รีวิว The Whole Truth

 

 

‘The Whole Truth ปริศนารูหลอน’ เป็นภาพยนตร์ Netflix Original แนวดราม่า-ระทึกขวัญผลงานล่าสุดของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่บอกเล่าเรื่องราวของ พิม (รับบทโดย ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์) และ พัท (รับบทโดย แม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) สองพี่น้องที่ต้องย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับตา (รับบทโดย สมภพ เบญจาทิกุล) และยาย (รับบทโดย ทาริกา ธิดาทิตย์) ที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เพราะแม่ (รับบทโดย นิโคล เทริโอ) ประสบอุบัติเหตุนอนโคม่า แต่เมื่อย้ายเข้าไปในบ้านทั้งสองก็ได้พบกับรูหลอนปริศนา ที่เรียกพวกเขาไปพบกับความจริงบางอย่างที่ซ่อนไว้ หนังไทยใหม่

The Whole Truth เปิดเรื่องด้วยชีวิตประจำวันธรรมดาของเด็กนักเรียนสองคนและแม่ของเขา เล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ แวะจอดข้างทาง และพาคนดูหักเลี้ยวไปเรื่องที่ร้อยเรียงไปตามลำดับเมื่อความจริงหลังรูเล็กดำมืดค่อย ๆ เปิดเผยปริศนา ความลับดำมืดให้เห็น ดูแล้วอาจจะเหมือนภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์หักมุมทั่วไปหนึ่งเรื่อง แต่เมื่อเรามองให้ดีประเด็นสำคัญของการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ อาจจะไม่ได้อยู่ที่ว่ามันสนุกแค่ไหน แต่อยู่ที่มันกำลังสื่อสารอะไรกับเราผ่านสัญญลักษณ์ในเรื่อง และเมื่อเราได้ดู ภาพที่เราเห็นในจอจึงไม่ใช่แค่ตัวละคร บ้านหนึ่งหลัง และรูหนึ่งรู แต่ขยายใหญ่กว่านั้นขึ้นอยู่กับผู้ชมว่าจะตีความเห็นเป็นอะไร

 

รีวิว The Whole Truth

 

เรื่องย่อ: เมื่อรูลึกลับบนกำแพงของบ้านตากับยายปรากฏขึ้น พิมและพัทก็ได้พบความจริงสุดสะพรึงของครอบครัวที่ถูกเก็บซ่อนไว้มาเป็นเวลานาน

เป็นหนังไทยทางเน็ตฟลิกซ์ที่เปิดตัวได้อย่างน่าสนใจอีกเรื่อง เพียงแค่ว่าเป็นการกลับมาอีกครั้งของ วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยเป็นไอคอนหนังไทยในช่วงเวลาหนึ่งก็ถือว่าคุ้มค่าการรอชม เพราะช่วงหลัง ๆ แกห่างหายไปและไปทำงานบริหารอยู่ข้างหลังเสียมากกว่า โดยนาน ๆ ทีจะมีหนังมาให้ชมกัน และเราในฐานะแฟนหนังของแกตั้งแต่ ‘ฟ้าทะลายโจร’ (2540) และชอบมากในช่วง ‘หมานคร’ (2547) กับ ‘เปนชู้กับผี’ (2549) ก็ยังคงเฝ้าติดตามและลุ้นให้แกกลับมาคืนฟอร์มอยู่เสมอ ยิ่งเป็นโปรเจกต์กับทางเน็ตฟลิกซ์ก็ยิ่งน่าสนใจว่าวิศิษฏ์จะช่วยกู้ศรัทธาคอหนังไทยในเน็ตฟลิกซ์ที่ตกต่ำลงได้ด้วยหรือไม่

 

รีวิว The Whole Truth

 

