รีวิว young royals

 

 

หนังไทยใหม่ สวัสดีคะทุกคนคือเราเพิ่งดูซีรีส์วายเรื่อง young royals จบคืออยากจะบอกว่าแบบมันดีมากจนเราอยากมารีวิวให้ทุกคนได้ดูค่ะ

ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์วายของประเทศสวีเดนเนื้อเรื่องเกี่ยวกับเจ้าชายและคนสามัญชนคะซึ่งเรื่องย่อคร่าว ๆ ก็จะประมาณว่าเจ้าชาย(วิลเฮล์ม)ประเทศสวีเดนเป็นคนที่เกเรหรือเอาง่าย ๆ ชอบมีเรื่องเป็นประจำจนราชินีต้องให้เจ้าชายย้ายโรงเรียนไปเรียนโรงเรียนสามัญชนเพื่อปรับนิสัยนั้นแหละคะพอเข้าไปก็มีการรับน้องตามประสาแหละค่ะแต่ถึงจะบอกว่าเป็นโรงเรียนสามัญชนแต่มีการแบ่งชนชั้นกันทั้งนั้นแหละแต่เรื่องของเจ้าชายพอย้ายมาอยู่โรงเรียนสามัญชนแรก ๆ

ก็จะปรับตัวไม่ค่อยได้พอนาน ๆ ก็โอเคจนมาพบกับ(ไซม่อน)นักเรียนสามัญชนธรรมดาและเหมือนทั้งสองจะตกหลุมรักกันแต่ก็นั้นแหละเจ้าชายก็ยังคงเป็นเจ้าชายซึ่งการจะมารักกับสามัญชนแถมยังเป็นผู้ชายอีกก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะเอาเป็นว่าใครอยากรู้ว่าต่อจากนี้จะเป็นยังไงเจ้าชายจะเลือกอะไรระหว่างความรักกับตำแหน่งต้องไปตามหาดูแล้วนะคะมีในเน็ตฟิกแล้วด้วย

 

รีวิว young royals

 

ภาพบางส่วนจากซีรีย์

ความรู้สึกตอนดูก็ดีนะคะเนื้อเรื่องสนุกแถมเจ้าชายก็หล่อมากดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกเรียลมากเจ้าชายก็มีสิวนิด ๆ ทำให้เรารู้สึกว่าคนเราก็ไม่ได้เพอร์เฟคไปหมดทุกอย่างแม้กระทั่งเจ้าชายก็มีสิวได้เหมือนเค้าจะให้เห็นถึงความเท่าเทียมกันไม่ว่าเจ้าชายหรือคนธรรมดาทุกคนล้วนเท่าเทียมกันและเรื่องอื่น ๆ อย่างสีภาพก็ดีไปหมดอารมณ์เหมือนชีวิตมากกว่าแสดงรวม ๆ แล้วดีใครที่ชอบซีรีส์วายอยู่แล้วเรื่องนี้ก็ไม่ควรพลาดเลยนะคะส่วนใครที่อยากลองไปดูก็สามารถดูได้ทาง Netflix ได้เลยนะคะ

ภาพน่ารัก ๆ จากนักแสดงนำ

ความรู้สึกหลังดูจบเหมือนอารณ์ยังค้างอยู่อ่ะจบแบบเหมือนจะมีภาคต่อแต่ทางนักแสดงก็ออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่ามีซีซั่นสองต้องรอดูต่อไปอาจจะมาในปี2022 แต่สำหรับเราดูจบก็โอเคแล้วนะคะทั้งเนื้อเรื่องนักแสดงและข้อคิดจากเรื่องอยากให้ทุกคนลองไปดูกันคะสนุกมาก ส่วนตัวให้คะแนนซีรีส์เรื่องนี้9/10เพราะนักแสดงงานดีแล้วแต่ตอนจบไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่แต่รวม ๆ แล้วคือดีเลยค่ะ

 

รีวิว young royals

 

