู่ฉากแอ็คชั่นไคลแมกซ์ที่ลากกันยาวกว่า 30 นาทีท้ายเรื่อง

 

 

เดนเซล วอชิงตัน ในวัย 64 ปี ยังคงดูหนุ่มแน่นกว่าวัยมาก เล่นฉากต่อสู้ได้ทะมัดทะแมงและน่าเชื่อถือ แต่คงไม่ลากยาวไปถึง 70 หรอกมั้ง ถ้าจะมีภาค 3 น่าจะต้องรีบแล้วล่ะ ฉากต่อสู้แต่ละครั้งดูโหด เพราะโรเบิร์ตเป็นมือสังหารประเภทถนัดมีดมากกว่าปืน ตลอดเรื่องเขายิงคนร้ายไปแค่นัดเดียว นอกนั้นมือและมีดล้วน แล้วแทงแต่ละทีก็หวาดเสียวมาก ปาดคอ ปาดขา แทงคอ จิกลูกตา โอ้ย สงสารตัวร้ายเลย

แม้ The Equalizer จะเป็นหนังแอ็คชั่น แต่เดนเซล ก็ยังรักษามาดของนักแสดง 2 ออสการ์ ให้เห็น ด้วยการสื่อความรู้สึกทางสายตาแทนคำพูดอยู่บ่อยครั้ง กล้องก็โคลสอัปหน้าของโรเบิร์ตสื่อให้คนดูรู้สึกได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ โดยไม่ต้องเอ่ยปาก

ตัวร้ายในภาคนี้มีถึง 4 คน แล้วเปิดฉากแนะนำตัวมาแบบโหดมาก ยิงคนอย่างเลือดเย็น ตัวร้ายยิ่งโหดยิ่งเป็นการยกระดับอารมณ์ให้หนังเข้มข้นน่าติดตาม ดูเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกับโรเบิร์ต แม็คคอล และเมื่อทั้ง 4 ออกปฏิบัติการก็ได้อารมณ์ลุ้นระทึกแทนเหยื่อ เหมือนดูหนังตื่นเต้นสยองขวัญ หลังจากตัวร้ายเผยตัวหนังก็ใช้สถานการณ์รายรอบปลุกอารมณ์คนดูได้ดี ทั้งลมที่พัดรุนแรงในฉากหลัง ดนตรีประกอบที่เร่งเร้า และการเลือกสถานที่ประลองเป็นหมู่บ้านริมทะเลที่กำลังเผชิญพายุเข้าโจมตี ก็เป็นฉากหลังที่เหมาะกับฉากไคลแมกซ์ของเรื่อง ดูหนังฟรี