จริงแล้ววิศิษฏ์ ศาสนเที่ยงเป็นอีกผู้กำกับที่เขียนบทเองและเขียนบทได้ดี เรียกว่าแกเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งและเข้าใจตลาดอีกคนหนึ่ง เพราะงานที่แกเขียนบทให้คนอื่นกำกับก็ถือว่าสร้างมาตรฐานในวงการหนังยุคหนึ่งเช่นกัน และแม้แต่ในกรณีที่แกกำกับหนังจากบทของคนอื่นในเรื่อง ‘เปนชู้กับผี’ ก็ยังเห็นการกำหนดทิศทางหนังที่เก่งทีเดียว ดูหนังออนไลน์

มาในเรื่องนี้บทหนังเป็นฝีมือของ อภิเษก จิรธเนศวงศ์ ซึ่งเท่าที่ทราบคือไม่มีผลงานหนังยาวก่อนหน้าให้พอเห็นฝีไม้ลายมือเลย และอาจเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้หนังมีผู้ร่วมเขียนบทหลายคนรวมถึงตัวผู้กำกับอย่างวิศิษฏ์ที่ต้องลงมาร่วมเขียนบทด้วย ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นลักษณะทีมเขียนบทแต่แรก หรือการเข้ามาแก้ไขบทในภายหลังเพื่อแก้ปัญหา เพราะสิ่งที่เห็นได้ชัดของหนังคือปัญหาของบท ที่ตั้งใจเป็นหนังสยองขวัญขายไอเดียและพยายามหลอกผู้ชมด้วยการหักมุมไปมา แล้วทำให้คนดูตกตะลึงกับความจริงหลังสุด แต่กลับกลายเป็นว่าไปไม่ถึงฝั่งฝันสักด้าน

 

รีวิว The Whole Truth

ธีมของเรื่องหนังของวิศิษฏ์ในยุคหลังมีความจิกกัดสังคม และในเรื่องนี้ก็ว่าด้วยความจริงอาจมีหลายชั้น เปลี่ยนไปตามวัยของผู้มอง และบางทีความจริงที่แท้ก็โป้ปดหลอกลวงและปรากฏแก่หน้าเรามาแต่แรกเพียงแต่เราไม่ได้สนใจจะมองเห็นมัน ซึ่งสาระนี้มีนัยของการวิพากษ์วิจารณ์สังคมไทยในบางแง่มุมอยู่ และใครที่ชอบค้นชอบคุ้ยคิดวิเคราะห์สัญญะในหนังน่าจะชื่นชอบเป็นพิเศษ ค่อนข้างมีความคล้ายคลึงงานก่อนหน้าของวิศิษฏ์อย่าง ‘สิงสู่’ (2561) ที่ซ่อนข้อความแรง ๆ อยู่ไม่น้อย

ฟังดูหนัง ‘ปริศนารูหลอน’ มีทรงหนังที่ดูดีไม่น้อย ทว่าสิ่งที่เหมือนกับหนังเรื่องก่อนอย่าง ‘สิงสู่’ ดันไม่ใช่เพียงแต่ความคมคายที่ซ่อนไว้ แต่ยังเป็นปัญหาการเล่าเรื่องที่พูดง่าย ๆ คือทั้งสองเรื่องดูไม่สนุก ซึ่งเป็นจุดที่น่าแปลกใจในงานยุคหลังของวิศิษฏ์ที่มักเล่าเรื่องไม่ราบรื่นหรือสร้างอารมณ์ร่วมเท่าไรนัก การที่หนังมีทรงของหนังสยองขวัญที่มาพร้อมการหักมุม ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นความล้มเหลวทั้งเรื่องสยองขวัญและการหักมุมเอง การจะให้ไปถึงจุดคนคิดวิเคราะห์สัญญะที่ผู้สร้างต้องการโดยต้องทนทรมานกับความไม่บันเทิงของหนัง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับคนดูนัก

ความล้มเหลวในแง่หนังสยองขวัญนั้น จริงแล้วในช่วงการสร้างปมของเรื่องต้องยอมรับว่าน่าสนใจทีเดียว และเป็นทั้งหมดที่ตัวอย่างหนังนำมาใช้ทำให้ดูน่าสนใจด้วย ประกอบกับการแสดงของนักแสดงทั้งรุ่นเด็กรุ่นใหญ่ที่ถือว่าทำได้ดี โดยเฉพาะรุ่นใหญ่อย่าง สมภพ เบญจาทิกุล และทาริกา ธิดาทิตย์ ที่รับบทตากับยาย ที่สามารถส่งพลังการแสดงออกมาจนต้องหยุดตามองทุกครั้งได้อย่างดี ส่วน ปันปัน สุทัตตา อุดมศิลป์ เองในฐานะตัวเดินเรื่องหลัก ร่วมกับ แม็ค ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์ ในบทพิมและพัท หลานที่เพิ่งพบว่าแม่ตนเองประสบอุบัติเหตุโคม่าจนต้องมาอยู่อาศัยบ้านของตากับยายที่ไม่เคยได้พบมาก่อนในชีวิตและเพิ่งรู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ ประกอบกับงานออกแบบศิลป์และการกำกับภาพที่ดูน่าสนใจก็เพียงพอกับวัตถุดิบตั้งต้นให้หนังยอดเยี่ยมมากแล้ว

 

รีวิว The Whole Truth

 

ทว่าเมื่อหนังดำเนินไปจนรูบนผนังในเรื่องปรากฏตัวเป็นต้นไป หนังก็ลดระดับความขลังลงจากภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังรูที่ดูเป็นฉากประดิษฐ์เกินไป รวมถึงผีที่อยู่ในนั้นก็เป็นการแต่งหน้าที่ดูหลอกตาจนขาดความน่ากลัว พอประกอบกับซีจีที่หนังพยายามยัดเยียดใช้โดยไม่จำเป็นซึ่งก็ไม่ได้ทำได้ดีนัก เพราะเอาเข้าจริงการใช้เทคนิคพิเศษแบบไม่พึ่งซีจีอาจดูน่ากลัวกว่าเสียด้วย ทำให้หนังลดระดับจากหนังสยองมีรสนิยมในช่วงแรกกลายเป็นละครเย็นหลังข่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกขณะอย่างน่าเสียดาย

ความล้มเหลวในด้านการเป็นหนังหักมุม ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่หนังดูไม่สนุกเพราะถึงฉากสยองจะไม่น่ากลัว แต่หากปริศนาตามชื่อเรื่องมันน่าสนใจก็ยังดึงคนดูให้ดูจนจบได้และบางทีอาจชอบหนังอยู่ไม่น้อย ทว่าหนังกลับเล่นกับปริศนาได้น่าผิดหวังเช่นกัน คำว่ารูหลอนที่พยายามเล่นคำกับทฤษฎีรูหนอนก็ถูกเอามาอ้างแบบขอไปทีจนรู้สึกน่าเสียดาย การให้ดูเหตุการณ์เพื่อหลอกความเข้าใจของคนดูต่อความจริงบางอย่างในครอบครัวของตัวละครก็เป็นอะไรที่เดาได้ไม่ยาก ถึงขนาดว่าครึ่งเรื่องเราก็แทบรู้แล้ว และมันน่าหงุดหงิดที่หนังตั้งใจทำให้ตัวละครดูคิดไม่ออก เหมือนว่าความลับนั้นยังดำมืดอยู่ทั้งที่ความน่าสนใจความอยากรู้ต่าง ๆ สำหรับคนดูมันเหือดหายไม่เหลือแล้ว

และเมื่อมาถึงการเฉลยทุกอย่างจนหมดสิ้น มันก็ไม่ได้อัดหมัดหนักใส่คนดูได้อย่างที่คิด การแสดงของคนร้ายตัวจริงในช่วงหลังก็ออกแบบเสียจนกลายเป็นละครโทรทัศน์ขาดความเป็นหนังไปหมดแล้ว และว่ากันตามตรงเอาที่ตัวหนังอย่างเดียวไม่นับพวกระหว่างบรรทัดของหนังมันก็แทบไม่ได้เหลืออะไรทิ้งค้างคาไว้ในหัวเราเท่าไรเลย ทั้งที่จริงสาระต่าง ๆ ที่เป็นไอเดียสร้างหนังมานั้นมันดีมากทีเดียว เป็นอีกงานที่น่าเห็นใจนักแสดงและทีมงานสร้างที่พยายามแล้วก็คงแก้อะไรกับการเล่าเรื่องที่ไม่สนุกและไม่น่าเชื่อถือนี้ได้