เมื่อข่าวฉาวของเจ้าชายวิลเฮล์ม รัชทายาทแห่งราชวงศ์สูงส่งหลุดรอดดังไปทั่วโลกโซเชี่ยล ด้วยอภิสิทธิ์ของความเป็นเจ้าชาย ครอบครัวราชวงศ์จึงส่งตัวเขาใหไปที่โรงเรียนประจำฮิลเลอร์สก้าร์ที่ ๆ ซึ่งคนมีหน้ามีตาเรียนอยู่ที่นั่น และเขาได้รู้จักกับ ออกัสตุส เพื่อนของพี่ชายที่คอยมาดูแลและพาเขาเข้าสู่โลกของอิสระที่ไร้ขีดจำกัดมากกว่าที่คาดการณ์ พร้อมทั้งเฟลิซ สาวผิวดำที่ใฝ่ฝันจะได้ครอบครองเจ้าชายเพื่อประคับประคองฐานะตัวเอง ซาร่า สาวสวยผู้ร่าเริงและเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์

หรือสมาธิสั้นที่มีความสามารถโดดเด่นในการควบคุมม้าในคอกของเฟลิซอีกที แต่เบื้องหลังโรงเรียนประจำที่ดูสวยหรูแต่จริง ๆ มีการเหยียดทางชนชั้น การรับน้องสุดหฤโหดผิดมนุษย์ ผลประโยชน์ระหว่างครูกับนักเรียน และการทำทุกอย่างเพื่ออยู่ในจุดที่สูงสุด ท่ามกลางความสับสนและวุ้นวายวิลเฮม์ได้พบกับความสัมพันธ์ที่ชวนให้ถลำลึกกับ ซีมอน เด็กหนุ่มผู้ยากไร้ พี่ชายของซาร่าที่ทำทุกอย่างเพื่อให้สามารถอยู่โรงเรียนนี้อย่างปกติสุด ความเห็นอกเห็นใจนำมาสู่ความรักระหว่างชายหนุ่มสองคน จนกระทั่งเหตุบางอย่างที่ผลักดันให้วิลเฮลม์ต้องเลือกว่าจะทำหน้าที่ตามราชวงศ์ต้องการ หรือความรักที่จริงแท้ของเด็กหนุ่มธรรมดาแบบไม่ต้องกังวลกับผลที่ตามมา

 

รีวิว young royals

เรื่องราวถูกเล่าแบบไม่เน้นฉูดฉาดเน้นให้เห็นสภาพของตัวละคร ความคิด และแรงจูงใจที่ทำให้ตัวละครทำสิ่งต่าง ๆ และมีผลกระทบเป็นวงกว้างชวนให้นึกถึงซีรีส์ GOSSIP GIRLS ซีรีส์อเมริกันที่พูดถึงความสัมพันธ์ของโรงเรียนประจำสุดไฮโซที่แสนซับซ้อน แต่นี่มาในแนวของความสัมพันธ์ที่มีเพศ LGBTQ+ มาเกี่ยวข้องยิ่งเพิ่มความยุ่งเหยิงในการเล่นประเด็นมากขึ้นอีก ซึ่งแม้ในชื่อเรื่องจะเหมือนให้ความสำคัญกับตัวเอก

แต่หนังยังแบ่งพาร์ทตัวละครให้เราได้รู้จักมากกว่านั้น และทำให้เห็นว่าคนในเรื่องสามารถทำได้ทุกอย่างแม้แต่การหักหลังกันเองเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมาย เล่นเอาตัวเอกเจ้าชายวิลเฮล์มแทบลมจับ เพราะนอกจากความสัมพันธ์กับซีมอนที่ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวามากกว่าครั้งไหน ๆ เขายังต้องเจอกับการทุจริตภายใน และความจริงอันดำมืดเกี่ยวกับคนรอบตัว แต่ก็แอบเสียดายที่โทนเรื่องมันออกมาในสไตล์ยุโรปจึงไม่ค่อยมีอะไรที่แปลกใหม่

 

รีวิว young royals

 

