สวัสดีค่ะผู้อ่านที่น่ารักทุกคน วันนี้ผู้เขียนขออนุญาติมาแนะนำภาพยนต์แนว 18+ กันบ้างนะคะ 5555555 รีวิวหนัง love and leashes รักจูงรัก แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นผู้เขียนอยากให้ให้ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านได้มาทำความเข้าใจของความหมายของคำว่า BDSM
กันก่อนนะคะ เพื่อที่จะได้อินไปกับอรรถรสของภาพยนต์เรื่องนี้กัน BDSM มันหมายถึงกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ผู้ถูกกระทำหรือ ผู้ถูกกระทำนั้นเกิดความรู้สึกที่ดีหรือมีความสุขจากการทรมานนั้นเอง
หรือเราจะเรียกอีกอย่างนึงว่าการมีความสุขจากการเจ็บปวด เหมือนอย่างที่เราเคยเห็นในข่าวสารทั่วไปที่คนอกหักหรือ ผิดหวัง เวลาเค้าได้ทำร้ายตัวเองแล้วเค้ามีความสุขกับการเจ็บปวดนั้นที่เค้าได้รับแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนี้มันคือรสนิยมเรื่องเพศ
มันคือความยินยอมที่เกิดจากทางทั้งสองฝ่ายนะคะ โดยคนเรานั้นจะมีรสนิยมไม่เหมือนกัน บางคนก็ชอบรับบทเป็นทาส เป็นผู้ที่ให้การตามใจ หรือบางคนชอบรับบทเป็นนาย
หรือสัตว์เลี้ยงชอบอ้อนหรือ ออกคำสั่งกับอีกฝ่ายนั้นเองค่ะ ผู้อ่านพอจะเข้าใจความหมายคร่าวๆ กันแล้วใช่มั้ยละคะ ถ้าผู้อ่านเข้าใจกันแล้วเราไปอ่านรีวิวเรื่อง love and leashes รักจูงรัก กันเลยค่ะ มาอินไปพร้อมๆกันว่ามันจะสนุกหรือตื่นเต้นมากแค่ไหน ตามมาที่ลิ้งรีวิวด้านล่างนี้กันได้เลยค่ะ
รีวิวหนัง love and leashes รักจูงรัก นักแสดงนำตีบทแตก
รีวิวหนังใหม่ Netflix สำหรับนักแสดงนำอย่าง ซอฮยอน และ อีจุนยอง บอกได้เลยว่าตีบทแตกขั้นสุด ทำให้ดูไปด้วยวี๊ดไปด้วยบ่อยมาก ซอฮยอน รับบทเป็น จุงจีวู พนักงานหญิงที่แข็งแกร่งที่สุดมีบุคลิกและ มุมมองทัศนคติที่ดีมากๆ
และ รับบทเป็นนายท่านของจองจีฮู ในเรื่องอีกด้วย และในส่วนของ อีจุนยอง ที่รับบทเป็น จองจีฮู เป็นรองผู้จัดการสุดหล่อในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีรสนิยมทางเพศค่อนข้างแปลก เป็นคนชอบหาความสุขเกี่ยวกับความเจ็บปวด
และ ค่อนข้างมีแผลใหญ่สำหรับเรื่องของความรัก เรื่องนี้จะเป็นเรื่องเล่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง ความรักกับรสนิยมส่วนตัวบุคคล ที่ค่อนข้างชอบเสพติดความเจ็บปวดของ จองจีฮู
และ เมื่อสาวร่วมงานในออฟฟิศคนนึง ที่ดันเผลอหยิบกล่องพัสดุของ จองจีฮูไป ทำให้เธอได้รู้ความลับเกี่ยวกับการที่ จองจีฮู มีรสนิยมการร่วมเพศเเปลก ๆ จนในท้ายที่สุดเค้าได้ขอให้เธอมาเป็นนายท่านของเค้า จนมันเกิดเป็นเรื่องราวของความรัก