 

 

มาถึงคิวออริจินัลหนังไทยเรื่องล่าสุดที่ได้ออกไปสู่สายต่อชาวโลก “The Whole Truth” (ปริศนารูหลอน) หนังระทึกขวัญซ่อนเงื่อน ผลงานการกำกับและเขียนบทของ “วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง” ที่ยังคงหยิบเอาสไตล์และลายเซ็นแนวทางการสร้างหนังหลอนๆ ของเขาเองงัดมาใช้ได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์หนังที่ดูน่าสนใจไม่เบา เพียงแต่ว่าภาพรวมนั้นยังห่างไกลจากคำว่ามาสเตอร์พีชอยู่ดี ดูหนัง

The Whole Truth ปริศนารูหลอน เล่าเรื่องราวของ 2 พี่น้อง พิม กับ พัท ที่ต้องจำใจไปอยู่กับตาและยายของพวกเขาชั่วคราว หลังจากที่แม่ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้รับบาดเจ็บอาการโคม่า ทั้งสองรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะแม่ไม่เคยเล่าเรื่องตากับยายให้พวกเขาได้รับรู้มาก่อน และการย้ายเข้าไปพักอยู่ที่บ้านเก่าๆ ของคนชรานั้น ทำให้พวกเขาได้พบกับ “รู” ที่ปรากฏขึ้นอยู่ฝากำแพงบ้าน และเมื่อมองส่องเข้าไปก็ได้พบกับเรื่องสุดสยอง

 

 

ก่อนอื่นต้องยอมรับเลยว่า The Whole Truth มีไอเดียและคอนเซ็ปต์ที่ชวนน่าติดตามมากๆ เลยทีเดียว การใช้ปริศนาของรูที่ปรากฏขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจมาเป็นส่วนเชื่อมโยงเรื่องราวทั้งหมด เป็นกิมมิกที่ค่อนข้างทำให้ผู้ชมใคร่ที่จะสืบรู้พิสูจน์ให้ชัดว่าเบื้องหลังรูนั้นคืออะไรกันแน่ เพียงแต่ว่าตัวหนังยังคงมีปัญหาขาดแรงจูงใจในการเสริมอรรถรสได้ดีเพียงพอที่จะออกมาได้ดีในทุกองค์ประกอบ

วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ถือว่าเขียนบทหนังของ The Whole Truth ออกมาได้ไม่แย่แต่ก็ยังไม่ได้สมบูรณ์แบบเสียทีเดียว บทหนังของเรื่องนี้ค่อนข้างมิติซับซ้อนที่วางเอาไว้บนพื้นฐานง่ายๆ ของอารมณ์นึกคิดของตัวละคร ดังนั้นจึงทำให้องค์ประกอบการแสดงและการถ่ายทอดเรื่องนี้เป็นไฮไลต์เด่นที่จะพาหนังไปสู่ปลายทางที่คาดไว้ จึงไม่แปลกใจที่ได้ทำการแคสติ้งนักแสดงตัวใหญ่ๆ ออกมาได้อย่างน่าสนใจขนาดนี้

 

 

แต่ลำดับการเล่าเรื่องและบรรยากาศของหนังยังคงทำได้ในระดับกลางๆ ที่ยังดูไปสุดมากกว่านี้ได้อีก หนังมีการปูเรื่องราวเอาไว้หลายประเด็นที่น่าสนใจ แต่สุดท้ายก็มัวแต่ยุ่งเหยิงอยู่กับแกนเดียวที่เพียงแค่แกนนี้ก็ถือว่าเกือบจะพาหนังไปไม่รอดเสียแล้ว คอนเซ็ปต์ดีที่ของหนังถูกนำมาถ่ายทอดในแบบที่ค่อนข้างคลีเช่ทั่วไป อยากจะให้ดูระทึกและหฤหรรษ์ตามไปด้วยแต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ถึงใจอีกอยู่ดี