เรื่อย ๆ ช้า ๆ ให้ได้สัมผัสตัวละคร และประเด็นที่น่าเล่นอย่าง เจ้าชายจะรักกับสามัญชนคนธรรมดาได้จริงหรือ และการค้นห่าตัวเองเรื่องเพศสภาพกลับไม่มีแต่เป็นการเล่นกับความรู้สึกมากกว่าว่ารู้สึกยังไง หรือความตึงเครียดของการถูกจับตามองจากสื่อ ก็ถูกเล่าแบบไม่มากอย่างที่คาดหวัง เพราะกว่าจะมาก็ตอนท้าย ๆ แล้ว พ่วงมาด้วยวิธีการแก้ปัญหาแบบที่โคตรทรมานใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมจบแบบนี้ทั้งที่หนังอุตส่าห์ปูมาแล้ว กลายเป็นเราต้องรู้สึกอึดอัดตามตัวละครที่เหมือนไม่มีทางเลือกให้เดิน

จะทำอะไรก็ไม่สามารถทำได้เต็มที่ แถมเจอคนรอบตัวไม่จริงใจ แม้บทสรุปนั้นจะเหมือนมีซีซั่นต่อ แต่การจบเรื่องมันชวนให้หงุดหงิด เพราะปมที่จบลงไปแล้ว ก็มีปมใหม่เข้ามาอีกมากมาย จนแอบคิดว่า 6 ตอนนี่มันพอแล้วเหรอกับการเล่าเรื่อง หรืออาจจะเป็นการลองเชิงเพื่อให้ได้ทำต่อซีซั่น 2 ก็ได้ ผมก็ไม่รู้ แต่ผมผิดหวังเพราะตัวละครมีพัฒนาการมาถึงขีดสุดแล้ว แต่กลับเลือกที่จะหยุดซะแบบดื้อ ๆ ทำเอาผมที่ติดตามมาถึงขมวดคิ้วหลังดูจบเลย ทำไมมันจบแบบนี้อีกแล้ว

 

 

ความแปลกใหม่ของเรื่องคือการสะท้อนภาพของราชวงศ์ที่ต้องพยายามรักษาหน้า รักษาเกียรติ ไม่สามารถทำอะไรเพื่อตัวเองหรือใครได้เลย แม้แต่จะรักเพศเดียวกันซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับรัชทายาทที่จะต้องมีทายาทไว้สืบสกุล เหมือนที่ตัวละครวิลเฮลม์ที่ต้องวนเวียนอยู่กับหน้าที่ที่ตัวเองไม่อยากแบกรับ แต่จำใจต้องโอบรับมันอย่างเจ็บปวด ไม่สามารถแม้จะรักเพศเดียวกัน ต่อให้กรีดร้องจนแทบเป็นแทบตาย จนต้องใช้ยาเสพติด เหล้า เซ็กส์เผื่อหลบหนีจากความเป็นจริง

แต่สุดท้ายเขาก็หนีไม่พ้นหน้าที่แหละชีวิตของตัวเอง ออกัสตุส เพื่อนรุ่นพี่ที่ภาพลักษณ์ดูเป็นนักเรียนตัวอย่าง แต่แท้จริงแล้วเขานั้นแอบมีความลับมากมายกับคนรอบตัว จนสุดท้ายเมื่อเข้าตาจนเขาก็ทำสิ่งที่เลวร้ายเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการโดยไม่สนใจเลยว่าใครจะต้องเป็นยังไง ซีมอน เด็กหนุ่มผู้เป็นเกย์จากบ้านที่ยากจนที่ใช้ชีวิตรอบโรงเรียนและเป็นนักร้องในวงประสานเสียงที่มีเสียงไพเราะแต่กลับอาภัพเพราะครอบครัวแตกแยก พ่อของเขาเป็นคนขายยาเสพติด

 

 

น้องสาวอย่างซาร่านั้น ป่วยเป็นโรคเอสเพอร์เกอร์ที่ทำให้เธอมักโดนรังแกและเมินเฉยจาก เฟลิซ หญิงสาวผิวดำผู้ที่ปรารถนาจะได้รับความรักและเป็นคนที่เก่งอย่างที่ต้องคาดหวังจนไม่สนใจคนอื่น แต่ซาร่าก็ไม่เคยถือโทษโกรธและพยายามทุกวิถีทางที่จะได้เข้าไปในสังคมชนชั้นสูงของเฟลิซ และทำให้เธอเข้าไปพัวพันกับความลับของใครหลายคน ทุกคนล้วนมีความปรารถนาไม่มีสิ้นสุด แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับ มันคือความไม่สงบในชีวิตและทำได้แค่ปล่อยผ่านและคาดหวังให้ชีวิตดีขึ้นมากกว่านี้