ที่ค่อนข้างจะเร่าร้อน และ เซ็กซี่ขยี้ใจไปเลย สำหรับเรื่องนี้นะคะค่อนข้างเดินเรื่องไวพอสมควร หลัก ๆ ก็จะค่อนข้างเกี่ยวกับ BDSM ที่เป็นความสัมพันธ์แบบคนหนึ่งอยู่เหนือกว่า และ ควบคุมเกมรักคอยสั่งการคนที่ด้อยกว่าไว้รับการสั่งการอีกที หรือเราจะเรียกว่านายหญิงกับทาสก็ได้
ซึ่งมีการหยิบยกเรื่องของรสนิยม ที่ยังไม่เป็นที่ยอมรับในสังคมปัจจุบันมากนัก จะมีแค่บางกลุ่มที่ชื่นชอบ และ ทำความเข้าใจกับมันแล้วเท่านั้น อย่างเช่นฉากในช่วงท้าย ๆ ของความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ ได้ถูกเปิดเผย เลยทำให้พนักงานทั้งออฟฟิศทุกคนต่างพูดถึง และ มองเป็นเรื่องรวที่มันไม่ดี แต่โดยส่วนตัวของผู้เขียนว่าก็เป็นเรื่องความชอบส่วนบุคคลมากกว่าเนอะ และรวมไปถึงมุมมองด้านความรัก ของคนที่มีรสนิยมแบบพระเอก
แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นข้อที่ดี และ ข้อที่ไม่ดีให้เราได้เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งสำหรับผู้เขียนเองก็ค่อนข้างเปิดโลกมาก ๆ เลยละค่ะ เพราะมันพูดถึงความชอบส่วนบุคคล ซึ่งหากเราได้พบเจอกับคนที่มีลักษณะเหมือนกัน แบบเดียวกัน มันก็สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีได้เช่นกัน โดยจะไม่ถูกมองเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ใดใด การวางตัวละคร บทบาทเรื่อง คือปังมากค่ะ ประทับใจมากด้วยเช่นกัน ดูหนัง4k
ภาพแสงสี มันสวยมากก
ส่วนตัวต้องบอกว่าสีของฉากภาพต่าง ๆ ผู้เขียนให้คะแนนความดีของภาพ แสง สี เสียงเพิ่ม สีภาพที่มีโทนอ่อนมันทำให้ดูมีความสวยงามทำให้ภาพดูเซ็กซี่ และ น่าดึงดูด มากขึ้น และ ด้วยอุปกรณ์ประกอบฉาก โซ่ แซ่ กุญแจมือ เหมือนฉากที่เจ้าของร้านถูกคู่เดทหลอกว่าเป็นดอม และ ทำให้มีการต่อสู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เกิดขึ้น แต่สุดท้ายก็รอด และ พระเอกก็เอานางเอกออกมาได้
ผู้เขียนคิดว่านี่เป็นจัดเต็มแบบสมบูรณ์มากที่สุดในเรื่องแล้วละค่ะ และ มีอีกฉากที่ชอบคือ ฉากที่ทั้งคู่ไปเดินเที่ยวที่สวนพฤกษ์ชาติ เป็นเหมือนฉากที่คู่รัก เค้ามาเดินออกเดทกันจริง ๆ เลยค่ะ ฉากนี้น่ารักมากกกกก จนอยากให้เป็นแฟนกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย 555555 แต่จะบอกว่านางเอกของเรา นางก็แอบมีใจให้พระเอกอยู่นะคะ แต่พระเอกของเรานี้สิ ตัวดีเลยทำเอาคนดูใจหายไปตาม ๆ กัน
การแสดงเข้าขากันของทั้งสองคน
คือดี และดีมากๆ เลยละค่ะท่านผู้อ่านขา เพราะส่วนตัวคือชอบและติดตามผลงานทั้งพระนางคู่นี้อยู่แล้ว และพอเค้าได้มาเจอกันในเรื่องนี้มันยิ่งดีมากไปกว่าเดิมอีกค่ะ บทของทั้งคู่ส่งเสริมกันมาก เหมือนหยินหยางกันเลยทีเดียว