The Whole Truth จึงออกมาเป็นเพียงหนังระทึกที่มีแนวเนื้อเรื่องซ้ำๆ ซากๆ พยายามที่หักเหตรงนั้นตรงนี้ แต่ยังทำได้ไม่ถึงจุดที่จะชวนให้ผู้ชมรู้สึกว้าวกับการคลี่คลายในแต่ละประเด็น เพราะโทนเรื่องที่ไม่ได้ชวนน่าตื่นเต้นอะไรขนาดนั้น กับภูมิหลังของครอบครัวที่คนดูน่าจะเดาทางกันได้ตั้งแต่เริ่มต้นว่าตระกูลน่าจะมีความไม่ชอบมาพากลและความลับปกปิดเอาไว้อยู่แน่ๆ จึงทำให้การเฉลยปมต่างๆ ยังไม่ได้น่าตื่นเต้นขนาดนั้น

แต่จุดสตรองของหนังก็แน่นอนว่าต้องเป็นทีมนักแสดง “ปันปัน สุทัตตา” กับ “แม็ค ณัฐพัชร์” ถือว่าเป็นตัวยืนเรื่อง ที่บอกตามตรงว่าพวกเขาก็เกือบจะเอาหนังทั้งเรื่องไว้ไม่อยู่เช่นเดียวกัน ต้องมาได้ความเป็นมืออาชีพของรุ่นใหญ่ “ก้อย ทาริกา” กับ “หมู สมภพ” มาช่วยซัพพอร์ต จึงทำให้ทั้งหมดต่างช่วยกันประคองหนังเรื่องนี้ไปตลอดรอดฝั่งได้สำเร็จ แม้ว่าทิศทางการแสดงของพวกเขาจะไม่ได้ชวนตื่นตาอะไรก็ตาม แต่ก็ทำได้ดีตามมาตรฐานของพวกเขา

เอาเป็นว่า The Whole Truth ปริศนารูหลอน เป็นหนังที่พยายามจะฉีกแนวออกมาในมุมมองที่ไม่ค่อยได้เห็นในหมู่หนังไทยสักเท่าไหร่ แต่ความพยายามนี้ถือว่ายังไม่ประสบสำเร็จเปี่ยมเลี่ยม เป็นความครึ่งๆ กลางๆ ที่ไม่ได้แย่แต่ก็ยังไม่ได้ดีเท่าที่ควร หนังที่สามารถดูได้สนุกเพลินๆ ตามการเล่าเรื่องแบบพยายามชวนให้ระทึก แต่หากว่าใครชอบหนังแนวสืบหาปมปริศนาความจริงก็น่าจะชอบเรื่องนี้พอได้อยู่ ดูหนังออนไลน์

 

The Whole Truth

ปริศนารูหลอน บอกเล่าเรื่องราวของสองพี่น้อง พิม พัท (รับบทบาทนี้โดย ปันปัน-สุทัตตา อุดมศิลป์ และแม็ค-ณัฐพัชร์ นิมจิรวัฒน์) ที่จำเป็นต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านคุณตา (สมภพ เบญจาธิกุล) และคุณยาย (ทาริกา ธิดาทิพย์) เป็นการชั่วคราว หลังจากที่แม่ของทั้งสองประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนอาการสาหัสโคม่า นอนไม่รู้สึกตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ระหว่างที่อยู่ในบ้านของตายาย สองพี่น้องได้พบกับรูที่ผนัง เมื่อมองทะลุเข้าไปพวกเขาพบกับภาพเหตุการณ์อันน่าตกตะลึง ราวกับเป็นวิดีโอย้อนอดีต แต่ตายายกลับบอกว่าพวกเขาไม่เห็นรูใดๆที่ผนังเลยสักนิดเดียว!