ซีรีส์เรื่องนี้ใช้เวลามากกับตัวละครแต่ละตัวจนทำให้เราอิน เห็นใจ และโมโหในเวลาเดียวกันก็จริง แต่ในพาร์ทของความรัก และความสนุกสนานแบบวัยรุ่นนั้นก็มีในสไตล์ซีรีส์เน็ตฟลิกซ์ที่ทำเรื่องรักต้องห้ามออกมาได้อย่างละมุนละไมสัมผัสได้เลยว่าตัวเองทั้งสองรักกันจริงและทำให้เนื้อเรื่องเดินไปข้างหน้าได้ในเวลาเดียวกัน เราจะได้เห็นการปูความสัมพันธ์ระหว่างวิลเฮล์มกับซีมอนตั้งแต่เริ่มพบกัน ได้เห็นการเปิดใจ ได้เห็นความเข้าอกเข้าใจและความสับสนจนเกิดเป็นความรักและ ดูหนังออนไลน์

กลายเป็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาช่วยดับโทนเรื่องที่ค่อนข้างเต็มไปด้วยความดราม่าซึ่งทำให้เราเข้าใจความรักของคู่นี้ หรือโมเมนต์ความสัมพันธ์ของเพื่อนหญิงพลังหญิงของเฟลิซกับซาร่าที่ค่อย ๆ ทำความเข้าใจในความแตกต่างของอีกฝ่าย หลังจากที่ผ่านความขัดแย้งมาได้ และกลายเป็นมิตรภาพที่ไร้ผลประโยชน์และดูเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันระหว่างคนที่สูงส่งแต่บกพร่องด้านความสามารถ กับคนที่บกพร่องทางจิตแต่มีความสามารถ ดูจริงใจและน่ารักดี

 

 

และอีกฟากเทียบกับความสัมผัสของออกัสตุสที่ทั้งหมดทั้งมวลมีแต่ความทะเยอทะยานและความต้องการจะมีทุกอย่างโดยไม่ดูพละกำลังตัวเอง และใช้ความรักเพื่อเป็นสิ่งเยียวยาใจ แต่ทุกอย่างก็พังเพราะเขาก็ยังใช้อำนาจที่มีกดคนอื่นด้วยผลประโยชน์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะสามารถเห็นใจตัวละครนี้ได้ยังไงดี เพราะสิ่งที่เขากระทำนั้นยังน้อยไป ในส่วนพาร์ทดราม่าคือไม่มาก แต่ออกมาทีคืออยากทุบคอมทิ้งด้วยความขัดใจในปมที่ต้องมีอุปสรรคนานาเข้ามาขวางทางให้เรื่องง่าย ๆ เป็นเรื่องที่ยาก

แถมอย่างที่พูดไปก่อนหน้านี้ ดราม่ามันถูกลากยาวไปจนจบ ชีวิตของเจ้าชายที่ต้องเลือกระหว่างหน้าที่ หรือ ความรัก คำถามนี้คงตอบได้แล้ว แต่ถ้ามีซีซั่น 2 จริง ๆ บางทีมันอาจจะมีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ก็ได้ ในส่วนของมุมกล้องถือว่าทำออกมาในสไตล์กึ่งซีรีส์ยุโรปผสมกับสารคดีที่เน้นฉายภาพการใช้ชีวิตแบบติดดินไม่เน้นความสวยงาม แต่เหมือนพาเราสำรวจชีวิตของคนจริง ๆ