ยิ่งมองยิ่งดูก็ยิ่งหลง อีจุนยอง ในบทบาทของเค้าที่มีรสนิยมแตกต่าง ซึ่งเค้ามาสามารถถ่ายทอดการแสดงซีนอารมณ์ออกมาได้ดีเกินคาด เกิดกว่าที่เราคิดไว้อีกค่ะ ในบทบาทของพ่อหนุ่มออฟฟิศเป็นบุคลิคที่ค่อนข้างแปลกตาอยู่เหมือนกันนะคะ
แต่พระเอกของเราก็สามารถทำมันออกมาได้ดี และในส่วนของสาวซอฮยอน อย่างแรกที่จะอวยยศให้เลยนั้นก็คือ สวยมากกกกกกกกกก ยิ่งรับบทเป็นคนคุมเกมคุมบ่าว เป็นนายหญิงยิ่งสวยมีเสน่ห์ไปใหญ่เลยค่ะ และฉากที่คิดว่ามันสุดยอดมากๆสำหรับผู้เขียนเลยนั้นก็คือฉากที่จุงจีวูนึกภาพว่าจองจีฮูกำลังสัมผัสขาของเธอด้วยการไล่จูบตั้งแต่ปลายเท้าจนมาถึงต้นขา เป็นฉากที่เห็นแล้วก็แอบตกใจและสยิวกิ้วอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวเชียวค่ะท่านผู้อ่าน 5555555
ความน่าติดตามของภาพยนต์
ในเรื่องของมุมมองในเรื่องความชอบหรือรสนิยมทางเพศหรือความสัมพันธ์และความรักของตัวเองนั้น จะมีแง่คิดที่ดีและความสนุกเร้าใจให้เราบรรเทิงอยู่เสมอ รวมไปถึงฝีมือการแสดงของนักแสดงที่เล่นออกมาได้เข้าถึงบทบาท ทำออกมาได้ดีมาก มีความเข้าใจง่าย และเคมีของทั้งสองนักแสดงนำก็ทำออกมาได้ดีด้วยเช่นกัน
หากท่านผู้อ่านที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วกำลังลังเลหรือยังไม่มีลิสต์ของภาพยนตร์หรือซีรีย์ที่กำลังจะดูนั้น ผู้เขียนแนะนำว่าต้องไปดูให้ได้เลยค่ะ มันเปิดโลกมากสำหรับคนที่ยังไม่รู้จักภาพยนตร์แนวนี้ ถึงแม้เค้าจะนำเสนอเรื่องของรสนิยมที่มันมีมานานมากแล้ว แต่ผู้เขียนเชื่อค่ะว่าผู้อ่านทุกคนจะได้เห็นมุมมองใหม่ๆของความสัมพันธ์ที่มันมากก่าการแสวงหาความสุขจากแค่ความเจ็บปวด
รีวิวหนัง love and leashes รักจูงรัก เนื้อหาสำคัญของเรื่อง
BDSM มีภาพลักษณ์เชิงลบในสื่อมายาวนาน เช่นเดียวกับละครไทย คุณจะได้พบกับตัวร้ายที่ถืออุปกรณ์ประกอบฉาก เช่น โซ่ แส้ กุญแจมือ และการข่มขืน การเน้นถึงการหักมุมของตัวละครยังปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง “Fifty Shades of Grey” ที่นำเสนอเรื่องแนวซาดิสม์ ผ่านความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกหนุ่มสุดหล่อ “คริสเตียน”
ที่รักเรื่องเพศสัมพันธ์ กับตัวละครเอกหญิง “อนาสตาเซีย” ที่ตกหลุมรักเขา เข้าสู่ความสัมพันธ์นี้ ด้วยการเป็นฟอยล์ของเขา มันถูกวิพากษ์วิจารณ์เพราะนางเอกตกลงที่จะมีความสัมพันธ์เช่นนี้ แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจที่จะเป็นคำบรรยายก็ตาม เธอยอมให้เขาทำอะไรกับร่างกายของเธอ เพราะเธอกลัวที่จะสูญเสียเขาไปหรือกลัวที่จะพูด เธอจึงอดทนเกินขีดจำกัดของเธอหลายครั้ง และหลายครั้งจบลงด้วยน้ำตา