เมื่อเราลองถอดรหัสสิ่งที่ปรากฏอยู่ในหนังเรื่องนี้แล้ว เราพอจะตีความจากบทสรุปทั้งหมดได้ว่า เรื่องราวโกลาหลทั้งหมดเกิดขึ้นจากความขัดแย้งของ Generation เราจะสามารถจำแนกแยกย่อยตัวละครในเรื่องออกเป็นหลายช่วงวัยได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นคุณตาคุณยายที่อยู่ในช่วงผู้สูงอายุ ซึ่งถ้าเราจะประเมินพวกเขาก็น่าจะอยู่ในเจนเนอเรชั่น Baby Boomer ที่เติบโตมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ยึดมั่นในหลักการของตัวเอง เราจะเห็นได้ชัดเลยว่าทุกครั้งที่คนรุ่นหลานอย่างพิม พัท พยายามจะชี้แจงหรือแสดงความเห็นของพวกเขาออกไป มักจะโดนขัดและตัดบทสนทนาในทันที

 

 

พิมและพัทเป็นตัวแทนของ “คนรุ่นใหม่” หรือเจนเนอเรชั่น Z ซึ่งเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ต สามารถรับข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อพวกเขามองเห็นสิ่งผิดปกติผ่าน “รู” ปริศนา พวกเขาจึงเริ่มตั้งคำถาม คิดวิเคราะห์ว่าตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นหลังกำแพงกันแน่

อย่างไรก็ตามเมื่อหนังเฉลยว่าสิ่งที่ตัวละครได้มองเห็นผ่าน “รู” ดังกล่าวอันเป็นร่องรอยของ “กระสุนปืน” ที่เคยคร่าชีวิตของพ่อแท้ๆของพิมและพัท รวมไปถึง พินยา อีกหนึ่งลูกสาวของแม่ (นิโคล เทริโอ) ที่โชคร้ายเกิดมาพร้อมกับความพิกลพิการจนไม่ได้รับการยอมรับจากยาย และกลายเป็นเหยื่อของการถูกวางยาเบื่อหนูลงในแก้วนม

รูที่ผนังห้องในเรื่องจึงกลายเป็นตัวแทนของการบอกเล่าความจริงในอดีตหรือปัญหาที่ถูกซุกซ่อนไว้จากการรับรู้ ไม่ว่าจะเป็นมโนสำนึกของตัวเอง หรือแม้กระทั่งความจริงตามประวัติศาสตร์ที่ถูกมองข้าม ละเลย และปกปิดเอาไว้ราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน การ “มองเห็น” ของพิมและพัท จึงเป็นเหมือนการหยิบเอาประวัติศาสตร์มาตั้งคำถามอีกครั้ง ว่าตกลงแล้วสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญนั้นเป็นเคราะห์กรรมของคนในเจนเนอเรชั่นรุ่นตายาย รวมไปถึงพ่อแม่ของพวกเธอที่สร้างสิ่งเหล่านี้เอาไว้หรือเปล่า

 

 

อย่างไรก็ตามที ดูเหมือนว่าบทสรุปทุกอย่างที่เราได้เห็นไม่ว่าจะเป็น “คนร้ายตัวจริง” ที่สุดท้ายแล้วก็ลอยตัวเหนือปัญหา เพียงเพราะ “ความรัก” จากอีกเจนเนอเรชั่นพยายามโอบอุ้มไม่ให้พวกเขาต้องรับกรรม แต่ท้ายสุดแล้ว “ความลับ” ที่พวกเขาเก็บซ่อนเอาไว้ ก็นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมที่นำไปสู่ความตายอยู่ดี

ความขัดแย้งทั้งหมดที่ปรากฏอยู่ในเรื่องจึงมีความ “รุนแรง” และน่ากลัวไม่ต่างอะไรจากการปรากฏตัวของผีพินยา ที่ยังคงตามหลอกหลอนคนที่เกี่ยวข้องทุกคนในฐานะ “ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์” ที่ไม่มีวันจะหายไปไหน แม้ว่าผู้ร้ายที่ฆ่าเธอจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังมีตัวตนในการรับรู้ของคนในครอบครัวนี้เช่นเดิ ดูหนัง