ในส่วนของนักแสดง ผมไม่รู้จักใครสักคนแต่พวกเขาเล่นกันได้เป็นธรรมชาติมาก โดยเฉพาะนักแสดงนำอย่าง Edvin Ryding ในบทเจ้าชายวิลเฮลม์ที่แม้หน้าตาจะดูนิ่ง แต่แท้จริงมันเป็นแค่หน้ากากของราชวงศ์ที่ทำให้เขาดูไม่มีหัวใจ เขาสามารถกะเทาะความเย็นชาออกมาเมื่อเวลาผ่านไป พอซีนอารมณ์หนัก ๆ เขาก็ทำได้ดีและทำให้เราอินและโมโหตาม ฉากสุนทรพจน์ที่เขาพูดคือใจสลายแทน Omar Rudberg ในบท ซีมอน เกย์หนุ่มผู้ที่ดิ้นรนใช้ชีวิต

 

young royals

เขาแสดงได้ดูน่ารัก น่าเอ็นดู และน่าถนุถนอมแต่พอเขาลุกขึ้นมาสู้เขาก็เล่นซะกลัวผู้ชายคนนี้ไปเลย แต่สุดท้ายก็ต้องกลับมาสงสารเมื่อเห็นน้ำตาของเขา Malte Gårdinger ในบท ออกัสตุส ชายหนุ่มผู้สมบูรณ์แบบและดูมีภูมิฐาน ที่ภาพจริง ๆ ของเขาไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย เขาแสดงให้เห็นหลากอารมณ์ทั้งร่าเริงก่อนจะไต่ระดับเป็นความหวาดกลัว ความอิจฉา ความริษยา จนเกลียดเข้าไส้เลยทีเดียว Frida Argento รับบท ซาร่า สาวแอสเพอร์เกอร์

สมาธิสั้น ผู้ที่ชอบทำอะไรล้น ๆ และพูดจาตรงไปตรงมา บางทีก็เข้าใจยาก การแสดงของเธอถือว่ากำลังพอดิบพอดี แสดงให้เห็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่ดูสดใส แต่พออารมณ์ฉุนเฉียวก็จะพลิกไปมาอย่างรวดเร็วจนเข้าสังคมยาก แถมยังต้องมาเจอเรื่องซับซ้อนในสังคมใหม่อีก เรียกได้ว่าน่าจะเป็นบทที่ยากพอสมควรเลย Nikita Uggla รับบท เฟลิซ สาวผิวดำที่มีปมในใจคือการถูกคาดหวังจากพ่อแม่ สีหน้าและแววตาที่เศร้าตลอดเวลาแม้จะยิ้ม

เธอได้แสดงให้เห็นมิติของตัวละครจากผู้หญิงที่ต้องการความรักให้สามารถยืดหยัดเพื่อช่วยเหลือตัวละครได้ และเธอก็ทำหน้าที่ได้ดีมากด้วย ๆ ทำให้ตัวละครเหล่านี้กลายเป็นนักแสดงชุดที่ถ้านึกถึงเรื่องนี้ ก็ต้องมีพวกเขาอยู่แน่นอน นอกจากนี้ยังมีเพลงประกอบสไตล์แซ่บ ๆ ดังขึ้นมาในฉากสำคัญช่วยเพิ่มความเผ็ดร้อนให้กับเรื่องราวด้วย หนังฟรี

 

 

สรุป Young Royals

ถือเป็นซีรีส์ที่ดราม่าโรแมนติกได้ใจเหลือเกินจนโมโห แต่ก็ยังดูได้เรื่อย ๆ ไม่ได้หวือหวา มีเนือยบ้างบางตอนเพราะให้ซึมซับตัวละคร พร้อมการแสดงที่เป็นธรรมชาติของนักแสดง ความยาว 6 ตอนอาจจะสั้นไปหน่อยเมื่อได้พบกับบทสรุปที่เหมือนเรื่องราวไม่ได้ไปไหน แต่ตัวละครต่างก็มีมุมมองที่น่าสนใจนอกจากตัวเอกและการใช้ชีวิตที่พัวพันกันไปมาจนแทบจะยุ่งเหยิง ประเด็นเรื่องอาจจะไม่ได้ใหม่หรือกล้าพังกรอบอย่างที่คาดหวังไว้ว่าจะกล้าเล่น LGBTQ+ มากกว่านี้