บทความในมหาสมุทรแอตแลนติกนี้ เป็นหนึ่งในบทความหลายเรื่องในเรื่องนี้ โดยชี้ให้เห็นว่าในสังคมที่ชอบกิจกรรมทางเพศที่ถูกมองว่าเบี่ยงเบน (ชุมชนประหลาด) ผู้คนจะไม่มีเซ็กส์แบบนี้ เพราะพวกเขามักจะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด
นอกจากนี้ ในซีรีส์ 50 Shades of Grey พวกเขามักจะเสนอเซ็กส์แบบ “วานิลลา” หรือเซ็กส์ที่เป็นไปตามบรรทัดฐานทางเพศที่หลงใหลมากกว่า ในที่สุด Christian และ Anastasia ก็ตัดความสัมพันธ์กับ D&S
และ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไป เพราะความรักที่เขามีต่อซาดิสม์นั้นเกิดจากความบอบช้ำทางจิตใจในวัยเด็ก ต่างจาก “Love and Leashes” ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ พวกเขาจงใจตัดพื้นหลังของจีฮู เพราะจีฮูขาดความอบอุ่นหรือ เข้าใจจากแม่ เพราะคอยยุ่งอยู่กับการดูแลน้องชายก็ปล่อยให้เขาดูแลตัวเอง
และเติบโตขึ้นมาเองด้วยตัวเขาเอง ซึ่งตอกย้ำเจตนารมณ์ของหนัง ที่จะนำเสนอแนว BDSM เป็นเพียงรสนิยมทางเพศเท่านั้น เขาชอบที่จะรู้สึกว่าแม้จะเจ็บปวดทางร่างกาย แต่ “มันแค่ทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา”
และบางครั้งก็ช่วยรักษาเขาได้ด้วยซ้ำ และ นอกเหนือจากการสร้างความเข้าใจในเรื่องเพศทางเลือกแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังสำรวจความยากลำบากที่ ผู้ให้บริการทางเพศต้องเผชิญ เช่น การขาดความเข้าใจในความยินยอมของคู่รัก
ดูว่าคุณสามารถทำอะไรกับการศึกษาเรื่องนี้ได้ เพื่อนนางเอกประเภทไหนที่เผชิญหน้าหรือ ถูกกีดกันทางสังคม และ ถึงแม้พวกเขาไม่ได้สร้างปัญหาให้ใคร แต่ก็มีประเด็นทางสังคมแทรกอยู่ในนั้นด้วยเช่นกัน
บทข้อสรุป
ความรักและ พันธนาการสะท้อนให้เห็นว่าสำหรับบางคน ซาดิสม์อาจเป็นรสนิยมที่เหมือนกับการที่คุณ ไปนวดผ่อนคลาย เหมือนกับการที่คุณไปเลือกทานอาหารที่คุณชื่นชอบ ไปใช้เวลากับคนที่พอใจเท่านั้น และ สิ่งที่หนังเรื่องนี้สื่อได้ดีที่สุดก็คือไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์แบบไหนก็ตามสิ่งสำคัญที่สุด คือการตกลงกัน (Consent) จนจบหนังคนทั้งสองก็แต่งงานกันโดย
ตกลงที่จะรักษาสถานะของดอม ตกลงที่จะอยู่ด้วยกัน ซับคู่ขนานการไปกับความสัมพันธ์ที่โรแมนติก และ ภาพยนตร์เน้นย้ำว่าตราบเท่าที่ทั้งสองฝ่ายมีความยินยอม ทุกคนรอบตัวคุณควรเรียนรู้ ที่จะยอมรับรูปแบบความสัมพันธ์ที่หลากหลายของผู้คนด้วยเฉกเช่นเดียวกันนะคะ