กลายเป็นแค่ส่วนประกอบย่อยของเรื่องเท่านั้น เพราะความจริงมันคือซีรีส์ตีแผ่ความเน่าเฟะของสังคมชนชั้นสูงที่พร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมาย ผ่านตัวละครเจ้าชายหนุ่มที่ยังมีอะไรรอเขาอีกมากมาย และมันคงไม่จบแค่นี้ แม้ว่าซีรีส์อาจจะจบแค่ซีซั่นเดียว แต่ความเป็นไปได้ของเรื่องราวก็คงเหมือนชีวิตจริงที่ยังคงต้องค้นหาต่อไป เหมือนกับเราที่ดูหนังแล้วคิดว่าตัวละครทำไมไม่ทำแบบนั้น งั้นก็ลองถามตัวเองว่าถ้าเจอกับตัว จะสามารถรับมือได้อย่างเจ้าชายคนนี้หรือไม่

Young Royals นับเป็นว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์ LGBTQ+ ใหม่ประจำปี 2021 ของ Netflix ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากแฟนๆ ทั่วโลก ทันทีที่ปล่อยออกมาช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดก็มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้วว่าซีซัน 2 ของซีรีส์ประเทศสวีเดนเรื่องนี้เตรียมฉายในปี 2022

 

 

เมื่อคืนที่ผ่าน (22 กันยายน) ทางอินสตาแกรมเพจ ได้โพสต์วิดีโอที่เหล่านักแสดงหลักของเรื่อง Edvin Ryding, Omar Rudberg, Malte Gårdinger, Frida Argento และ Nikita Uggla ต่างขอบคุณสำหรับการสนับสนุนเรื่อง Young Royals พร้อมเผยช่วงท้ายว่าทาง Netflix ได้ไฟเขียวให้สร้างภาคต่อ

สำหรับ Young Royals ซีซัน 1 มีทั้งหมด 6 ตอน ผลิตโดย Lisa Ambjörn, Lars Beckung และ Camilla Holter เล่าถึงเรื่องราวของเจ้าชายวิลเฮ็ล์ม (แสดงโดย Edvin Ryding) ลูกชายคนเล็กวัย 16 ปีของราชวงค์สวีเดน ได้ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำชื่อ Hillerska เพื่อไปดัดนิสัยและหลีกหนีเหตุการณ์ข่าวฉาวที่เกิดขึ้น ณ สตอกโฮล์ม เมืองหลวง โดยต่อมาทางเจ้าชายวิลเฮ็ล์มก็เริ่มสานสัมพันธ์และตกหลุมรักกับเพื่อนชื่อ Simon (แสดงโดย Omar Rudberg) แต่ก็เกิดเหตุการณ์ที่ฉาวยิ่งกว่าเดิม เมื่อรุ่นพี่ชื่อ August (แสดงโดย Malte Gårdinger) ได้แอบถ่ายคลิปของทั้งคู่ขณะทำกิจกรรมอยู่ในห้องนอนด้วยกัน

Young Royals นับเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เจาะกลุ่มวัยรุ่นของ Netflix ที่มีการโฟกัสและพัฒนาตัวละคร LGBTQ+ ได้อย่างมีชั้นเชิง เหมือนกับ Sex Education และ Elite เป็นต้น โดยเรื่องนี้ก็ได้เรตติ้งสูงถึง 99% จากผู้ชมบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes พร้อมได้คำชื่นชมว่าถึงแม้จะเป็นเรื่องแต่งขึ้นมา แต่ตัวละครก็ถือว่ามีความหลากหลาย และภาพลักษณ์ดูไม่ปรุงแต่งให้ดูเพอร์เฟกต์จนเกินไป อย่างเช่นแต่ละนักแสดงก็มีการแต่งหน้าน้อยมาก และบนใบหน้าเราก็ยังเห็นฝ้าและสิว ซึ่งต่างกับเรื่องอย่าง Gossip Girl ที่หน้าตาทุกคนต้องดูเป๊ะทุกองศา แถมเนื้อหานอกเหนือจากเรื่องความรักแล้ว ก็มีการแตะประเด็นอื่นๆ เช่น เรื่องสังคมชนชั้น โรคแอสเพอร์เกอร์ และความกดดันของวัยรุ่นทั้งจากเพื่อนฝูงและครอบครัว ดูหนังฟรี